ในความอาลัยและเสียดาย มันมีความตื่นเต้นก่อตัวขึ้นมาเช่นกัน
การเสีย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ฟาบินโญ่ ไม่อยู่ในแผนงานที่วางเอาไว้แน่นอน ถามว่ามีปัญหาไหมมันก็ใช่เพราะทั้งสองคนยังถือเป็นกำลังสำคัญของทีมชุดใหญ่ แม้จะถูกมองว่าอายุมากขึ้น ผลงานเลยจุดสุดยอดไปแล้ว และฤดูกาลนี้อาจจะหลุดไปเป็นตัวสำรองก็ตาม
กรณีของ ฟาบินโญ่ อาจจะยังไม่ชัดนักเพราะมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิลน่าจะยังเป็นตัวจริงของทีมได้ แต่รายของ เฮนเดอร์สัน นั้นชัดเจนจากการเข้ามาของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โดมินิก โซบอสไล
แต่จะอย่างไรก็ตาม การมี ฟาบินโญ่ กับ เฮนเดอร์สัน อยู่ในทีมย่อมไม่ใช่เรื่องแย่ ด้วยทั้งคู่สามารถนำเสนอคุณภาพที่พวกเขามีให้กับทีมได้ ยังไม่รวมคุณสมบัติอื่นในตัวโดยเฉพาะบทบาทผู้นำและการเป็นตัวเชื่อมสำคัญในห้องแต่งตัวของเฮนโด้
หากที่สำคัญเหนืออื่นใดคือไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน ทั้งสองคนก็ไม่ได้อยู่ในแผนที่ลิเวอร์พูลจะปล่อยออกจากทีมในซัมเมอร์นี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจจะวาง ฟาบินโญ่ เป็นตัวจริง กำหนดบทบาทของ เฮนเดอร์สัน เป็นตัวสำรอง หรือสำรองทั้งคู่ แต่ก็ยังอยู่ในทีม เพราะฤดูกาลอันยาวนานคุณไม่สามารถกรำศึกด้วยนักเตะตัวจริงแค่ 11 คนได้ตลอดรอดฝั่งอยู่แล้ว
ฉะนั้นการเสียทั้งคู่ไปลีกซาอุดีอาระเบียจึงไม่อยู่ในการคาดการณ์มาก่อน และกลายเป็นปัญหาเพิ่มเติมที่ต้องแก้ไข
งานของคล็อปป์กับทีมงานในช่วงซัมเมอร์นี้จึงวุ่นวายขึ้นอีกหนึ่งขยัก เพราะในขณะที่ต้องสาละวนกับภารกิจเตรียมทีมให้พร้อมที่สุดในสนามซึ่งเป็นภารกิจอันดับหนึ่งแล้วยังต้องมาวิเคราะห์ขุมกำลังในแดนกลางที่ตัวหลักจะหายไปอีก 2 คนด้วย ไม่รวมถึงคนที่เป็นเป้าหมายว่าจะซื้อเพิ่มก่อนหน้านี้
ไม่น่าแปลกเท่าไหร่ที่คล็อปป์จะบ่นขำๆ ว่าอยากจะมีเวลาสักวันละ 28 ชั่วโมง
ผมเองก็เสียดายทั้งสองคนครับ กับฟาบินโญ่ผมเชื่อว่าเขายังเป็นกองกลางตัวรับชั้นนำของวงการและน่าจะเปล่งประกายได้อีกครั้งในการเล่นร่วมกับมิดฟิลด์ตัวใหม่ทั้งสองคนและเกมรุกที่เต็มไปด้วยพลัง ส่วนเฮนเดอร์สันย่อมเป็นเรื่องคุณสมบัติความเป็นผู้นำของเขาซึ่งจะมีส่วนช่วยแบ่งเบางานของคล็อปป์ได้มาก
แต่เมื่อชีวิตต้องก้าวเดินต่อไป และการเปลี่ยนแปลงคือเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลาอยู่แล้ว ลองหันมามองเส้นทางที่รออยู่ มันก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเหมือนกัน
เสี่ยง.. แต่ก็น่าตื่นเต้น
เพราะการจากไปของแฟ้บและเฮนโด้ย่อมหมายถึงการเข้ามาของสมาชิกใหม่
แผนเดิมยังจะมีกองกลางคนใหม่นอกจาก แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โซบอสไล อีกไหมไม่รู้ แต่แผนใหม่จะมีค่อนข้างแน่เพราะถ้าดูจากขุมกำลังแดนกลางเวลานี้จะเหลือ แม็ค อัลลิสเตอร์, โซบอสไล, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เคอร์ติส โจนส์, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และ สเตฟาน ไบจ์เซติช บวก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่เล่นได้แบบไฮบริดทั้งฟูลแบ๊กและมิดฟิลด์
ถ้าดูจากปริมาณก็ยังพอได้ เพราะเหมือนแต่ละตำแหน่งมีตัวสำรองรออยู่ ทว่าหากดูละเอียดลงไป กองกลางตัวรับคือตำแหน่งที่เป็นความเสี่ยงเนื่องจากมีเพียง ไบจ์เซติช คนเดียวที่เป็นเบอร์ 6 ธรรมชาติเหมือนฟาบินโญ่
ชื่อของมิดฟิลด์ตัวรับธรรมชาติอย่าง โซฟียาน อัมราบัต กับ โรเมโอ ลาเวีย จึงโผล่ขึ้นมาอยู่ในเรดาร์อีกครั้ง โดยเฉพาะคนแรกที่มาแรงพอสมควรและได้เสียงเชียร์หนุนหลังไม่น้อย
อัมราบัตอาจจะอายุมากกว่าลาเวียที่ในวัย 19 ยังเป็นเด็กคะนองอนาคตไกลทั้งยังมีคุณภาพคับแก้วตามแบบฉบับของเด็กเยาวชนจากเบ้าหลอมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่วัย 26 ของมิดฟิลด์ทีมชาติโมร็อกโกที่แจ้งเกิดเต็มตัวในฟุตบอลโลกที่ผ่านมาก็ถือว่ายิ่งกว่าครบเครื่อง
ถ้าตั้งโจทย์ว่าจะหาตัวแทนฟาบินโญ่ ประสบการณ์ผ่านด่านยากอันโชกโชนของอัมราบัตน่าจะตอบโจทย์นั้นได้ดีกว่าลาเวีย ค่าตัวก็ยังถูกกว่าเพราะกำลังจะหมดสัญญา ลิเวอร์พูลสามารถซื้อได้ที่หลัก 30 ล้านปอนด์ ขณะที่ลาเวียต้องขยับขึ้นไปที่ 45-50 ล้านปอนด์
หากจะซื้ออนาคตยาวๆ ลาเวียอาจเป็นคำตอบ แต่ ไบจ์เซติช ก็กำลังเป็นคนๆ นั้นอยู่เหมือนกันนะ
นอกจาก 2 คนนี้แล้ว คนที่กำลังเป็นที่พูดถึงมากๆ อีกคนคือ ชูเอา ปาลินญ่า ของฟูแล่ม
ได้ยินชื่อครั้งแรกผมยังเฉยๆ แต่เมื่ออ่านบทวิเคราะห์จากหลายๆ คน กองกลางตัวรับทีมชาติโปรตุเกสมีผลงานที่ไม่ธรรมดาเลย แค่ฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีกเขาก็เป็นเบอร์หนึ่งแห่งการเข้าปะทะแย่งบอลชนิดทิ้งห่างคนอื่นๆ ราวกับ ยูเซน โบลต์ วิ่งฉีกคู่ต่อสู้เข้าเส้นชัยตอนรุ่งๆ
มอยเซส ไคเซโด้ แห่งไบรท์ตันที่ตามมาเป็นอันดับสองมีสถิติเข้าปะทะ 100 ครั้ง น้อยกว่าปาลินญ่าถึง 47 ครั้ง หรือเกือบครึ่งหนึ่ง
แฮร์ริสัน รีด เพื่อนร่วมทีมฟูแล่มเรียกปาลินญ่าว่า "Machine" เพราะในแต่ละเกมเขาจะเข้าปะทะแย่งบอลอย่างไม่บันยะบันยัง สถิติต่อเกมคือ 4.2 ครั้ง ทั้งยังเอาชนะการดวลแย่งบอลกลางอากาศได้อีก 2.1 ครั้งด้วย เขาอยู่ในระดับ "ครีม" หรือยอดสุดของภูเขาในเรื่องการเข้าปะทะไม่เพียงแค่พรีเมียร์ลีกเท่านั้นแต่เป็นใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป และติดระดับชั้นนำเรื่องการสกัดบอลกับชนะจังหวะดวลกลางอากาศ
นอกจากนี้เขายังมีสถิติที่ดีในเกมรุกอีกด้วย เมื่อยิงไป 3 ประตูและผ่านบอลเข้าเป้าถึง 83 เปอร์เซนต์
สิ่งที่ปาลินญ่าเป็นรองคนอื่นๆ คงเป็นเรื่องอายุเพราะปัจจุบันเขาอายุ 28 ปีแล้ว แต่สภาพร่างกายของอดีตเด็กปั้นของสปอร์ติ้ง ลิสบอน ดีมาก ไม่ค่อยมีปัญหาเจ็บหนัก และนักวิจารณ์บางคนวิเคราะห์ว่าเขาสามารถเล่นได้ในระดับนี้ไปได้อีก 4-5 ปีสบายๆ
ทว่าอุปสรรคสำคัญคือสัญญากับต้นสังกัดที่เหลืออีกถึง 4 ปีทำให้ค่าตัวของปาลินญ่าบนโต๊ะเจรจาถูกเหวี่ยงไปอยู่กับฟูแล่ม ข้อเสนอ 40 ล้านปอนด์จากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ถูกปัดทิ้งอย่างไม่ใยดี อดีตเจ้าสัวน้อยปักป้ายไว้ที่ระดับ 60 ล้านปอนด์ขึ้น บางแหล่งข่าวว่าทะลุไปถึง 90 ล้านปอนด์ด้วยซ้ำ
ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเป็นข้อมูลที่ทีมทำงานของทุกสโมสรรู้และทราบดียิ่งกว่าเราอยู่แล้ว การซื้อนักฟุตบอลสักคนยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมายนอกจากสถิติ ค่าตัว ประสบการณ์ หรือศักยภาพในอนาคต หลายครั้งที่คนเป็นข่าวไม่ได้ย้าย คนที่ย้ายไม่ได้เป็นข่าวแต่ก็สามารถเอาชนะใจแฟนบอลได้
ในความเสียดายและอาลัยวันเก่าๆ ของเฮนเดอร์สันกับฟาบินโญ่ ผมอวยพรให้ทั้งคู่โชคดีกับเส้นทางใหม่และหันมาตื่นเต้นกับสิ่งที่ลิเวอร์พูลกำลังจะเดินหน้าต่อไป จะมีใครเข้ามาแทนที่พวกเขาไหม กองกลางตัวรับที่มาแทนแฟ้บจะเป็นใคร รวมทั้งพื้นที่ในเกมรับที่มีคนตั้งคำถามไม่น้อย
เกมอุ่นเครื่องผ่านไป 2 นัดแล้ว ผลการแข่งขันเป็นอย่างไรไม่สำคัญเท่าคล็อปป์เห็นอะไร มันเป็นไปตามแนวทางที่อยากได้ไหม เขาพอใจไหม และเขากำลังคิดอะไรต่อไป
นักเตะใหม่ถ้ามีจะเป็นใครก็ตามผมยินดีต้อนรับทั้งหมดโดยไม่มีคำถามว่าทำไมไม่เป็นคนนู้นคนนั้นคนนี้.. ผมอาจจะมีใครที่อยากได้อยู่ในใจแต่ถ้าเขาไม่ได้มาก็ถือว่าจังหวะคลาดแคล้วไม่ตรงกัน รอให้กำลังใจคนที่คล็อปป์เลือกแล้วดีกว่า
คุ้มไม่คุ้ม ดีไม่ดี ไปว่ากันในสนามเมื่อของจริงเปิดฉาก
บททดสอบผ่านเข้ามาให้ทำแล้ว คล็อปป์กับทีมงานของเขากำลังทำมันอยู่ และเอาเข้าจริงมันก็น่าสนุกกับการตามลุ้นไปด้วย ช่วงปรีซีซั่นที่เต็มไปด้วยการคาดเดาว่าใครจะเป็นนักเตะใหม่ก็สนุกอย่างนี้แหละครับ
ตังกุย