รุกเยี่ยม รับแย่! 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล อุ่นเครื่องเสมอ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ

 รุกเยี่ยม รับแย่! 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล อุ่นเครื่องเสมอ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ
ลิเวอร์พูล ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องนัด 2 ช่วงปรีซีซั่นแมตช์เสมอ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ 4-4 เมื่อวันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยผลงานของ "หงส์แดง" มีทั้งเรื่องดีและแย่ในเกมนี้ ซึ่งแน่นอนว่าคงทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีงานให้ขบคิดมากมายก่อนที่จะเปิดฤดูกาล 2023/2024

สำหรับแมตช์นี้แนวรุกของ "เดอะ เร้ดส์" ค่อนข้างโดดเด่นมากๆ โดยเฉพาะ ดาร์วิน นูนเญซ ที่เริ่มแสดงศักยภาพที่แท้จริงของเขาออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ โคดี้ กัคโป ถูกจับมาเล่นในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรุก ซึ่งผลงานก็ยอดเยี่ยมเยี่ยมเลยทีเดียว 

สวนทางกับเกมรับที่ต้องบอกว่าอาการหนักเหลือเกิน โดยเฉพาะ โฌเอล มาติป ที่เล่นได้ย่ำแย่สุดๆ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ นายใหญ่ชาวเยอรมัน จำเป็นต้องหากองหลังเพิ่มเพราะไม่อย่างนั้นทีมคงมีปัญหาใหญ่ในการรับมือกับคู่แข่งแน่นอน

แม้หลายคนมองว่าจะเป็นเพียงแค่เกมอุ่นเครื่อง และ คล็อปป์ ต้องการทดลองระบบ แต่สิ่งที่เห็นในแมตช์นี้ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" ทั้งประทับใจ และกังวลใจเหลือเกินกับทีมรักของพวกเขา 

1. กัคโป สวมบทมิดฟิลด์


โคดี้ กัคโป เริ่มต้นแมตช์วันนี้ในตำแหน่งผู้เล่นหมายเลข 10 โดยเปลี่ยนจากการเล่นแนวรุกด้านข้าง หรือหน้าเป้าเหมือนกับที่แฟนบอลลิเวอร์พูล เคยเห็นตอนที่ดาวเตะชาวดัตช์เล่นในช่วง 6 เดือนแรกที่ย้ายมาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์

แนวรุกวัย 24 ปีทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในช่วง 45 นาทีแรกกับบทบาทกองกลาง ทั้งความรวดเร็ว, ความพลิ้วในการเลี้ยงบอล และสัมผัสบอลแรกถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ นอกจากนี้นักเตะยังเชื่อมเกมกับ หลุยส์ ดิอาซ, ดีโอโก้ โชต้า และ เบน โด๊ค ได้อย่างเข้าขา ฟอร์มของเขาดูไม่เหมือนว่าเพิ่งจะรับบทบาทนี้เลย 

ช่วงที่ผ่านมามีการพูดกันเยอะมากเกี่ยวกับการเปลี่ยนตำแหน่งของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มายืนปักหลักในแดนกลาง แต่การย้ายตำแหน่งของ กัคโป ที่นำไปสู่บทบาทการเล่นเกมรุกที่ลื่นไหลมากขึ้นไม่ค่อยได้รับการพูดถึงมากนัก 

ถ้าหากแนวรุกของ ลิเวอร์พูล เล่นได้แบบช่วงปรีซีซั่นไปเรื่อยๆ แน่นอนว่า กัคโป มีโอกาสที่จะเป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวจริงที่จะได้ลงสนามช่วยต้นสังกัดใในแมตช์ประเดิมซีซั่นใหม่ปะทะ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี วันที่ 13 สิงหาคมนี้ 

2. แบรดลี่ย์  ออปชั่นแบ็กขวา


อีกหนึ่งนักเตะที่ได้เล่นตัวจริงในช่วงครึ่งแรก และทำผลงานได้อย่างโดดเด่นนั่นก็คือ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ โดยนักเตะหวนกลับมาสู่ทีมชุดใหญ่หลังจากถูกส่งไปหาประสบการณ์แบบยืมตัวกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

การที่ "หนุ่มเทรนต์" ถูกขยับขึ้นไปเล่นในแผงมิดฟิลด์ ขณะที่ คาลวิน แรมซี่ย์ ถูกส่งไปเล่นยืมตัวกับ เปรสตัน ส่วน เจมส์ มิลเนอร์ ย้ายไปค้าแข้งกับ ไบรท์ตัน นั่นทำให้ตำแหน่งแบ็กขวาว่างลง และงานนี้เป็นโอกาสดีที่ แบรดลี่ย์ อาจได้ลงสนามโดยเฉพาะในเกมฟุตบอลถ้วย

เจ้าหนูชาวไอร์แลนด์เหนือ วัย 20 ปี เล่นได้อย่างไม่มีที่ติด และไม่มีอาการตื่นตระหนกเมื่อต้องทำหน้าที่ฟูลแบ็คร่วมกับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ 

แบรดลี่ย์ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในการลากบอลขึ้นไปเล่นเกมรุก นอกจากนี้ยังมีจังหวะผ่านบอลเพอร์เฟกต์ และการเสียบสกัดที่แม่นยำ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องของนักเตะ

ถ้า คล็อปป์ ตัดสินใจที่จะเลือกใช้งาน อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในตำแหน่งมิดฟิลด์ งานนี้คงไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ที่จะได้เห็น แบรดลี่ย์ ได้รับโอกาสลงไปเล่นในตำแหน่งแบ็กขวาอย่างต่อเนื่อง 

3. นูนเญซ เล่นอย่างมั่นใจและใจเย็น


แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักเตะอย่าง เอลิง ฮาลันด์ แต่ก็ไม่มีกองหลังคนไหนอยากรับมือกับ ดาร์วิน นูนเญซ ในฤดูกาล 2023/2024  โดยเฉพาะผลงานการจบสกอร์ของนักเตะในช่วงเวลานี้แสดงให้เห็นว่าเขามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

จังหวะการยิง 2 ประตูในเกมกับ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ และเกือบได้อีกประตู เป็นเครื่องยืนยืนว่าตอนนี้ผู้เล่นหมายเลข 9 คนใหม่เล่นด้วยความนิ่ง และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพในการจบสกอร์ 

ประตูแรกแสดงให้เห็นว่า หัวหอกชาวอุรุกวัย มีความนิ่งมากขึ้นแม้อยู่ภายใต้แรงกดดัน เพราะสัมผัสบอลแรกของเขายอดเยี่ยมากๆ สามารถแตะหนีผู้รักษาประตูและจัดการจบสกอร์ได้อย่างง่ายได้ ขณะที่ประตูที่สองเจ้าตัววิ่งฉีกแนวรับคู่แข่งก่อนจะหักบอลเข้าในและยิงแบบใจเย็นเข้าประตูอย่างสวยงาม

สำหรับตอนนี้ นูนเญซ อาจจะไม่สามารถการันตีตำแหน่งตัวจริงได้ก็ตาม แต่ถ้านักเตะยังคงรักษาแนวทางการยิงประตูแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ งานนี้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน คงต้องคิดหนักในการเลือกผู้เล่นแนวรุกลงสนามแน่นอน 

4. ดิอาซ ค่อยๆ กลับสู่ฟอร์มเก่ง


สาวก "เดอะ ค็อป" ต้องพบกับเรื่องน่าผิดหวังเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เพราะ หลุยส์ ดิอาซ โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานทำให้ไม่สามารถช่วยทีมได้เกือบทั้งฤดูกาล และแน่นอนว่านั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ฟอร์มของ "หงส์แดง" ย่ำแย่

อย่างไรก็ตามในช่วงปรีซีซั่น ดาวเตะชาวโคลอมเบีย ค่อยกลับมาทำผลงานได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักเตะแสดงให้เห็นถึงการเล่นด้วยความมั่นใจ การกระชากลากเลื้อยที่สุดยอด และจังหวะการยิงประตูที่เฉียบคม

สำหรับประตูที่ ดิอาซ ทำได้ต้องบอกเลยว่ายอดเยี่ยมมากๆ และแน่นอนว่านี่คือสิ่งที่ คล็อปป์ แอนด์ โค. ต้องการ เพราะการที่นักเตะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อย่างสมบูรณ์ก็เหมือนกับ "เดอะ เร้ดส์" ได้นักเตะใหม่มาร่วมทัพ !

แน่นอนว่า นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ดิอาซ คือหนึ่งในผู้เล่นคีย์แมนสำคัญของลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2023/2024 ฉะนั้นหวังว่านักเตะจะยังคงฟิตสมบูรณ์และไม่ได้อาการบาดเจ็บเล่นงานเหมือนกับซีซั่นที่แล้ว 

5. มาติป อาการหนัก


แนวรุกของ ลิเวอร์พูล ในแมตช์นี้ต้องบอกว่าฟอร์มเด็ดดวงเหลือเกิน สวนทางกับเกมรับที่ต้องบอกว่าย่ำแย่จริงๆ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งนักเตะที่โดนตำหนิมากที่สุดก็คือ โฌเอล มาติป ! 

แนวรับวัย 31 ปีเล่นได้น่าผิดหวังมากๆ โดยเฉพาะจังหวะสกัดบอลพลาดจะๆ สองครั้ง ที่สำคัญหนึ่งในนั้นทำให้ทีมเสียประตู นอกจากนี้เขายังเล่นได้อย่างเชื่องช้า และสภาพความฟิตก็ไม่ค่อยดี

แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เกมปรีซีซั่น แต่จากผลงานของ ดาวเตะชาวแคเมอรูน ซึ่งสัญญาปัจจุบันในถิ่นแอนฟิลด์เหลือเพียง 1 ปีเท่านั้น คงทำให้ คล็อปป์ ต้องคิดทบทวนเรื่องการหาเซนเตอร์แบ็กเพิ่ม

ต้องยอมรับว่าตอนนี้ปราการหลังตัวกลางของทีมไม่ว่าจะเป็น ฟาน ไดค์, โกนาเต้, โจ โกเมซ และ มาติป ฟอร์มไม่ได้ยอดเยี่ยมเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ฉะนั้นการหากองหลังใหม่จึงเป็นสิ่งที่ "บอส" ต้องทำอย่างเร่งด่วน 

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages, twitter.com
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport