ขณะที่ โดโมนิค โซโบซไล ย้อนความหลังถึงชีวิตตอนวัยเด็ก ใบหน้าของเขาก็เกิดรอยยิ้มที่มาจากก้นบึ้งในจิตใจ
เซแกชแฟเฮร์วาร์ ที่อยู่ห่างจาก บูดาเปสต์ เมืองหลวงประเทศฮังการี ราว ๆ 45 นาที คือจุดเริ่มต้นเส้นทางที่ทำให้ โซโบซไล พาตัวเองมายัง แอนฟิลด์
โซลต์ คุณพ่อของเขาเป็นแรงผลักดันทุกอย่างตั้งแต่เริ่มจนก่อให้เกิดดีลที่แพงที่สุดอันดับ 4 ของสโมสรลิเวอร์พูล ในเวลาต่อมา
.
.
.
ตอน โซโบซไล ยังเล็ก ๆ อยู่นั้น เวลาอยู่ที่บ้าน โซลต์ มักจะตั้งความท้าทายให้ลูกชายเสมอ
หนึ่งในความท้าทายคือการให้ โดมินิค เลี้ยงลูกฟุตบอลสลับไปมาระหว่างขวดน้ำที่ตั้งอยู่ทั่วห้อง
หาก โดมินิค เกิดทำขวดน้ำล้มแล้วล่ะก็ เขาต้องเริ่มเลี้ยงบอลใหม่ตั้งแต่ต้น
"เราทำอย่างนั้นกันในบ้าน เพราะบ้านของเราไม่มีสวน" ดาวเตะวัย 22 เผย
"ถ้าเกิดในขวดมันมีน้ำอยู่ด้วยน่ะมันก็เลี้ยงผ่านได้ง่ายกว่า แต่ถ้ามันเป็นขวดเปล่า ๆ มันจะยากขึ้นเยอะ และคุณพ่อของผมก็มักจะให้ผมต้องเลี้ยงผ่านขวดแบบเปล่า ๆ เกือบทุกครั้งเลย"
"ถ้ามันมีขวดไหนล้มลงผมก็ต้องเลี้ยงบอลต่อไปจนกว่าจะทำได้โดยที่ไม่มีขวดล้มลงเลย ผมต้องทำอย่างนั้นจนกว่ามันจะสมบูรณ์แบบ จากนั้นผมถึงจะไปทำอย่างอื่นได้!"
"ผมเริ่มเตะบอลตั้งแต่ตอนที่ผมเริ่มเดินได้ ครั้งแรกที่ผมลงไปในสนามพร้อมกับคุณพ่อของผม ผมมีอายุประมาณ 3 ขวบได้"
.
.
.
โซลต์ เคยเล่นบนลีกสูงสุด ฮังการี ก่อนผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอน แล้วในปี 2007 เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งอะคาเดมี่ โฟนิกซ์ โกลด์ ที่ตั้งอยู่ชานเมืองแถวบ้านเกิด
ซึ่งสถานที่แห่งนั้นเป็นที่ที่ โซโบซไล ได้ฝึกฝนความสามารถด้านฟุตบอลตั้งแต่ตอนอายุ 6 ขวบ
ด้วยความที่ต้องการเน้นย้ำให้ลูกชายพัฒนาด้านเทคนิค โซโบซไล จึงต้องซ้อมในสภาพที่ถือลูกกอล์ฟเอาไว้ทั้ง 2 มือเพื่อทำให้มั่นใจว่าตัวเองจะเรียนรู้วิธีการแย่งบอลกลับมาครองได้โดยไม่ต้องทำฟาวล์คนอื่น
"คือปกติแล้วถ้ามีคู่แข่งเลี้ยงบอลผ่านคุณ คุณก็มักจะอยากดึงเสื้อเขาไว้ใช่ไหมล่ะ แต่คุณพ่อของผมไม่อยากให้ผมทำอย่างนั้นเพราะมันจะเป็นการทำให้ทีมเสียฟาวล์" เขาอธิบาย
"เขาอยากทำให้มั่นใจว่าผมจะเติบโตมาโดยที่ไม่มีนิสัยแบบนั้น เขาเลยให้นักเตะแต่ละคนถือลูกกอล์ฟเอาไว้"
"เมื่อเป็นอย่างนั้นคุณก็จะไม่สามารถดึงใครได้ เขาทำเรื่องเพี้ยน ๆ หลายอย่าง แต่ผมก็ไม่อยากบอกทั้งหมดหรอกนะว่ามันมีอะไรบ้าง!"
วิถีแนวทางของคุณพ่อ โซโบซไล อาจดูประหลาด แต่มันก็เป็นสิ่งที่ช่วยเปิดเส้นทางอาชีพการค้าแข้งให้ลูกชายเหมือนกัน
ตอนที่ โฟนิกซ์ โกลด์ ชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ระดับเยาวชน โดยมีคู่แข่งชั้นนำร่วมโม่แข้งอย่าง เอฟซี บาเซิล และ บาเยิร์น มิวนิค.. ไม่นาน เหล่าบรรดาแมวมองก็แห่กันมาดูการเล่นของ โซโบซไล
เขาไต่เต้าติดทีมชาติฮังการีตั้งแต่ชุดรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปีมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งปัจจุบันได้รับชาติทัพ "แมกยาร์" ชุดใหญ่ไปแล้ว 32 เกม
การประสบความสำเร็จขั้นต้นกับการทดสอบที่ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ทำให้เขาตบเท้าเข้าสู่ทีมอะคาเดมี่อย่างถาวรเมื่อตอนอายุ 16 ปี
"ผมอยากเป็นนักฟุตบอลมาตลอด"
"แน่นอนล่ะว่ามีหลายต่อหลายครั้งที่มันยากลำบากมาก ๆ ที่คุณได้เห็นเพื่อน ๆ ต่างได้ออกไปปาร์ตี้หรือสนุกกับการใช้ชีวิต แต่ตัวคุณกลับต้องตื่นแต่เช้าแล้วไปสนามซ้อม"
"บางครั้งผมก็คิดว่า -ทำไมฉันต้องทำแบบนี้? ฉันอยากจะสนุกกับตัวเองเหมือนกัน- แต่พ่อของผมก็บอกกลับมาว่า -ไม่ แกสามารถสนุกกับเรื่องเหล่านั้นได้ในภายหลัง-"
"ซึ่งท่านก็พูดถูกนะ"
"ท่านมีอิทธิพลต่อชีวิตผมมากที่สุด เราทำทุกอย่างด้วยกัน ตอนเด็ก ๆ บางทีผู้คน 90 เปอร์เซ็นต์เติบโตขึ้นมาโดยใกล้ชิดกับคุณแม่ ตลอดเวลา
"แต่สำหรับผม คือคุณพ่อ"
"ผมจะเจอแม่ในตอนเช้า ตอนที่ท่านทำอาหารเช้าให้กับผม แล้วก็ช่วงเย็น ๆ เวลาผมซ้อมเสร็จแล้วกลับบ้าน จากนั้นก็เข้านอน"
ที่ ออสเตรีย ฝีเท้าของ โซโบซไล ก้าวหน้าอย่าวรวดเร็ว
และตอนอายุ 17 ปี เขาก็ได้ประเดิมทีมชุดใหญ่ให้กับ ซัลซ์บวร์ก โดยลงเล่นกับทีมชุดสอง นัดที่เจอ เอฟซี ไลเฟริ่ง
.
.
.
สมัยวัยรุ่น โซโบซไล ลงรอยสักด้วยคำพูดของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนใจเขาเรื่อยมาจนได้มาสืบทอดหมายเลข 8 บนสีเสื้อ ลิเวอร์พูล
แต่กว่าที่เขาจะได้รอยน้ำหมึกปักลงบนท่อนแขนนั้น โซโบซไล ต้องชนะการเดิมพันกับคุณพ่อให้ได้เสียก่อน
"ในฮังการีมันมีสุภาษิตบางอย่างอยู่ มันแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ยาก อารมณ์ประมาณว่า -พระผู้เป็นเจ้ามอบพรสวรรค์ให้คุณ แต่ถ้าคุณไม่ทำอะไรกับมันและไม่เสียสละอย่างหนักเพื่อมัน พรสวรรค์นั้นก็จะไร้ค่า-" โซโบซไล ตอบพร้อมกับชี้ให้เห็นรอยสักที่อยู่ตรงแขนซ้าย
"ผมชอบสุภาษิตนั้นมาก ๆ ผมอยากจะเอาประโยคนั้นมาทำเป็นรอยสักอยู่เสมอเพราะคุณพ่อของผมเองก็เอาบางสุภาษิตมาทำเป็นรอยสักเหมือนกัน"
"ซึ่งท่านก็ตอบว่า -ก็ได้ ไปหาประโยคที่ลูกอยากทำเป็นรอยสักมาสิ- และผมก็ตอบไปว่า -ผมเลือกเอาไว้แล้วฮะ เพราะงั้นมาเดิมพันกันดีกว่า!"
อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็น โซลต์ ที่ไม่ค่อยเหมือนใครจึงทำให้อะไร ๆ ไม่ง่ายขนาดนั้น
ซึ่งถือเป็นการปลูกฝังจิตวิญญาณของ โซโบซไล ในการเป็นนักแข่งขันมาตั้งแต่เด็กเป็นอย่างดี
"ใน ซัลซ์บวร์ก มันมีการทดสอบเกี่ยวกับการวิ่ง และบางคนก็ครองสถิติของที่อะคาเดมี่เอาไว้" โซโบซไล เล่าต่อ
"คุณพ่อของผมบอกกับผมว่า -ถ้าลูกอยากจะติดทีมชุดใหญ่แล้วล่ะก็ ลูกต้องทำลายสถิตินี้ให้ได้ และถ้าลูกทำลายสถิตินี้ได้พ่อก็จะอนุญาตให้ลูกทำรอยสัก-"
"ดังนั้นผมเลยลงไปทำลายสถิติจนสุดท้ายก็ได้ทำรอยสักสมใจ"
"(คริสเตียโน่) โรนัลโด้ เป็นไอดอลของผมก็จริง แต่ผมยังดูเกมที่ ลิเวอร์พูล และทีมอื่น ๆ ลงเล่นด้วย"
"ช่วงที่ผมกำลังเติบโต เจอร์ราร์ด เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"
"ตอนนี้การได้ใส่เสื้อหมายเลข 8 คือเรื่องน่ายินดี และสร้างความภาคภูมิใจให้กับผม แต่ผมก็อยากจะเป็นในแบบของตัวเอง"
.
.
.
หลังมีส่วนร่วมกับประตู 26 ลูก และแอสซิสต์อีก 34 ครั้งจาก 83 เกมที่รับใช้ ซัลซ์บวร์ก รวมถึงประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน.. แอร์เบ ไลป์ซิก จึงดึงตัวไปร่วมงานในเดือนธันวาคม 2020
โซโบซไล เดินตามรอย เออร์ลิง ฮาลันด์ เพื่อนรักตอนอยู่ ซัลซ์บวร์ก ที่มุ่งหน้าสู่ บุนเดสลีกา ก่อนเขา 12 เดือน และปัจจุบันก็ได้มาเล่นลีกเดียวกันที่ อังกฤษ
"เออร์ลิง กับผมยังสนิทกันเหมือนเดิม เราส่งข้อความหากัน และคุยกันตอนเรามีเวลา"
"ตอนนี้ผมพักอยู่ใกล้ ๆ เขา ดังนั้นบางทีเราก็อาจไปกินมื้อเย็นด้วยกัน"
"ก่อนผมจะย้ายไป ลิเวอร์พูล เขาบอกกับผมว่า -เตรียมตัวให้พร้อมนะ!- แต่เขารู้อยู่แล้วล่ะว่าผมน่ะพร้อมอยู่แล้ว เขาบอกผมว่าที่นี่เป็นลีกที่โหดมาก ๆ ซึ่งผมจะชอบแน่นอน"
"ผมไม่เซอร์ไพรส์เลยว่าทำไมเขาถึงทำได้ดีกับ แมนฯ ซิตี้ ผมรู้ว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง และเขาทำงานหนักมากแค่ไหน เขาเป็นผู้เล่นที่น่าเหลือเชื่อ"
"ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับความเป็นอริระหว่าง ลิเวอร์พูล กับสโมสรในเมืองแมนเชสเตอร์ ผมพร้อมแล้ว"
"นั่นคือเหตุผลว่าทำไม ผมจึงมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ผมอยากรู้ว่าความรู้สึกมันจะเป็นอย่างไรตอนที่ผมได้ลงเล่นเกมเหล่านั้น"
.
.
.
โซโบซไล สั่งลา ไลป์ซิก ได้อย่างสวยงามในเกมนัดชิงชนะเลิศ เดเอฟเบ โพคาล ด้วยการคว้าชัยเหนือ ไอน์ทรัค แฟร้งเฟิร์ต 2-0
โดยตลอดระยะเวลา 2 ปีครึ่ง ณ ที่แห่งนั้น โซโบซไล จารึกสถิติ 20 ประตู และ 22 แอสซิสต์จากทั้งหมด 91 เกม
ระหว่างช่วงพักร้อน ซัมเมอร์ 2023 โซโบซไล ให้เอเจนต์ส่วนตัวจัดการกับสโมสรต่าง ๆ ที่ให้ความสนใจ
เข้าสู่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน เงื่อนไขค่าฉีกสัญญาของเขากำลังจะหมดลง จึงเป็น ลิเวอร์พูล ที่รุกคืบหาและได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว จนทำให้ โดมินิค โซโบซไล กลายเป็นนักฟุตบอลชาวฮังกาเรียน ที่มีค่าตัวมากที่สุดในประวัติศาสตร์
"เอเจนต์ของผมไม่ได้บอกเรื่องราวเบื้องหลังอะไรเลยจนกว่าเขาจะมั่นใจ แล้วพร้อมจะดำเนินการต่อ"
"ทุกอย่างเกิดขึ้นในระยะเวลา 3 วัน เขาโทรมาหาผมแล้วบอกว่า -ลิเวอร์พูล ให้ความสนใจจริง ๆ ดังนั้นมาคุยเรื่องนี้กันเถอะ-"
"แล้ววันต่อมา เราก็ได้คุยกัน และในวันที่ 3 เราก็บินไปยัง ลิเวอร์พูล เลย"
"ผมไม่ต้องมานั่งคิดมากกับเรื่องนี้ ผมโทรหาคนที่สำคัญ ๆ ในชีวิตผม และคนที่มีประสบการณ์มากกว่าผมแค่นั้น"
"ผมมีความชัดเจนกับสิ่งที่ผมต้องการจะทำ ลิเวอร์พูล อธิบายถึงแผนงานของพวกเขา และผมก็บอกไปว่า -มาลุยกันเลย!-"
.
.
.
การที่ ลิเวอร์พูล เป็นสโมสรใหญ่ กอปรกับแรงดึงดูดของชายชื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ และความทรงจำที่ยอดเยี่ยมตอนได้มาเล่นใน แอนฟิลด์ สมัยที่อยู่กับ ซัลซ์บวร์ก ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2019
มันเหนือกว่าการที่ ลิเวอร์พูล ไม่ได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นนี้
"ตอนมาเล่นที่นี่กับ ซัลซ์บวร์ก ผมสัมผัสได้ถึงพลังงานจากแฟน ๆ"
"วันนั้นเราแพ้ 3-4 ตอนที่ผมอยู่ใน แอนฟิลด์ ผมก็มองไปรอบ ๆ พร้อมกับคิดว่า -นี่ฉันอยู่ที่ไหนกันเนี่ย ?!- มันเป็นบรรยากาศที่ดีมากๆ ดังนั้นการที่ตอนนี้ผมได้เล่นเพื่อพวกเขามันเลยเป็นเรื่องที่ดีกว่าเดิมอีก"
"ผู้จัดการทีมเป็นคนที่มีอารมณ์ร่วมสูง เขาทุ่มเทให้กับทุกอย่างและอยากให้เราทำแบบนั้นเหมือนกัน ถ้าเราทำแบบนั้นได้ เราก็สามารถคว้าแชมป์รายการใหญ่ ๆ มาครองได้"
"แน่นอนว่าทุกคนต่างก็อยากจะเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ผมไม่คิดถึงเรื่องนั้นเลยตอนที่ได้ยินว่า ลิเวอร์พูล อยากดึงผมไปร่วมทีม คุณต้องทำงานเพื่อมัน ผมไม่ได้คิดเกี่ยวกับ แชมเปี้ยนส์ ลีก สักนิด"
"สิ่งเดียวที่ผมอยากทำให้ตอนนี้คือทำให้มั่นใจว่าเราจะได้กลับไปเล่นในรายการนั้น กลับไปอยู่ในจุดที่เราคู่ควรให้ได้"
ถ้อยคำที่ โซโบซไล เอ่ยออกมานั้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเพื่อน ๆ ร่วมทีมชาติถึงได้โหวตให้เขาเป็นกัปตันทีมชาติฮังการี ด้วยวัยเพียง 22 ปี
.
.
.
ชีวิตของ โซโบซไล ยามว่างเว้นจากเรื่องฟุตบอล เขาใช้เวลาอยู่กัน ฟานนี่ เกเช็ค แฟนสาว กับน้องหมาพันธุ์มอลทิพูที่ชื่อ ไมโล ส่วนเกมโปรดคือ Call of Duty
ภายหลังได้รับอนุญาตจากคุณพ่อ เขาก็วางแผนที่จะซื้อรถคันใหม่เพื่อเป็นการตบรางวัลให้ตัวเองที่ได้มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล
"ผมกับคุณพ่อยังพนันกันอยู่บ่อย ๆ !"
"ผมชอบรถมาก ๆ และท่านก็บอกกับผมว่า -ลูกจะซื้อรถรุ่นไหนก็ได้ตามใจ แต่อันดับแรกลูกต้องทำบางอย่างให้สำเร็จได้ซะก่อน-"
"ดังนั้นตอนที่ผมได้เซ็นสัญญากับ ไลป์ซิก ผมเลยซื้อรถให้ตัวเอง และพอตอนนี้ผมมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ผมก็น่าจะซื้อรถอีกคัน"
"ผมตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อรถคันไหน แต่ตอนนี้ผมขอเก็บเป็นความลับก่อนนะ"
เรียบเรียงจาก Dominik Szoboszlai: How bottle slaloms and golf balls made Liverpool’s new star, James Pearce The Athletic
HOSSALONSO