แต้มแรกของซีซั่น !

เชลซีโค้ชใหม่ ส่งนักเตะใหม่ 4 คน ในระบบ

ลิเวอร์พูล โค้ชเก่า ส่งนักเตะใหม่ 2 คนลงสนาม ในยุคของการถ่ายเลือดแดนกลางและชุดตัวรุกของพวกเขา

เอาเป็นว่าสิ่งที่ได้เห็นจาก เดอะ บริดจ์ นะครับ

1 แทกติก 3-5-2 vs 4-3-3

พอช เลือกส่ง แอกเซล ดิซาซี ที่ดึงมาจากโมนาโก ยืนกับ ติอาโก ซิลวา และ เด็กสร้าง โคลวิล แชมป์ยูโร 21 ปี วิงแบกสองฝั่งคู่เดิม รีซ เจมส์ ในฐานะกัปตันทีม และ เบน ชิลเวลล์

แดนกลาง ชุควูเมก้า  บวกกับ คอร์เนอร์ กัลลาเกอร์ และ เอนโซ เฟร์นานเดส 

หน้าเป้า ไม่มี คริสโตเฟอร์ เอนคุนคู ที่ผ่าตัด ต้องใช้ นิโกลาส แจ๊คสัน ที่ช่วงอุ่นเครื่องใช้ได้ เพราะมีความเร็วแบบหน้าเป้า โดยเล่นกับ ราฮีม สเตอริง 

ส่วนหงส์แดง แบ๊กโฟร์ ชุดเดิม แดนกลางสามคน เลือก อเล็กซ์ แม็ค อลิสเตอร์ เล่นเบอร์หก ส่วน โดมินิก โซโบสไล และ โคดี กัคโป เป็น "ดับเบิล8"  โซโบสไล ฝั่งขวา ส่วน กัคโป รับพื้นที่ฝั่งซ้ายของแดนกลาง หน้าสามคนใช้ โม, โชต้า และ ดิอาส

ถ้าบุก เทรนต์ ขยับไปเป็น อินเวิร์ต มิดฟิลด์ กับ แม็กก้า ถ้ารับกลับมายืนแบ๊กโฟร์ 

2 เชลซีเล่นด้านข้างดี

รีส เจมส์ กับ ราฮีม สเตอริง ทางฝั่งขวา เล่นงานพื้นที่ทางซ้ายฝั่ง ร็อบโบ้ ที่ ตัวช่วยแทบไม่มี กัคโป ยืนมิดฟิลด์ ฝั่งนั้นหลายครั้งลงไปช่วยสอดซ้อนไม่ทัน ทำให้ ราฮีม กับ เจมส์ เล่นกันสนุกสองคน แล้วโจมตี เข้ามากดดันกรอบโทษหงส์ได้อยู่ 

3 ปัญหาเกมรับหงส์

นอกจากช้าแล้ว จังหวะสกัดบอลจากกรอบเขตโทษ โดยเฉพาะการโหม่งนั้น ทำได้ไม่ดีนัก เคลียร์ออกมาไม่ขาด ตำแหน่งการยืนดูยังสับสน ประตูที่เสียให้ แจ๊คสัน ชัดเจน มีกองหลังหงส์ในเขตโทษ 3 คน นักเตะเชลซี 5 คน บอลสองที่โหม่งเข้ามา จึงตกแทบเท้า ดิซาซี่ ขนาดยิงไม่ดี แต่มันเผาขนแล้ว...จังหวะนั้น เทรนต์ ก็เข้าไม่ทัน โกนาเต้ ก็หายไป 

จริงๆ ถ้า แจ๊คสัน คมๆหน่อย น่าจะเป็นฮีโรนำชัยให้ เชลซี ได้เลย ถือว่าเล่นพอใช้ได้เลย

4 เกมเพรสซิงหงส์ไม่ดุ

หลายๆจังหวะพยายามเข้าไปเพรส แต่ นักเตะเชลซี แกะออกมาได้ ง่ายๆ แล้วเปลี่ยนเป็นรุกเร็ว นอกจากเพรสไม่พร้อมกันแล้ว ยังขาดความดุดัน ยิ่งแดนกลางเป็นรองชัดเจน กระทั่งครึ่งหลัง เจเค ต้องเปลี่ยน เอา เคอร์ติส โจนส์ ลงมาแทน กัคโป จนได้

5 เกมรุกหงส์ไม่ค่อยไหลลื่น

นับจากโดนเชลซีตีเสมอ 1-1 ในครึ่งแรก เกมรุกหงส์ดูห่างไกลจาก เขตโทษ ซานเชส กลายเป็นบอลที่ต้องพยายามไล่ตามเกมเชลซี ที่เล่นด้านข้างได้ดี ด้วย และแดนกลางเริ่มคุมพื้นที่ ครองบอลได้มากกว่า โดยเฉพาะ คอร์เนอร์ กัลลาเกอร์ ที่ตัดบอลได้บ่อยครั้ง 

ครึ่งหลังชัดเจนเลย โอกาสลุ้นมีช่วงแรก พอเวลาผ่านไปกลายเป็นเกมของเชลซี แทบหาจังหวะเข้าแดนสามเชลซี ไม่ค่อยได้ เสียบอลแดนบนบ้าง แดนกลางบ้าง บอลกลับมาเป็นของเชลซี

การร่วมเล่นกันในเกมรุกแทบไม่มี ยิ่งเปลี่ยน ดาร์วิน นูนเญส ลงมา โอกาสกดดันกองหลังเชลซี ทำได้ยากมากขึ้น 

6 เบอร์หกหงส์ สอบผ่าน

 ถ้าไม่สามารถซื้อใครมาเล่นในตำแหน่งนี้ได้ จำต้องใช้ชุดที่มีอยู่ แม็กก้า ก็เป็นทางเลือกในรูปแบบนี้ของ เจเค ได้ ผลสอบถือว่าผ่าน เขาเล่นบอลง่าย และมีส่วนกับประตูแรกเมื่อเปิดบอลออกข้างให้ โม ซาลาห์ ก่อนแทงลึกไปเสาสองให้ ดิอาส สไลด์บอลเข้าประตู 

ส่วนที่ดูว่ายังไม่ลงลอค คือเบอร์ 8 ในส่วนของ กัคโป ที่ต้องช่วยเกมรับฝั่ง ร็อบโบ้ โดยเฉพาะเมื่อเติมเกมรุกแล้วเสียบอลข้างบน โดนโจมตี กลับมา ว่างโล่งโจ้ง ทำให้ ร็อบโบ้ เจอ สถานการณ์ 2 ต่อ 1 บ่อยครั้ง ถ้าจะใช้ กัคโป จริงๆ น่าจะมีปัญหาละครับ ดูยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ โดยเฉพาะการช่วยเกมรับ ด้าน ร็อบโบ้  ส่วนโซโบสไล เอาตัวรอดได้

7 ซาลาห์ และ ดิอาส เล่นไม่ออก

นอกจากจังหวะแอสซิสต์ และเดี่ยวไปยิงล้ำหน้าครึ่งแรกแล้ว ซาลาห์ไม่มีส่วนร่วมกับเกมมากเท่าไหร่ กดดันด้านข้างของเชลซีไม่ได้ จนโดนเปลี่ยนออกนาทีที่ 76 โดยส่ง เบน โดค ลงไปแทนอีกต่างหาก เดินออกมาหน้ามุ่ย สีหน้าท่าทางไม่พอใจเอาซะเลย  

ส่วน ดิอาส เกมนี้ก็วูบวาบเป็นบางช่วง แต่ก็กดดันเกมรับเชลซีได้ไม่ดีนักในครึ่งหลัง 

ส่วนเด็กสองคนที่ลงมา โจนส์, เอลเลียตต์ พอใช้ได้ 

8 ติอาโก ซิลวา เอาอยู่

แม้วัยล่วงเลยมาถึงหลัก 38 ปีแล้ว แต่การคุมเด็ก โคลวิล และ ดิซาซี ในเกมใหญ่แบบนี้ ทำได้เนี้ยบ เล่นบอลสบาย ออกบอลง่ายๆ ตัวต่อตัวไม่ผ่าน ดักตัดบอลทำให้เกมรับเชลซี นิ่งเมื่อโดนบุกเข้ามา เขาสั่งยืนโซนได้ดี

ดูภาพรวมทีมหงส์เล่นเกมได้ไม่ต่อเนื่อง แถมเกมรุกก็ไม่ได้ไปกดดันคู่แข่งมากเท่าไหร่ การร่วมเล่นแดนสามนั้นมีน้อยมาก บางทีแมตช์ อุ่นเครื่องน้อยไป ก็มีส่วนแค่สองเกมใหญ่ๆ แล้วเข้าสู่ซีซั่นเลย เช่นเดียวกันกับเชลซี ก็ดูจะยังไม่ต่อเนื่องมากเท่าไหร่ แมตช์ ฟิตเนส ยังไม่ลงตัว แต่รูปเกม การเล่น พอใช้ได้

อย่างที่จั่วหัว...พึ่งเกมแรก

ยกประโยชน์ให้ก่อน หนึ่งแต้มที่ได้ก็ถือว่าไม่เสียหายทั้งสองฝั่ง 

เพียงแต่ถ้าถามว่าทีมไหนเล่นตามเกมตัวเองได้ดีกว่ากัน มีโอกาสลุ้นประตูมากกว่ากัน

ทีมนั้นคือเชลซี ครับ