ลิเวอร์พูล เข้าสู่ช่วยเตรียมความพร้อมปรีซีซั่นอย่างเป็นทางการแล้ว โดยทัพ "หงส์แดง" จะลงแข่งเกมอุ่นเครื่องนัดแรกในสัปดาห์หน้า งานนี้ก็เลยมีคำถามมากมายที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องขบคิดก่อนจะถึงช่วงเปิดฤดูกาล 2023/2024
สำหรับตอนนี้นักเตะที่ไม่ได้ช่วยทีมชาติในช่วงเดือนที่ผ่านมา เดินทางกลับไปที่ แอ๊กซ่า เทรนนิ่ง เซนเตอร์ ศูนย์ฝึกซ้อมสโมสรตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมตัวในการเรียกสภาพความฟิต โดยยังไม่มี เคอร์ติส โจนส์ กับ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่ช่วย อังกฤษ รุ่นยู 21 คว้าแชมป์ ยูโร ยู-21 และจะกลับเข้าแคมป์ในวันอังคารนี้
ขณะที่ปลายสัปดาห์นี้ ลิเวอร์พูล เตรียมยกพลขึ้นบกที่ประเทศเยอรมนี เพื่อเข้าแค้มป์เก็บตัวปรีซีซั่น จากนั้นก็จะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ สำหรับการเล่นเกมอุ่นเครื่องในเอเชียช่วงปลายเดือนนี้
หลังจากฤดูกาลที่น่าผิดหวังผ่านพ้นไปแล้ว ตอนนี้สิ่งสำคัญก็คือ คล็อปป์ จะต้องเตรียมแผนเพื่อนำมาใช้กับทีมสำหรับความท้าทายในซีซั่นใหม่ โดยสาวก "เดอะ ค็อป" มีคำถามที่น่าสนใจ 5 ข้อที่อยากจะรู้ว่า กุนซือชาวเยอรมัน จะแก้ปัญหาได้หรือไม่
1. เทรนต์ ควรจะเล่นตำแหน่งไหน ?
ช่วง 10 เกมสุดท้ายฤดูกาลที่ผ่านมา ทุกๆ คนได้เห็นเต็มสองตาแล้วว่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กลับมาทำผลงานได้อย่างสุดยอดอีกครั้ง หลังจากที่ คล็อปป์ จับเขาลงเล่นในตำแหน่ง "อินเวิร์ต ฟูลแบ็ก" ซึ่งมันทำให้นักเตะได้ขยับเข้าไปในตำแหน่งกองกลาง และใช้ศักยภาพที่มีสร้างความอันตรายให้กับคู่แข่งเยอะมาก
ผลงาน 7 แอสซิสต์ กับ 1 ประตู เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่านักเตะมีอิทธิพลมากแค่ไหนเมื่อเล่นตำแหน่งนี้ ขณะที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ยังจับ "หนุ่มเทรนต์" ไปยืนตำแหน่งมิดฟิลด์เต็มตัวให้ทัพ "สิงโตคำราม" และเขาก็ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นมากๆ
งานนี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ ว่า คล็อปป์ จะมีการพัฒนาแผนไปในทิศทางไหนตลอดปรีซีซั่นนี้ และ ลิเวอร์พูล จะเตรียมหรือจะทำยังไงเวลาที่ แข้งเจ้าของเสื้อหมายเลข 66 ไม่ได้ลงสนาม
สำหรับคำถามอย่างหลังเป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจาก อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ควรต้องได้พักร่างกายบ้างในบางช่วงของซีซั่น ดังนั้นนักเตะคนอื่นต้องพยายามที่จะเล่นในบทบาทเดียวกับเขาตอนปรีซีซั่นให้ได้ด้วย
2. ระบบใหม่จะใช่ต่อเนื่องหรือไม่ ?
จากฟอร์มการเล่นที่ทุกๆ คนได้เห็นในฤดูกาลที่ผ่านมา แฟนบอล "หงส์แดง" คงคาดหวังที่จะเห็น คล็อปป์ มาพร้อมกับระบบการเล่นที่มีการปรับปรุง และปรับแต่งให้เหมาะกับขุมกำลังชุดปัจจุบัน และพวกแข้งใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาในช่วงซัมเมอร์นี้
ระบบ 3-5-2 ถือเป็นรูปแบบใหม่ที่สาวก "เดอะ ค็อป" ได้เห็นในช่วงท้ายซีซั่นล่าสุด โดยระบบมีความไหลลื่น และเล่นการได้อย่างลงตัวไม่ว่าจะครองบอลหรือไม่ครองบอล ขณะเดียวกันยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบให้เป็นระบบ 4-4-2 ก็ได้
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเซนเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายจึงอาจเป็นอีกตำแหน่งที่จะต้องมีการเสริมทัพ เพราะบทบาทของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน อาจจะถูกกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงเหมือนกับกรณีของ "หนุ่มเทรนต์" ก็ได้
คล็อปป์ กับทีมงานจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องค่อยๆ พัฒนาระบบการเล่นอย่างต่อเนื่อง และงานนี้แฟนบอลลิเวอร์พูล จะได้เห็นสิ่งเหล่านั้นในช่วงออกสตาร์ทเกมอุ่นเครื่องตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
3. จะมีใครย้ายเข้ามาเพิ่มอีกไหม ?
ทีมจัดการคว้าตัว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โดมินิก โซโบซไล มาเสริมทัพเรียบร้อยแล้วช่วงซัมเมอร์นี้ และพวกเขายังคงมีข่าวพัวพันกันนักเตะอีกหลายคน ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้บทสรุปแต่อย่างใด
สำหรับตลาดพ่อค้าแข้งจะยังไม่ปิดตัวจนกระทั่งวันที่ 1 กันยายนนี้ หากมองในมุมของกองเชียร์ "หงส์แดง" อาจรู้สึกว่าทีมยังคงเสริมทัพช้าไปหน่อย เพราะ ลิเวอร์พูล เคยได้รับบทเรียนจากการไม่รีบเสริมแกร่งมาแล้วเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
กระนั้น "เดอะ เร้ดส์" พยายามที่จะสร้างขุมกำลังให้แข็งแกร่งที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดบทเรียนซ้ำสอง โดยช่วงที่ผ่านมาพวกเขามีข่าวพัวพันกับ โรเมโอ ลาเวีย กองกลางอนาคตไกลของ เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งหากทำสำเร็จถือว่า คล็อปป์ มีการยกแผงมิดฟิลด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องหาเซนเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายมาเสริมทัพอีกราย เพื่อเตรียมรองรับระบบการเล่นที่ คล็อปป์ อาจจะจับ โรเบิร์ตัน สวมบท "อินเวิร์ต ฟูลแบ็ก" อีกคน
นอกจากนี้ทีมอาจจะมีผู้เล่นอำลาสโมสรเพิ่มอย่างน้อย 2-3 รายก่อนที่พวกเขาจะเซ็นแข้งใหม่มาร่วมทัพเพิ่มก็ได้ ดังนั้นการได้ผู้เล่นเพิ่มที่สามารถเข้าเป็นส่วนหนึ่งในแค้มป์ฝึกซ้อมย่อมเป็นผลดีกับการเตรียมทีมอย่างยิ่ง
4. แล้ว นูนเญซ จะเล่นตรงไหน ?
ดาร์วิน นูนเญซ ทำผลงานไม่ค่อยคงเส้นคงวามากนัก แม้ว่าเจ้าตัวจะเล่นได้โดดเด่นแต่สิ่งหนึ่งที่ยังเป็นปัญหานั่นก็คือจังหวะการจบสกอร์ เพราะถ้านักเตะสามารถเปลี่ยนโอกาสที่มีเป็นประตูได้ เชื่อว่า คล็อปป์ คงยิ้มแก้มปริยิ่งกว่านี้
สำหรับ คล็อปป์ ดูเหมือนว่าเขาต้องการบางอย่างจาก นูนเญซ ในช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมา เนื่องจาก นายใหญ่ชาวเยอรมัน อยากเห็นนักเตะลงมาช่วยเกมรับให้มากกว่านี้ และพยายามที่จะพัฒนาเรื่องภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
ฤดูกาลแรกของ นูนเญซ ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เขาถูกจับไปเล่นเป็นแนวรุกฝั่งซ้าย และหน้าเป้า แต่สำหรับซีซั่นใหม่เจ้าตัวต้องเจอกับการแข่งขันอย่างสูงเพราะทางฝั่งซ้ายมีทั้ง หลุยส์ ดิอาซ กับ ดีโอโก้ โชต้า ส่วนหน้าเป้ามี โคดี้ กัคโป ที่ฟอร์มแรงเหลือเกิน ขณะที่ฝั่งขวา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จองสัมปทานยาว
ดังนั้นนี่คือช่วงซัมเมอร์ที่มีความสำคัญสำหรับ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย อย่างมาก และดูเหมือนเขาก็รู้แบบนั้นทำให้เจ้าตัวมีการซุ่มฝึกภาษาอังกฤษมาเป็นอย่างดี และวันแรกที่กลับเข้าแคมป์เจ้าตัวสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม และคล็อปป์ รวมทั้งทุกๆ คนในสโมสรด้วยภาษาอังกฤษซะด้วย
5. จะได้เห็นดาวรุ่งแจ้งเกิดไหม ?
สำหรับช่วงปรีซีซั่นเป็นโอกาสทองที่บรรดานักเตะดาวรุ่ง "หงส์แดง" จะได้โชว์ฝีเท้าร่วมกับทีมชุดใหญ่ และยังเป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะได้แสดงผลงานชั้นยอดให้กับ คล็อปป์ ได้เห็น
ผู้เล่นแห่งอนาคตอย่าง เบน โด๊ค, เมลคามู ฟรอยดอล์ฟ และ บ็อบบี้ คล้าร์ก จะได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทีม ขณะที่ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ และ ลุค แชมเบอร์ส จะกลับมาสู่ทีมหลังออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วยสัญญายืมตัว ขณะที่ ไทเลอร์ มอร์ตัน และ สเตฟาน บายเซติช น่าจะหายเจ็บกลับมาซ้อมร่วมกับรุ่นพี่ได้
เทรนต์ โคเน่ โดเฮอร์ตี้ อาจมีโอกาสได้สร้างความประทับใจให้กับทีมสตาฟฟ์ได้เห็น, ลูวิส คูมาส กับ ไอแซ็ค มาบายา ก็ควรสิทธิ์ที่จะได้มีส่วนร่วมกับทีม เช่นเดียวกับ จาเรลล์ ควอนซาห์ และ เจมส์ บาลากิซี่
แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเสมอที่จะได้เห็นพัฒนาการของบรรดานักเตะในศูนย์ฝึกเยาวชนสโมสร และสำหรับในช่วงซัมเมอร์นี้ หวังว่าคงจะมีเพชรเม็ดงามที่พร้อมให้ คล็อปป์ เจียระไน
ทอมเม้ง