เสียวไส้ไปตามๆกันสำหรับแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ที่สุดท้ายแล้ว เอริค เทน ฮาก สามารถพาทีมประเดิมซีซั่นใหม่ได้ด้วยการเปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด เฉือนชนะทีมรองบ่อนอย่าง วูล์ฟส์ ไปได้แบบหืดจับ 1-0 เมื่อวันจันทร์ที่ 14 ส.ค. โดยมี ราฟาแอล วาราน ปราการหลังเป็นฮีโร่โขกประตูโทนในนาทีที่ 76
อย่างไรก็ดี หลังได้ประตูนำ ผีแดง ต้องอาศัย อ็องเดร โอนาน่า ช่วยเซฟลูกอันตรายติดๆกันหลายครั้งพาทีมคว้าสามแต้มไปได้แบบหายใจไม่ทั่วท้องซึ่งแสดงให้เห็นว่าแชมป์ คาราบาวคัพ ยังต้องปรับปรุงในอีกหลายๆจุดหากต้องการประสบความสำเร็จมากกว่าซีซั่นที่ผ่านมา
1. ผีแดงชุดใหญ่ไฟกระพริบ (แม็กไกวร์ ยังอยู่)
เทน ฮาก กุนซือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถส่งทีมชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้ในเกมเปิดซีซั่น พรีเมียร์ลีก นัดเปิดบ้านต้อนรับ วูล์ฟส์ ซึ่งทั้งคู่เป็นสองทีมสุดท้ายที่ถึงคิวต้องออกสตาร์ตเกมแรกของฤดูกาลใหม่
ฝ่ายเจ้าบ้าน จากโผ 11 คนแรกชี้ให้เห็นว่าพวกเขามีขุมกำลังที่ลงตัวแล้ว และเป็นไปตามความคาดหมายทุกตำแหน่ง เพียงแต่เกมนี้ เทน ฮาก เลือกส่ง อารอน วาน บิสซาก้า ลงเล่นเป็นแบ็คขวาตัวจริงก่อนหน้า ดีโอโก้ ดาโลต์ ที่นั่งสำรอง
ขณะเดียวกัน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อดีตกัปตัน และ ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวารมือสองที่ยังไม่ได้ย้ายสังกัดต่างก็มีชื่อนั่งอยู่ข้างสนามด้วยกันทั้งคู่ รวมถึง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ขณะที่ อ็องเดร โอนาน่า กับ เมสัน เมาท์ สองนักเตะใหม่ของ ปีศาจแดง ได้ประเดิมสนามตามคาด ยกเว้น ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่ยังไม่ฟิต
2. หมาป่าประเดิมนายใหม่
วูล์ฟส์ บุกมาเยือน โรงละครแห่งความฝัน แบบพลิกความคาดหมายเนื่องจากพวกเขามีการเปลี่ยนตัวกุนซือคนใหม่อย่างกระทันหันโดย แกรี่ โอนีล อดีตนายใหญ่ทีม บอร์นมัธ ถูกคว้ามาทำหน้าที่แทน จูเลน โลเปเตกี ที่ตกลงแยกทางกับสโมสรหลังผิดใจกับบอร์ดด้านการเสริมทัพ
อย่างไรก็ดี โอนีล ตัดสินใจใช้งาน มาเตอุส คุนย่า ออกสตาร์ตแม้เจ้าตัวจะไม่ถึงกับฟิตเต็มร้อย ขณะที่ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ กองหลังไอริชที่เพิ่งย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด เมื่อช่วงซัมเมอร์กลับมาค้าแข้งกับสโมสรเป็นคำรบสองมีชื่อนั่งเป็นตัวสำรอง
3. ชัยชนะที่แสนขี้เหร่
ถือเป็นเกมเปิดซีซั่นที่ไม่สวยเอาซะเลยสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งๆที่พวกเขาได้เล่นในรังตัวเองแท้ๆ แต่นักเตะหลายรายโชว์ฟอร์มได้ไม่น่าประทับใจ ผิดกับ วูล์ฟส์ ในยุคของกุนซือใหม่ที่เล่นได้อย่างน่าเชียร์มากกว่าซะอีก
แม้สุดท้ายแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้เฮจากลูกโขกของ วาราน ที่ วาน บิสซาก้า กระดกมาให้จากกราบขวา แต่หากเป็นทีมอื่นที่ไม่ใช่ หมาป่า เจ้าบ้านน่าจะเสียประตูคืนหลายหนด้วยซ้ำ ขณะที่ต้องชมความนิ่งของ โอนาน่า ด้วยเหมือนกันที่เซฟลูกหวาดเสียวได้หลายหนรักษาสกอร์นำให้ทีมได้สำเร็จ
จากรูปเกมในครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด เหนือกว่าก็จริง แต่ไม่ได้มีพิษสงอะไรจากการครองบอลได้มากกว่า 61:39% และได้ยิงมากกว่า 8:5 ครั้ง เพียงแต่เข้ากรอบครั้งเดียว ขณะที่ วูล์ฟส์ ส่งบอลเข้ากรอบไม่สำเร็จ
ครั้นเข้าครึ่งหลัง แทนที่เจ้าบ้านจะพลิกสถานการณ์ได้ดีขึ้น กลับกลายเป็นว่า วูล์ฟส์ เล่นได้อย่างมีอนาคตมากกว่าซะงั้นเนื่องจากครบ 90 นาทีเป็นทีมเยือนที่ได้ส่องประตูมากกว่าถึง 23:15 ครั้ง และเข้ากรอบมากกว่า 6:3 ครั้ง แถมตีตื้นในด้านการครองบอลได้อย่างน่ายกนิ้วให้โดยเป็นรอง ผีแดง เหลือแค่ 51:49% แต่สุดท้ายแล้วเป็นเจ้าถิ่นที่ได้สามแต้มไปครองแบบน่าโห่ใส่ไม่น้อย
สำหรับโอกาสคลำเป้าของ วูล์ฟส์ 23 ครั้งในเกมนี้ ปรากฏว่านี่คือสถิติที่ดีที่สุดเป็นอันดับสองในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ทีมเยือนบุกมาเหยียบ โอลด์ แทรฟฟอร์ด นับตั้งแต่มีการจดบันทึกสถิติกันมาในซีซั่น 2003/04 โดยมี เชลซี เป็นทีมเดียวที่เหนือกว่าจากตัวเลข 25 ครั้งเมื่อเดือนพ.ย.2005 แต่ลงเอยแล้ว สิงห์บลูส์ บุกมาพ่ายด้วยสกอร์ 1-0 เช่นกัน
ด้าน โอนาน่า เป็นนายทวาร แอฟริกัน รายที่ห้าที่ค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก ต่อจาก บรู๊ซ กร็อบเบลาร์ (ซิมบับเว) , ริชาร์ด คิงสัน (กาน่า) , คาร์ล อิเคเม่ (ไนจีเรีย) และ เอดูอาร์ เมนดี้ (เซเนกัล) แถมเป็นมือกาวรายที่ 11 ที่เก็บคลีนชีตได้ในเกมประเดิมสนาม พรีเมียร์ลีก ให้กับ ผีแดง
ส่วน วาน บิสซาก้า ที่ตักบอลให้ วาราน โหม่งพา แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าสามแต้มหยุดสถิติการไม่มีส่วนร่วมในการทำประตูในเกมลีกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาไว้ที่ 40 นัดเนื่องจากนัดล่าสุดที่เขาแอสซิสต์ได้เป็นเกมแดงเดือดแมตช์บู๊กับ ลิเวอร์พูล ในเดือนพ.ค.2021
4. ใครคือ โลเปเตกี?
จากฟอร์มการเล่นของ วูล์ฟส์ ตลอด 90 นาทีที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้องบอกว่าผิดความคาดหมายไม่น้อยเนื่องจากพวกเขาเพิ่งเปลี่ยนตัวกุนซือคนใหม่ซึ่งประเดิมคุมทีมเกมแรกก็เจอโจทย์ยากทันทีที่ต้องพาทีมบุกมาเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์ คาราบาวคัพ
แต่จากที่เห็น ทีม หมาป่า เปิดเกมบุกใส่ ปีศาจแดง ได้อย่างน่าเกรมขามโดยเฉพาะในช่วงท้ายหลังพวกเขาเป็นฝ่ายเสียประตูก่อน และน่าจะได้ประตูคืนหลายหน แต่เป็น โอนาน่า ที่เซฟช่วยเจ้าบ้านเอาไว้ได้แบบติดๆกันหลายจังหวะ
ลองเป็นอย่างนี้ แม้จะแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพียงแต่น่าเสียดายเท่านั้นสำหรับ วูล์ฟส์ และแค่เกมแรกในยุคของกุนซือคนใหม่ ลองพวกเขาเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้ แฟนบอล หมาป่า ก็น่าจะลืมกันไปแล้วว่า โลเปเตกี คือใคร เพียงแต่พวกเขาจะยืนระยะโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าดูชมเยี่ยงนี้เสมอต้นเสมอปลายหรือไม่เท่านั้นภายใต้การกุมบังเหียนของอดีตกุนซือทีม บอร์นมัธ
5. หมาป่ามีอนาคต แต่ต้องปรับปรุง
ถือเป็นเรื่องน่าช็อกอย่างแรงหากจะบอกว่ารายชื่อ 11 นักเตะตัวจริงของ วูล์ฟส์ เกมนี้ไม่มีใครเลยสักคนที่ซีซั่นก่อนเช็กบิลในทุกรายการตลอดทั้งซีซั่นที่ผ่านมาได้เกินกว่าสองประตูไม่ว่าจะเป็นดาวดังอย่าง มาเตอุส นูนเญซ , เคร็ก ดอว์สัน , มาริโอ เลอมิน่า , ชูเอา โกเมซ , ปาโบล ซาราเบีย และ มาเตอุส คุนย่า
ฉะนั้นแล้ว ความคมในการจบสกอร์ที่แสนทื่อของ วูล์ฟส์ นี้เองที่ โอนีล ต้องแก้ไขให้ได้เนื่องจากเมื่อซีซั่นก่อน หมาป่า เป็นทีมที่ยิงประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ตลอด 38 นัดได้น้อยที่สุด 31 ลูกเท่านั้นซึ่งแย่กว่าสามทีมตกชั้นอย่าง เลสเตอร์ , ลีดส์ และ เซาธ์แฮมป์ตัน ด้วยซ้ำ
จนมาวันนี้ พวกเขาก็ยังแสดงให้เห็นถึงปัญหาเดิมๆที่แม้จะมีโอกาสพังประตู แมนฯ ยูไนเต็ด หลายครั้ง แต่ก็ส่งบอลเข้ากรอบไม่สำเร็จ และแพ้ไปอย่างน่าเขกกระโหลกตัวเอง
ถึงกระนั้นก็เถอะ หากจะเลือกมองแง่ดีจากความปราชัยเกมนี้ ทีม หมาป่า สามารถสร้างโอกาสยิงประตู แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มากถึง 23 ครั้งซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อไม่น้อย และไม่น่าจะเคยเกิดขึ้นในยุคที่ โลเปเตกี คุมทีม เพียงแต่ถ้า วูล์ฟส์ สามารถแก้ไขความฝืดตรงนี้ไปได้ พวกเขาจะกลายเป็นทีมที่อันตรายอีกทีมของ พรีเมียร์ลีก เนื่องจากในเกมฟุตบอลชัยชนะตัดสินกันที่จำนวนประตู ไม่ใช่การทิ้งขว้างโอกาสทองซึ่งเกมนี้เหตุที่ทีมของ เทน ฮาก กำชัยไปได้ก็เพราะการเปลี่ยนโอกาสเพียงน้อยนิดให้เป็นประตูได้สำเร็จ ประกอบกับการมี โอนาน่า เป็นที่พึ่งเช่นกันซึ่งถ้าหากว่า โอนีล แก้ไขจุดบกพร่องตรงนี้ให้กับทีมได้ หมาป่า ก็ไม่น่าจะมีสถิติที่เลวร้ายซ้ำรอยเหมือนซีซั่นที่ผ่านมา