ในวันที่กลับมาเยือนแอนฟิลด์อีกครั้ง

ในวันที่กลับมาเยือนแอนฟิลด์อีกครั้ง
ครั้งล่าสุดที่ผมมาแอนฟิลด์ ความจุของสนามยังอยู่ในระดับสี่หมื่นห้าพันคน

อัฒจันทร์ฝั่งหลักซึ่งเป็นฝั่งที่ตั้งกล้องถ่ายทอดสดทุกเกมมาสู่สายตาเรายังไม่ต่อเติม

อัฒจันทร์ฝั่งแอนฟิลด์ โร้ด ก็ยังคงเป็นอัฒจันทร์สองชั้นที่ไม่ได้ใหญ่โตตระการตาอะไร แฟนบอลทีมเยือนถูกจัดให้เชียร์กันอยู่ตรงนั้น แต่ก็แค่ครึ่งเดียวของอัฒจันทร์ชั้นล่าง

มันก็นานมากแล้วล่ะครับ หลังจากประจำการที่อังกฤษ 3 ฤดูกาลระหว่างปี 2006-2009 ผมได้กลับไปเยือนแอนฟิลด์อีกแค่หนเดียวเท่านั้นคือปี 2013 ไปเห็นเกมที่พลิกไปพลิกมาหลายตลบก่อนที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะซัดจุดโทษนำชัยให้ทีมเชือดสเปอร์ส 3-2

สิบปีแล้ว.. อะไรต่อมิอะไรก็เปลี่ยนไปเยอะ

ปีนี้ผมมีโอกาสกลับไปเยือนแอนฟิลด์อีกครั้ง ในวันที่สำหรับแฟนบอลมากมายอาจไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไรอีกแล้ว หลายคนมาดูเกมที่นี่เกินสิบครั้งหรือหลายสิบครั้ง แมตช์ใหญ่ๆ หรือกระทั่งไม่ใหญ่นักเราสามารถเลือกซื้อทัวร์ที่มีอยู่มากมายได้ หรือจะวางแผนเดินทางมาเที่ยวเองก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นจนเกินไป

การมาดูบอลอังกฤษถึงสนามไม่ใช่เรื่องไกลตัวเหมือนก่อนแล้ว

ยุคปัจจุบันที่โลกเชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อมากขึ้น ทุกอย่างก็สะดวกขึ้นจริงๆ เราใช้โทรศัพท์เครื่องเดิมเบอร์เดิมกับที่ใช้ที่เมืองไทยได้เลยโดยไม่ต้องถอดซิมเปลี่ยนเข้าเปลี่ยนออก ไม่ต้องแลกเงินสดติดตัวมากมายด้วยการจ่ายเงินสามารถใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตแตะที่เครื่องสแกนได้เลย บางร้านไม่รับเงินสดแล้วด้วยซ้ำ

สิบปีผ่านไปโลกหมุนเร็วขึ้นอีกมาก กระทั่งคนที่ยังไม่เคยมาแอนฟิลด์ก็ยังอาจรู้จักสนามเหย้าของลิเวอร์พูลได้ครบทุกซอกมุมจากข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ได้เห็นสนาม เห็นทางไปสนาม เห็นสภาพแวดล้อม เห็นสวนสาธารณะสแตนลี่ย์ พาร์คได้จากกูเกิลแม็ป จะเดินข้ามสวนไป กูดิสัน พาร์ค ก็ทำได้สบายแค่นิ้วจิ้ม มองเห็นทุกอย่างเหมือนกำลังเดินด้วยตัวเอง ขาดแค่สัมผัสของลมเย็นที่ปะทะผิวหน้าและผิวกายเท่านั้น

สนามแอนฟิลด์เองก็เปลี่ยนไปไม่น้อย ชนิดที่ว่าถ้ายืนมองมันอยู่ตรงมุมอัฒจันทร์ฝั่งหลักกับฝั่งแอนฟิลด์ โร้ด ในวันนั้นแล้วหลับตา ข้ามเวลาไปสิบปี ลืมตาขึ้นมาอีกทีคงตกตะลึงกับภาพที่เห็น

ประตูแชงค์ลี่ย์เกตหายไป อนุสรณ์รำลึก 96 ชีวิตแห่งฮิลล์สโบโร่หายไป ถนนที่รถบัสพานักเตะเลี้ยวผ่านแชงค์ลี่ย์เกตเข้าไปจอดเพื่อให้นักฟุตบอลเดินเข้าห้องแต่งตัวใต้ถุนสนามหายไป จุดรับตั๋วนักข่าวที่อยู่ถัดไปใกล้ๆ ทางเข้าหลักก็หายไปด้วย เพราะมันล้วนถูกแทนที่ด้วยอัฒจันทร์อลังการที่ต่อเติมชั้นสามเพิ่มความจุคนดูได้อีก 8,500 คน

ภูมิทัศน์โดยรอบร่มรื่นน่าชมกว่าเดิมมาก ด้านนอกของอัฒจันทร์เป็นบันไดสูงให้แฟนบอลได้เดินขึ้นไปเพื่อเข้าสู่ตัวสนาม ดูโอ่อ่าสมกับขนาดของมัน แล้วยังมีลานกว้างให้เดินหย่อนใจ มีการจัดวางพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นประโยชน์ มีร่มไม้ มีเก้าอี้ให้พักเหนื่อย มีมุมประวัติศาสตร์ให้แฟนบอลได้ดื่มด่ำ ที่นั่งเอลิชา สกอตต์ ที่นั่งบิลลี่ ลิดเดลล์ ที่นั่งบิลล์ แชงค์ลี่ย์ ที่นั่งเคนนี่ ดัลกลิช รูปปั้นมิสเตอร์ จอห์น โฮลดิ้ง ผู้ก่อตั้งลิเวอร์พูลฟุตบอลคลับ..

อนุสรณ์รำลึกโศกนาฏกรรมฮิลล์สโบโร่ขยับมาอยู่บริเวณนั้น.. 96 ชีวิตเปลี่ยนเป็น 97 ชีวิต

เดินเลยขึ้นไปอีกจนถึงมุมอัฒจันทร์ฝั่งหลักกับฝั่งเดอะค็อปสแตนด์ ไม่เห็นอีกแล้วพื้นที่แคบๆ อันแออัด รูปปั้น บ็อบ เพสลี่ย์ สมัยยังเป็นทีมงานของ บิลล์ แชงค์ลี่ย์ แบก เอมลีน ฮิวจ์ส ขึ้นหลังมีแฟนบอลยืนรอเพื่อถ่ายรูป กำแพง The Champions Wall งดงามคลาสสิก และร้านค้าของสโมสรย้ายจากความอึดอัดใต้ถุนอัฒจันทร์เดอะค็อปมาตั้งตระหง่านตรงพื้นที่กว้างขวางนั้น ดีไซน์สวยงามทันสมัย คนเดินเข้าออกไม่ขาดสาย

เหลียวไปมองอัฒจันทร์หลังประตูฝั่งแอนฟิลด์ โร้ด ก็พบว่ามันเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้เช่นกัน ถนนแอนฟิลด์ โร้ดสายเล็กๆ ที่เลาะเลียบข้างตัวสนาม เคยท้าแดดท้าลมท้าทายทุกสภาพอากาศมานานแสนนานก็ถูกคลุมด้วยอัฒจันทร์ที่ต่อเติมขึ้นไปเพื่อเพิ่มความจุสนามอีก 7,000 ที่นั่ง จากนี้ไปถนนช่วงนี้จะไม่เจอฝนเจอแดดเจอหิมะไปตลอดกาล

คนงานกำลังทำงานอย่างขะมักเขม้นเพื่อสร้างอัฒจันทร์ต่อเติมใหม่นี้ให้เสร็จทันเวลา กำหนดใช้งานจะเกิดขึ้นในฤดูกาลใหม่ 2023/24 นี้แหละครับ เมื่อมันเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภูมิทัศน์ฝั่งนี้ก็คงจะเปลี่ยนไปอีกมากเช่นกัน

วันนั้นผมคงอยู่ที่เมืองไทย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะมีโอกาสกลับไปแอนฟิลด์อีกหน แต่มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ผมสามารถสำรวจพื้นที่ใหม่ของอัฒจันทร์ฝั่งแอนฟิลด์ โร้ด ได้จากข้อมูลมากมายบนโลกออนไลน์

ในภาพใหม่ของสนามที่อลังการกว่าเดิมปรากฏอยู่ตรงหน้า แอนฟิลด์ที่จะจุคนดู 61,000 คนจะส่งเสียงกระหึ่มขนาดไหนกันนะ แต่กระนั้นผมก็ยังจำภาพเดิมของมันได้ดี จำได้ในแทบจะทุกด้านทุกมุม แค่หลับตาก็มองเห็นมันชัด..

สนามแอนฟิลด์เก่าที่มีรั้วรอบขอบชิด ร้านขายสินค้าของสโมสรใต้ถุนอัฒจันทร์ฝั่งเดอะค็อป แผงขายของที่ระลึกทั้งหลาย ร้านอาหารฟิชแอนด์ชิพคนพลุกพล่าน รถขายฮ็อตด็อกร้อนๆ กินให้ท้องอุ่นในวันหนาวๆ กระทั่งร้านวิลเลียมฮิลล์ที่ดักรอทุกคนก่อนถึงตัวสนามหากเดินมาทางถนนวอลตันเบร็คโร้ด

บรรยากาศเก่าๆ เด่นชัดขึ้นมา ผมยิ้มให้กับความทรงจำที่เห็นตัวเองกับ ธี อุทิศ กำลังยืนปรึกษากันอย่างเคร่งเครียด ไอ้คนที่บอกว่ามีตั๋วเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้ที่อัฒจันทร์ฝั่งเดอะค็อปกำลังยืนรอคำตอบอยู่หน้าประตูผับ The Albert หัวมุมสนามแอนฟิลด์...

เมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้ อัฒจันทร์ฝั่งเดอะค็อปสแตนด์ ราคาแค่ 80 ปอนด์.. ตอนได้ยินยังไม่อยากเชื่อหูจนต้องถามย้ำว่ามึงขายแค่ 80 ปอนด์จริงๆ หรือ

"ช่าย.. คนละแปดสิบ สองคนก็ร้อยหกสิบ ราคานี้ยูหาที่ไหนไม่ได้แล้วนะ พอดีมันมีเหลือมา" ฝรั่งวัยรุ่นคนนั้นตอบกลับมาด้วยสำเนียงสเกาซ์

เท่านั้นแหละ แผนการที่ว่าจะแค่มาเดินเก็บบรรยากาศหน้าสนามแล้วกลับไปดูเกมนี้ในเมืองก็เปลี่ยนไปทันที ผมกับ ธี อุทิศ รีบควักเงินในกระเป๋าออกมานับ ก่อนจะพบว่าสองคนรวมกันมีไม่ถึงสี่สิบปอนด์ (ฮา)

"ไม่เป็นไรๆ" หนุ่มสเกาซ์แนะนำ "ตรงนู้นมีตู้เอทีเอ็ม ยูไปกดเงินมาก็ได้ ไอรออยู่ตรงนี้แหละ"

ผมกับ ธี อุทิศ รีบเดินจ้ำไปหาตู้เอทีเอ็ม มันไกลเอาเรื่องอยู่เหมือนกันต้องเดินเลียบแนวรั้วตลอดอัฒจันทร์ฝั่งเดอะค็อปสแตนด์เข้าโค้งน้อยๆ สู่ถนนโอ๊คฟิลด์โร้ด ยืนกดเงินกันสองคนแล้วรีบจ้ำกลับแต่ก็หน้าระรื่นเหมือนเด็กกำลังจะได้ของเล่น แมตช์แบบนี้ที่อัฒจันทร์ฝั่งนี้ในราคาแค่นี้ มันยิ่งกว่าความฝันเสียอีก

หนุ่มสเกาซ์เดินนำพาเราหลบหลีกแฟนบอลที่เริ่มพลุกพล่านมากขึ้นเมื่อเวลาเตะคืบเข้ามา แล้วไปหยุดอยู่หน้าทางเข้า The Albert ผับหัวมุมสนามแอนฟิลด์ฝั่งอัฒจันทร์หลักกับเดอะค็อปสแตนด์ มองเข้าไปเห็นคนยั้วเยี้ย เสียงอื้ออึงอึกทึก หลายคนกำลังกรึ่มได้ที่

"ลูกพี่ของไออยู่ข้างใน ตั๋วอยู่กับเขา คนมันเยอะยูรออยู่ตรงนี้แหละ เอาเงินให้ไอมาก่อนเดี๋ยวไอเข้าไปเอาตั๋วออกมาให้"

อาการชะงักเกิดขึ้นทันที เราสองคนต้องใช้เวลาอึดใจหนึ่งเพื่อตั้งหลักทำความเข้าใจกับสถานการณ์

นาทีนั้นเหมือนเรากำลังถูกทดสอบความโลภ ใจหนึ่งก็อยากจะวัดยื่นเงินให้เขาไปด้วยความอยากได้ตั๋ว แต่อีกใจหนึ่งค้านหัวชนฝา หัวเด็ดตีนขาดก็อย่าไปยอมมัน มันเป็นใครมึงรู้จักมันเรอะ แล้วเอาเงินให้มันไปก่อนอะนะ เกิดมันเดินเข้าไปแล้วไม่กลับออกมาล่ะ

บางวาบความโลภก็ชักจูงให้เราเสี่ยงเชื่อใจอยู่เหมือนกันนะครับ แต่กับงานนี้มันเห็นกันชัดเกินไปหน่อยว่าถ้ายื่นเงินให้เขาไป ร้อยหกสิบปอนด์ของเราก็จะหายไปกับฝูงคนใน The Albert ร้อยเปอร์เซนต์

เราสองคนปรึกษากันโดยมีหนุ่มสเกาซ์ยืนรอ ก่อนตัดใจเด็ดขาดว่าไม่เสี่ยง มาแนวนี้มันโกงแน่แล้วยังโกงแบบทื่อๆ ด้วย มึงไม่ทำให้มีชั้นเชิงกว่านี้หน่อยว้า

"โนๆ แต๊งกิ้ว มึงนี่เล่นง่ายดีนะ" ผมบอกเขาไปอย่างนั้น ไม่กล้าพูดต่อว่า "ตั๋วอยู่ที่ลูกพี่พ่องสิ" กลัวมันฟังรู้เรื่อง ประสบการณ์เจอฝรั่งพูดไทยได้ทำให้ต้องระมัดระวังถ้อยคำเพิ่มขึ้น แล้วผมกับ ธี อุทิศ ก็กลับเข้าเมืองไปดูการถ่ายทอดสดในผับไหนสักผับแถวแมธิวสตรีท ได้เห็น ทิม เคฮิลล์ โหม่งตีเสมอให้เอฟเวอร์ตันก่อนหมดเวลาสามนาทีเต็มๆ ตา (เวรกรรมจริงๆ)

กลับมาเยือนแอนฟิลด์คราวนี้.. The Albert ก็ยังอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน เห็นมันปุ๊บเหตุการณ์ลาภลอยทิพย์ในวันนั้นก็ผุดขึ้นมาปั๊บพร้อมกับรอยยิ้มจาง

ภาพเก่าๆ เกมแก่ๆ ไม่เคยจากเราไปไหน ผมบอกตัวเองว่าเรายังโชคดีที่ในภาพของสนามใหม่ที่เห็นอยู่ตรงหน้า มันยังมีภาพของสนามเก่าซ้อนทับอยู่ในความทรงจำ

แอนฟิลด์.. ขึ้นชื่อว่าแอนฟิลด์ สำหรับผมแล้วไม่ว่ามันจะอยู่ในภาพไหน เก่าโทรมหรือโอ่อ่าทันสมัย มันก็เป็นนิยามแห่งความฝัน ความหวัง และความสุขอยู่เสมอ

ฤดูกาลใหม่กำลังจะมาถึง มันยังคงอบอวลด้วยความรู้สึกดีๆ เหล่านั้นเหมือนที่เคยเป็นมา..

ตังกุย


ที่มาของภาพ : getty images
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport