ในที่สุด จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ออกมาประกาศอำลาลิเวอร์พูลอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเขาเตรียมจะโยกไปโกยเงินกับ อัล เอตติฟาค ในศึกซาอุดิ โปร ลีก ประเทศซาอุดิอาระเบีย นั่นหมายความว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องทำงานหนักในช่วงตลาดนักเตะเพื่อหาผู้เล่นเข้ามาทดแทนการจากไปของ "เฮนโด้"
การจบช่วงชีวิต 12 ปีในถิ่นแอนฟิลด์ของ เฮนเดอร์สัน ย่อมทิ้งช่องโหว่ในแดนกลางของ "หงส์แดง" เอาไว้ แม้ทีมจะมีการเสริมแกร่งคว้าตัว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โดมินิค โซโบซไล มาร่วมทัพ แต่กระนั้นก็ยังไม่เพียงพอสำหรับรับศึกหนักในฤดูกาล 2023/2024
งานนี้ คล็อปป์ ต้องมองหาผู้เล่นใหม่ที่มีศักยภาพเท่าเทียมหรือมากกว่า เฮนเดอร์สัน เข้ามาเสริมแกร่ง แต่กระนั้นเขาอาจจะตัดสินใจครั้งใหญ่ดันขุมกำลังที่มีอยู่ก้าวขึ้นมาทดแทนก็ได้ หากนักเตะมีศักยภาพมากพอที่จะรับบทบาทสำคัญนี้
1. คาลวิน ฟิลลิปส์
คาลวิน ฟิลลิปส์ ไม่ค่อยได้ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มากนักหลังย้ายจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักเตะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่อง
อดีตแข้ง "ยูงทอง" ซึ่งทำผลงานได้อย่างสุดยอดให้กับทีมชาติอังกฤษ จนทะลุเข้าชิง ยูโร 2020 (แพ้จุดโทษ อิตาลี) ลงสนามในเกมลีกให้กับ "เรือใบสีฟ้า" แค่ 12 แมตช์เท่านั้น โดยเล่นรวมแล้วแค่ 290 นาทีให้กับต้นสังกัดในชุดคว้าทริปเบิ้ลแชมป์
การที่ แมนฯ ซิตี้ มีทั้ง โรดรี้ และ จอห์น สโตนส์ ลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ทำให้โอกาสของ ฟิลลิปส์ ที่จะได้ลงสนามมากขึ้นในฤดูกาลใหม่ค่อนข้างริบหรี่เหลือเกิน ด้วยเหตุนี้ทำให้นักเตะเริ่มมองหาทางเลือกใหม่เพื่อที่จะได้ลงเล่นมากขึ้น
ช่วงที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล แสดงความสนใจในตัวนักเตะเช่นกัน กระนั้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ค่อยอยากขาย ฟิลลิปส์ ให้กับคู่แข่งแย่งแชมป์ลีก แต่การที่สโมสรมีทางเลือกน้อยเนื่องไม่อยากผิดกฎการเงิน หรือไฟแนลเชียล แฟร์เพลย์ นั่นทำให้พวกเขาอาจจำใจต้องปล่อยนักเตะออกไป
2. เคเฟรน ตูราม
หนึ่งในลูกชายของ ลิลิยอง ตูราม ตำนานนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันสวมบทบาทกองกลางให้กับสโมสรนีซ กำลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับต้นสังกัด ทำให้เขาเป็นที่สนใจจากทีมชั้นนำในยุโรป
ตูรามจูเนียร์ เล่นตำแหน่งกองกลางสไตล์บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ โดยเขาเป็นผู้เล่นที่เก็บบอลได้เหนียวแน่น และยังเล่นเกมรับได้ดี ที่สำคัญนักเตะยังมีเทคนิคยอดเยี่ยม ด้วยสภาพร่างกายแข็งแกร่ง และเต็มไปด้วยพละกำลังทำให้เขาเป็นมิดฟิลด์ที่โดดเด่นอย่างแท้จริง
ผลงานที่ยอดเยี่ยม ทำให้หลายๆ ทีมแสดงความสนใจอยากได้ตัวไปเสริมแกร่ง รวมทั้ง คล็อปป์ ที่ค่อนข้างจะชื่นชอบ ตูราม มากๆ เช่นกัน โดยเฉพาะสไตล์การเล่นของเขาที่คล้ายๆ กับ ปาทริค วิเอร่า ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการเข้ามาทดแทนตำแหน่งของ เฮนเดอร์สัน
ทั้งนี้ ดาวเตะวัย 22 ปี ลงเล่นให้กับทีมดังทางตอนใต้เมืองน้ำหอมจำนวน 48 เกมเมื่อฤดูกาล 2022/2023 และแน่นอนว่าตอนนี้เขาสามารถหลุดพ้นจากงาของคุณพ่อซึ่งเป็นตำนานวงการลูกหนังโลกได้แล้ว เพราะทุกๆ คนยอมรับในฝีเท้าของเขามากกว่านามสกุลของบิดาผู้ให้กำเนิด
3. โรเมโอ ลาเวีย
ต้องบอกว่า ลาเวีย คือเป้าหมายที่ชัดเจนที่สุดที่ คล็อปป์ อยากได้ตัวมาร่วมทัพ โดย ลิเวอร์พูล ได้ยื่นข้อเสนอครั้งแรกไปแล้วจำนวน 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,760 ล้านบาท) แต่โดน เซาธ์แฮมป์ตัน ปฏิเสธ เพราะพวกเขาต้องการค่าตัวนักเตะ 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,200 ล้านบาท)
ล่าสุด "หงส์แดง" ได้ยื่นข้อเสนอรอบ 2 ให้ทัพ "นักบุญ" พิจารณาจำนวน 45 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,980 ล้านบาท) โดยครั้งนี้ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับตัวเลขที่ต้นสังกัดนักเตะต้องการ และมีความเป็นไปได้ที่ทุกอย่างจะราบรื่น
เหตุผลที่ "บอส" อยากได้ ลาเวีย เนื่องจากมีศักยภาพที่ครบทุกอย่างตามที่เขาต้องการ ทั้งช่ำชองในการเล่นเกมรับ, คอยปัดกวาดบอลอันตรายก่อนถึงพื้นที่สำคัญ และยังอายุแค่ 19 ปี ที่สำคัญนักเตะมีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งทำให้เขาไม่ต้องปรับตัวอะไรมากนัก
นอกจากนี้สตาร์วัยรุ่นไม่จำเป็นต้องใส่ชื่อลงทะเบียนในขุมกำลัง 25 รายของ ลิเวอร์พูล ตลอดสามปีข้างหน้า และเมื่อเขามีอายุครบ 22 ปี ลาเวีย ก็จะยังอยู่ในหมวดหมู่นักเตะโฮมโกรนเนื่องจากใช้เวลากับสโมสรในอังกฤษเกินกว่าสามซีซั่น
ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นอีกข้อดีของ กองกลาวทีมชาติเบลเยียม ที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล สามารถเสริมทัพเพิ่มได้อีกหากพวกเขายังต้องการชอปปิ้งต่อโดยที่ยังมีงบประมาณเหลือมากพอ
4. เคอร์ติส โจนส์
ไม่ว่า ลิเวอร์พูล จะคว้านักเตะแดนกลางมาร่วมทีมเพิ่มได้อีกหรือไม่ก็ตาม แต่เชื่อว่า คล็อปป์ ยังมีออปชั่นที่จะใช้เด็กปั้นอย่าง เคอร์ติส โจนส์ ลงทำหน้าที่แทน "เฮนโด้" เพราะนักเตะพัฒนาฟอร์มได้อย่างน่าเหลือเชื่อในช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมา
กองกลางวัย 22 ปี เติบโตขึ้นมาจากการเป็นเด็กฝึกในอะคาเดมี่สโมสาร ก่อนจะก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ และสร้างชื่อสุดๆ จากจังหวะการยิงประตูสุดสวยในแมตช์ปราบ เอฟเวอร์ตัน ศึกเอฟเอ คัพ เมื่อปี 2020
ช่วงระยะเวลากว่า 2 ปีที่อยู่ในแอนฟิลด์ โจนส์ พยายามพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง โดยความมุ่งมั่นของเขาได้รับคำชื่นชมมากมา แต่กระนั้นก็ยังไม่ค่อยได้รับโอกาสลงตัวจริงมากนัก แม้บางครั้งนักเตะได้รับโอกาสลงสนามแต่ก็ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ ทำให้หลายคนค่อนข้างผิดหวังในตัวเขา
นอกจากนี้อาการบาดเจ็บยังเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาของ โจนส์ และทำให้เขาได้ลงตัวจริงในเกมพรีเมียร์ลีกแค่ 36 แมตช์ตลอดระยะเวลา 4 ซีซั่นที่ผ่านมา แถม คล็อปป์ ยังเลือกใช้งานเขาในฐานะแข้งสำรองด้วย นั่นยิ่งเป็นเรื่องยากที่นักเตะจะพัฒนาศักยภาพ
อย่างไรก็ตามความอดทน และการซุ่มฝึกซ้อมอย่างหนักได้ส่งผลตอบแทนให้เห็นอย่างชัดเจน โดย โจนส์ โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในช่วงท้ายซีซั่นล่าสุดกับ "เดอะ เร้ดส์"
นอกจากนี้ โจนส์ ยังเป็นกำลังสำคัญนำ อังกฤษ คว้าแชมป์ยูโร ยู-21 และมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ และคว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมรอบชิงชนะเลิศ ด้วย
งานนี้สาวก "เดอะ ค็อป" หวังว่าเขาจะรักษาผลงานชั้นยอดแบบนี้ต่อไป และก้าวขึ้นมาแทน เฮนเดอร์สัน ในฤดูกาลนี้
ทอมเม้ง