พร้อมเปิดซีซั่นหรือยัง? สิ่งที่เห็นจากพรีซีซั่นของ แมนยู

พร้อมเปิดซีซั่นหรือยัง? สิ่งที่เห็นจากพรีซีซั่นของ แมนยู
บทสรุป แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงพรีซีซั่น

1.ลงเล่นไปทั้งหมดถึง 8 นัด (มากกว่าชาวบ้าน) ในเวลาไม่ถึง 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม - 6 สิงหาคม 2023 

ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-0

ชนะ ลียง 1-0

ชนะ อาร์เซน่อล 2-0

แพ้ เร็กซ์แฮม 1-3

แพ้ เรอัล มาดริด 0-2

แพ้ ดอร์ทมุนด์ 2-3

ชนะ ล็องส์ 3-1

เสมอ แอธเลติก บิลเบา 1-1

เอริค เทน ฮาก แสดงให้เห็นว่าเน้นหนักกับเกมอุ่นเครื่องมากกว่าเกมอุ่นเครื่องตามปกติ โดยพยายามจัดทีมตัวจริงด้วยผู้เล่นที่ดีที่สุดเท่าที่มีในมือ ณ ขณะนั้น

ยกเว้น 2 เกมที่เจอกับ เร็กซ์แฮม ใช้ดาวรุ่งจากทีมโรงเรียนลูกกรอกคะนองล้วนๆ และเกมกับ แอธเลติก บิลเบา ที่ใช้ทีมสำรองผสมนักเตะเยาวชนในบางตำแหน่ง 

รูปแบบการเล่นตามปรัชญาของผู้เป็นกุนซือชัดเจนขึ้น ระบบการเล่นเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ และความเหมาะสม โดยยึดสูตร 4-2-3-1, 4-3-3 และ 4-1-4-1 เป็นหลัก ซึ่งความจริง มันก็ไม่ได้แตกต่างกันมากมาย

สิ่งที่ผมสังเกตเห็นคือผู้เล่นพยายามที่จะพาบอลไปข้างหน้ามากขึ้น

บางจังหวะที่คิดว่าจะคืนหลัง หรือแปะออกข้างง่ายๆ พวกเขากลับพลิกขึ้นไปข้างหน้าเลย - นี่คือสิ่งที่ผมชื่นชอบ

นอกจากนี้ เกมอุ่นเครื่องที่เอาจริงเอาจังยังช่วยให้ เอริค เทน ฮาก ค้นพบผู้เล่น 11 ตัวจริงที่จะใช้เป็นหลักในฤดูกาล 2023/24 ได้อย่างรวดเร็วก่อนเปิดฤดูกาลอีกตะหาก

หลักๆ ประกอบด้วย อองเดร โอนาน่า, อารอน วาน-บิสซาก้า (ดิโอโก้ ดาโลต์, ราฟาแอล วาราน, ลิชา มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์; กาเซมิโร่, เมสัน เมาต์, บรูโน่ แฟร์นานด์ส; อันโตนี่, อเลฮานโดร การ์นาโช่, มาร์คัส แรชฟอร์ด

ขณะที่กองหน้าตัวใหม่อย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ เดินทางมาพร้อมอาการบาดเจ็บ จึงต้องอาจรอไปก่อนในช่วงต้นซีซั่น

2.เกมรับยังคงมีปัญหา

แมนฯ ยูไนเต็ด จากขุมกบาลของ เอริค เทน ฮาก เป็นทีมที่เน้นเกมรุกเป็นหลักก็จริง แถมผู้ชมทางบ้านอย่างผมยังมองเห็นความกล้าได้และกล้าเสียมากขึ้นเสียด้วย แต่ก็เป็นการเล่นเกมรุกบนความรัดกุม

ผู้เล่นจะไม่เสี่ยงวัดได้เสีย หากไม่จำเป็น

พูดง่ายๆ ว่าเล่นอย่างระมัดระวัง

กระนั้นก็ยังมีวายชอบเสียประตูแบบโง่ๆ ด้วยความผิดพลาดง่ายๆ ของตัวเองเป็นประจำ โดยมักเกิดจากความเลินเล่อ และความซุ่มซ่ามของผู้เล่นในแผนกกองหลัง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ถูกคู่แข่งบุกกดดันอย่างต่อเนื่องด้วยซ้ำ

เรียกว่าพร้อมจะเสียประตูแบบไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น 

เรื่องความผิดพลาดส่วนบุคคลคือปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกจนกว่าจะกำจัดผู้เล่นคุณภาพบัดซบๆ ออกไปให้หมด

ตำแหน่งแบ็คขวายังขาดๆ เกินๆ ไม่ถือว่าลงตัวนัก ทั้ง ดิโอโก้ ดาโลต์ และ อารอน วาน-บิสซาก้า และหากอยากจะลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบจริงๆ จังๆ ก็ควรหาปราการหลังตัวกลางคนใหม่ที่ไว้ใจได้มากกกว่านี้มาเสริมอีก 1 คน

3.ประสิทธิภาพในการถล่มตาข่าย

แมนฯ ยูไนเต็ด กะซวกได้แค่ 12 ดอกเท่านั้นจาก 8 เกมในช่วงพรีซีซั่น

ถือว่ายิงได้น้อยไปหน่อย

รูปแบบการโจมตีแทบไม่มีความหลากหลายเลย พวกเขาสร้างจังหวะจบสกอร์ได้ไม่มากนักในแต่ละเกม

มิหนำเมื่อพบจังหวะจบก็มักจะไม่ค่อยมีความเฉียบคมและเด็ดขาดสักเท่าไหร่

ส่วนหนึ่งเพราะปราศจากหัวหอกตัวเป้าระดับตีนมหาวินาศ

เวลาสวมบท "หน้าเป้า" มาร์คัส แรชฟอร์ด จะไม่ค่อยมีบทบาทมากนัก เนื่องจากเพื่อนร่วมทีมสร้างเกมรุกได้ไม่ดุดันมากพอ

เจดอน ซานโช่ ถูกตัดแต่งพันธุกรรมใหม่ให้เป็นกองหน้าแบบ False9 แต่ก็ดูแล้วยังไม่ค่อยเวิร์ค

...ว่าแล้วก็ต้องรอลุ้นกองหน้าตัวใหม่อย่าง ราสมุส 

ฮอยลุนด์ นั่นแหละว่าจะมีความน่าสยดสยองขนาดไหน

4.สังเกตว่า เอริค เทน ฮาก พยายามจะปั้น เจดอน ซานโช่ ในตำแหน่งกองหน้า False9 ให้จงได้

คิดง่ายๆ ขนาดลงพร้อมกันกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด กุนซือปีศาจแดงยังให้ "ดร.แรช" ไปเล่นหน้าซ้าย ไม่ใช่หน้าเป้า

ถามว่าเพราะอะไร ???

เข้าใจว่าเป็นการแก้ปัญหา คือนับตั้งแต่ย้ายมา คุณพี่เขายังโชว์ฟอร์มไม่ออกเลยทั้งในตำแหน่ง "หน้าขวา" และ "หน้าซ้าย"

มันจึงนำมาซึ่งการเปลี่ยนตำแหน่ง

เท่านั้นไม่พอ ณ ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด อุดมไปด้วยผู้เล่นในตำแหน่ง "กองหน้ากึ่งปีก" มากมายก่ายกอง ลองนับดู

มาร์คัส แรชฟอร์ด, อเลฮานโดร การ์นาโช่, อันโตนี่, ฟากุนโด เปยิสตรี้, อาหมัด ดิยัลโล่, โอมารี ฟอร์สัน

เจดอน ซานโช่ ลงมาเชื่อมเกมในแดนกลางพลางประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมได้ไม่เลวในฐานะกองหน้าตัวปลอมนะครับ 

ทว่าสอบตกในเรื่องการเป็นผู้เล่นหมายเลข 9 ผู้มีหน้าที่ถล่มตาข่ายให้สิ้นซาก

ที่สำคัญคือไม่มีทีเด็ดในการเล่นสักเท่าไหร่ เทียบกับ อันโตนี่ แล้ว ขอบอกว่าเจ้าของสมญา "เดอะหมุน" ยังมีทีเด็ดมากกว่าด้วยซ้ำ

5. ค็อบบี้ ไมนู

แม้จะได้รับบาดเจ็บเสียก่อนจนเล่นไม่จบช่วงพรีซีซั่น

แต่ก็พอจะบอกได้ว่า เอริค เทน ฮาก ค้นพบดาวรุ่งพุ่งกระฉูดดวงใหม่ที่อาจจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในฤดูกาล 2023/24 อย่างน้อย 1 คน 

คือเจ้าหนูไมนูนี่แหละ

ดาวรุ่งวัย 18 ผู้นี้มีความนิ่งและยะเยือกเกินอายุ ครองบอลได้เหนียวแน่น คุมจังหวะเกมได้ และจ่ายบอลแม่นยำทั้งสั้นทั้งยาว แถมบดบี้เข้าแย่งบอลพลางดักจังหวะคู่แข่ง

เรียกว่ามีเซ้นส์ในการเล่นทั้งเกมรุกและเกมรับ

เสียดายที่ดันเจ็บซะก่อนจนต้องเดินทางกลับมารักษาตัว เพราะหากได้ลงเล่นอีกสัก 2-3 นัด เราอาจจะมองเห็นความสามารถของเจ้าหนูมากกว่านี้

อย่างไรก็ตาม

ในมุมมองของผม 

แมนฯ ยูไนเต็ด และนาทีนี้พร้อมแล้วครับสำหรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเดินทางมาถึง

บอ.บู๋


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : บอ.บู๋
บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X