สตีฟ บรูซ : ชายที่ยอมตกงานเพื่อ นิวคาสเซิ่ล

สตีฟ บรูซ : ชายที่ยอมตกงานเพื่อ นิวคาสเซิ่ล
หลายคนเมื่อกำลังจะตกงานนั้นก็มักจะพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อที่จะรักษาตำแหน่งของตัวเองให้ได้ วงการฟุตบอลเองก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน เพราะเรามักจะเห็นบรรดากุนซือพยายามที่จะขอโอกาสจากบอร์ดบริหารในช่วงที่ทีมมีผลงานน่าผิดหวัง

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สำหรับ สตีฟ บรูซ เพราะไม่นานมานี้อดีตกองหลังชาวอังกฤษออกมาเปิดใจว่าเขานี่แหละคือคนที่ขอให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด รีบปลดเขาออกจากตำแหน่งซะ เพื่อที่จะได้ส่งผลดีต่อตัวสโมสรเอง

ย้อนกลับไปเมื่อตอนฤดูกาล 2021-22 มันเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับ นิวคาสเซิ่ล เมื่อกลุ่มทุนจาก ซาอุดี อาระเบีย ที่นำโดย พับลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ ทำการเข้าซื้อทีมต่อจาก ไมค์ แอชลี่ย์ โดยตอนนั้น "สาลิกาดง" กำลังมีสภาพที่เลวร้ายสุดๆ จนทำให้แฟนๆ ตั้งความคาดหวังกับยุคใหม่เอาไว้สูง

เจ้าของทีมชุดใหม่เริ่มงานกับ นิวคาสเซิ่ล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปี 2021 และภายในช่วง 13 วันหลังจากนั้นมันก็มีการแยกทางกับ บรูซ ซึ่งคุมทีมาตั้งแต่ปี 2019 ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งให้ เอ็ดดี้ ฮาว เข้ามารับงานต่อจากเขาในวันที่ 8 พฤศจิกายน และ ฮาว ก็อยู่ในตำแหน่งตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

บรูซ ย้อนความหลังถึงตอนนั้นว่า "ช่วงนั้นผมบอกกับพวกเขาเลยว่า -ฟังนะ ทางที่ดีพวกคุณอาจจะต้องปลดผม- มันเป็นสิ่งที่ยากที่สุดเท่าที่ผมเคยพูดมาเลยก็ว่าได้ แต่ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ามันจะเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับสโมสร เพราะตอนนั้นทุกอย่างกำลังสวยหรู เรื่องด้านลบเพียงอย่างเดียวของสโมสรในตอนนั้นก็คือผมนี่แหละ"

มันไม่แปลกที่ บรูซ จะพูดแบบนั้น เพราะก่อนหน้าที่เขาจะแยกทางกับทีม นิวคาสเซิ่ล ไม่ชนะใครในลีกเลยจากการลงเล่น 8 นัด แบ่งเป็นการแพ้ไปถึง 5 เกมและเสมอ 3 หน ซึ่งมันก็ทำให้ตอนนั้น นิวคาสเซิ่ล เป็นรองบ๊วยของลีกเลย

ไม่เพียงแค่นั้น บรูซ ยังช่วยแนะนำคนทื่ควรจะเป็นทายาทของเขาด้วย หลังจากบอร์ดบริหารของ นิวคาสเซิ่ล ขอให้เขาช่วยในเรื่องนั้น "พวกเขาถึงขั้นถามผมด้วยซ้ำว่าผมแนะนำให้ใครมาคุมทีมแทน ซึ่งตอนนั้นผมก็แนะนำ เอ็ดดี้ (ฮาว) ไป และผมก็ยังแนะนำ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ไปด้วย ผมหวังว่า สตีเว่น จะไม่ถือสาอะไรนะ ผมแนะนำว่าคนหนุ่มอย่าง เอ็ดดี้ หรือ สตีเว่น น่าจะเหมาะ"

ในสายตาของหลายคนนั้น นี่อาจจะเหมือนเป็นการ "ยอมแพ้" แบบดื้อๆ ของ บรูซ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่ามันสามารถมองแบบนั้นได้ แต่มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าหากว่าอยากจะให้ นิวคาสเซิ่ล ในยุคใหม่ได้เดินไปสู่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

"มันเป็นสิ่งที่ทำใจยอมรับได้ยาก ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นมาก่อนด้วย มันออกจะเหมือนกับเป็นการยอมแพ้ แต่ผมรู้ตัวดีว่ามันเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับสโมสร ผมคิดว่าผมจำเป็นต้องทำอย่างนั้นเพราะตอนนั้นเราเพิ่งแพ้ ท็อตแน่ม มาหมาดๆ ทั้งที่เราทำประตูได้ตั้งแต่ต้นเกม เราออกนำหลังจากผ่านไปแค่ 20 วินาทีมั้ง แต่แล้วเราก็แพ้ สเปอร์ส 2-3"

"คำที่เหมาะสำหรับการใช้กับกรณีนี้อาจจะเป็นคำว่า ยอมแพ้ ที่จริงผมไม่อยากยอมแพ้เลย แต่ผมตระหนักดีว่าผมจำเป็นต้องทำแบบนั้น และมันจะเป็นผลดีต่อสโมสรมากกว่า พวกเขาจำเป็นต้องทำการล้างบางและเอาเรื่องแย่ๆ ออกไปจากสโมสร และนั่นก็คือตัวผมเอง"

ถ้านับจนถึงตอนนี้นั้น การตัดสินใจของ บรูซ ก็ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องเพราะว่า ฮาว พาทีมทำผลงานได้อย่างโดดเด่นจนถึงขั้นได้เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาล 2023-24 ส่วนตัวของ บรูซ เองนั้นไปรับงานกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ โดยตอนแรกเซ็นสัญญากัน 18 เดือน แต่เขาก็ออกจากตำแหน่งหลังคุมทีมไปเพียง 8 เดือน หลังจากทีมทำผลงานได้แย่จนไปอยู่ในอันดับที่ 22 ของตารางคะแนน

ถ้าพูดถึงผลงานของทีมในยุคของเขาแล้วนั้น แฟนบอล นิวคาสเซิ่ล คงไม่ชอบใจ บรูซ เท่าไหร่ แต่อย่างน้อยมันก็น่าชื่นชมที่เขารู้ถึงขีดจำกัดของตัวเองและตัดสินใจว่าควรจะบอกลาทีมเพื่อผลดีของตัวสโมสร


- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport