เปิด 2 แท็กติกที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือ เชลซี พร้อมนำมาใช้งานรองรับ มอยเซส ไกเซโด้ หลังกำลังพยายามเดินหน้าดึงมาร่วมทีม ขณะที่ตัวนักเตะเองก็แบะท่าอยากมาอยู่ด้วยเช่นกัน
ดาวเตะทีมชาติเอกวาดอร์ วัย 21 ปี เปิดใจผ่านรายการทีวีในบ้านเกิดเกี่ยวกับข่าวที่ เชลซี อยากได้ตัวไปเสริมทัพว่า "นี่คือทีมใหญ่ เป็นทีมที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย และผมคงไม่สามารถตอบปฎิเสธได้เพราะนี่คือทีมใหญ่ มีประวัติศาสตร์ชั้นยอด และยังเป็นเมืองที่สวยมากๆ ด้วย"
ในช่วงเปิดตลาดซัมเมอร์นี้ "สิงห์บลูส์" ได้ นิโคลัส แจ็คสัน และ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู เข้ามาเสริมแนวรุก แต่ก็ปล่อยนักเตะออกไปหลายรายอย่าง ไค ฮาแวร์ตซ์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, คาลิดู คูลิบาลี่, มาเตโอ โควาซิช, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, คริสเตียน พูลิซิช และ เอดูอาร์ เมนดี้
หาก เชลซี สามารถดึง ไกเซโด้ มาร่วมทีมได้สำเร็จก็คาดว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือคนใหม่ จะมี 2 แผนการเล่นไว้รองรับดังนี้
แผน1 - กลางคู่ เอ็นโซ่
ไกเซโด้ เป็นกองกลางที่สามารถวิ่งได้ไม่มีหมด และพร้อมมาจับคู่กับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ มิดฟิลด์ทีมชาติอาร์เจนตินา ในระบบ 4-2-3-1
ในตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็นหน้าที่ของ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ด้านแผงแบ็กโฟร์ให้ รีซ เจมส์ ยืนแบ็กขวา ขณะที่ เบน ชิลเวลล์ ประจำการฝั่งซ้าย ส่วนเซนเตอร์แบ็กใช้ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า หรือ เบอนัวต์ บาเดียชิล เล่นร่วมกับ ติอาโก้ ซิลวา
ขณะที่แผงแนวรุกให้ โนนี่ มาดูเอเก้ คอยลากเลื้อยด้านขวา ส่วน ราฮีม สเตอร์ลิง ยืนฝั่งซ้าย และให้ เอ็นกุนกู ยืนตรงกลางอยู่หลัง แจ็คสัน ที่จะรับบทกองหน้าตัวเป้า
แผน2 - ยืนต่ำทำหน้าที่กลางรับเต็มตัว
แท็กติกนี้จะให้ ไกเซโด้ ยืนต่ำในแดนกลางเพื่อคอยทำหน้าที่ตัวตัดเกมก่อนที่บอลจะไปถึงแบ็กโฟร์ รวมทั้งยังสามารถพาบอลขึ้นไปเองได้ด้วยในจังหวะที่ทีมเล่นโต้กลับเร็ว
ขณะที่ เอ็นโซ่ กับ เอ็นกุนกู จะคอยทำหน้าที่เป็นกองกลางตัวเดินเกม แล้วให้ มาดูเอเก้ เล่นเป็นปีกขวา ส่วน มิไคโล มูดริค คอยลากเลื้อยทางซ้าย โดยมี อาร์มานโด้ โบรย่า ยืนเป็นหน้าเป้า