เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมสร้างสถิติใช้เงินซื้อนักเตะมากกว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล หลังจากเข้ามากุมบังเหียนได้ปีกว่าๆ เท่านั้น
แม้ว่าแฟนบอล "เร้ด เดวิดส์" จะไม่ค่อยชื่นชอบการบริหารงานของตระกูลเกลเซอร์ แต่ เทน ฮาก ก็ได้รับการหนุนหลังจากพวกเขาในการสร้างทีมนับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งคุมทัพเมื่อปีที่ผ่านมา
ในช่วงเวลานั้น แมนฯ ยูฯ ทุ่มเงินไปกว่า 200 ล้านปอนด์ (ราว 8,400 ล้านบาท) ในการคว้าตัว อันโตนี่, กาเซมีโร่, ลิซานโดร์ มาร์ติเนซ และ ไทเรลล์ มาลาเซีย เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ขณะที่ช่วงซัมเมอร์นี้ทีมเซ็นสัญญากับ เมสัน เมาท์ ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 55 ล้านปอนด์ (ราว 2,310 ล้านบาท) และ อ็องเดร โอนาน่า ค่าตัว 47 ล้านปอนด์ (ราว 1,974 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังเตรียมทุ่มเงินซื้อหน้าเป้าตัวใหม่อย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ ด้วยค่าตัวรวม 72 ล้านปอนด์ (ราว 3,024 ล้านบาท) มาจาก อตาลันต้า
ส่วนการขายนักเตะในยุคที่ เทน ฮาก กุมบังเหียนก็มีแค่ แอนโธนี่ อีแลงก้า ที่ย้ายไปเล่นกับ "เจ้าป่า" น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ (ราว 630 ล้านบาท) นั่นหมายความว่าหากดีลของ ฮอยลุนด์ สำเร็จ แมนฯ ยูฯ จะใช้เงินไปจำนวน 340 ล้านปอนด์ (ราว 14,280 ล้านบาท)
เมื่อเปรียบเทียบกับ คล็อปป์ ที่ปัจจุบันใช้เงินไป 322 ล้านปอนด์ (ราว 13,524 ล้านบาท) ตลอดช่วงระยะเวลาที่อยู่กับ "หงส์แดง" เกือบ 8 ปี โดยเจ้าตัวใช้เงินก้อนโตในการซื้อผู้เล่นไม่กี่คนอย่างเช่น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ค่าตัว 75 ล้านปอนด์ (ราว 3,150 ล้านบาท) และ ดาร์วิน นูนเญซ ค่าตัว 64 ล้านปอนด์ (ราว 2,688 ล้านบาท)
สำหรับนักเตะอีกรายที่นายใหญ่ชาวเยอรมันซื้อตัวมาร่วมทัพแพงเป็นอันดับ 3 ก็คือ โดมิกนิค โซโบซไล ซึ่งสโมสรควักเงินจำนวน 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,520 ล้านบาท) ให้กับ แอร์เบ ไลป์ซิก เพื่อคว้าตัวนักเตะมาร่วมทัพ
แม้ว่า คล็อปป์ จะใช้เงินเยอะแต่ก็สามารถขายนักเตะออกไปได้ถึง 14 รายโดยมีบางรายที่สามารถทำเงินได้สูงอย่างเช่น ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ย้ายไป บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัว 142 ล้านปอนด์ (ราว 5,964 ล้านบาท)
นอกจากนี้ยังมี ซาดิโอ มาเน่ จำนวนค่าตัว 27.5 ล้านปอนด์ (ราว 1,155 ล้านบาท) และ คริสติย็อง เบนเตเก้ จำนวน 27 ล้านปอนด์ (ราว 1,134 ล้านบาท) รวมทั้งนักเตะชั้นนำอีกสองสามรายที่ขายได้ราคาสูง ซึ่งนั่นทำให้งบดุลสโมสรลงตัว