เมสัน เมาท์ เข้าคลับ! ย้อนดู 5 แข้งย้ายจาก เชลซี สู่ แมนยู

เมสัน เมาท์ เข้าคลับ! ย้อนดู 5 แข้งย้ายจาก เชลซี สู่ แมนยู
บอกลา เชลซี ไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ เมสัน เมาท์ กองกลางชาวอังกฤษ หลังจากตลอดช่วงที่ผ่านมาเขาตกเป็นข่าวลืออย่างหนาหูกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเป็นที่เชื่อกันว่า "ปีศาจแดง" ยอมจ่ายค่าตัวในเบื้องต้น 55 ล้านปอนด์ และมีอ็อปชั่นจ่ายอีก 5 ล้านปอนด์หาก เมาท์ ทำผลงานได้ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดเอาไวั

นี่ถือเป็นดีลที่ทำให้แฟนบอล เชลซี ช้ำใจพอตัวเมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่า เมาท์ เป็นลูกหม้อของทีมและอยู่กับสโมสรมาตั้งแต่ปี 2005 ถึงกระนั้น เมาท์ ก็ไม่ใช่คนแรกที่ย้ายจาก เชลซี มาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยตรง มาลองย้อนดูกันว่ามีใครกันบ้าง

- เนมานย่า มาติช

เชื่อได้ว่าหลายคนคงยังจำกรณีนี้กันได้ดี เพราะตัว มาติช เก็บข้าวของเดินทางจากกรุงลอนดอนขึ้นไปยังเมืองแมนเชสเตอร์เมื่อช่วงกลางปี 2017 ที่ผ่านมา โดยตอนนั้นเขามีค่าตัวราว 40 ล้านปอนด์ด้วยกัน

ทั้งนี้ มาติช ใช้เวลาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เยอะกว่าที่ เชลซี ด้วยซ้ำ เพราะเขาเล่นให้ "สิงห์บลูส์" 4 ฤดูกาล คิดเป็น 151 นัดจากทุกรายการ ส่วนกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เขาอยู่ที่นั่น 5 ซีซั่น และลงสนามไป 189 เกมในทุกรายการ ถึงกระนั้น ตอนอยู่กับ เชลซี เขาได้แชมป์มากกว่า ทั้งการได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก 2 หนกับ เอเอ คัพ 1 ครั้ง ส่วนที่ "ปีศาจแดง" เขาไม่เคยได้สัมผัสกับบรรยากาศการเป็นแชมป์เลย

- ฆวน มาต้า

อีก 1 รายที่แฟนบอลน่าจะยังจำกันได้ เพราะว่าดีลของ มาต้า เกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม ปี 2014 โดยตอนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ควักกระเป๋าจ่ายค่าตัวไป 37.1 ล้านปอนด์ด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นมันถือเป็นดีลที่สร้างความฮือฮาได้พอตัว

มาต้า ก็เหมือนกับ มาติช ที่ได้ใช้ชีวิตในฐานะนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด มากกว่า หลังเขาอยู่กับที่นั่นตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2014 ไปจนถึงช่วงกลางปี 2022 ส่วนกับ เชลซี เขาอยู่ที่นั่นแค่ราว 2 ฤดูกาลครึ่ง โดยที่ เชลซี เขาได้แชมป์ เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก อย่างละ 1 สมัย ส่วนกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เขาเคยได้ฉลองแชมป์ เอฟเอ คัพ, อีเอฟแอล คัพ, ยูโรปา ลีก และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์

- เรย์ วิลกิ้นส์

วิลกิ้นส์ ถือเป็นลูกหม้อของ เชลซี เขาเคยอยู่กับอะคาเดมี่ของที่นั่นก่อนจะขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ในปี 1973 และหลังจากที่ เชลซี ตกชั้นจากลีกสูงสุดในปี 1975 รวมถึงมีแข้งตัวหลักย้ายออกไปหลายคนแล้วนั้น เอ็ดดี้ แม็คครีดี้ ผู้จัดการทีม เชลซี ในตอนนั้นก็ถึงขั้นให้ วิลกิ้นส์ ได้เป็นกัปตันทีมทั้งที่เขาเพิ่งมีอายุแค่ 18 ปี ซึ่งเขาก็ได้เป็นตัวหลักของทีมด้วย

วิลกิ้นส์ ถือเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่พา เชลซี กลับสู่ลีกสูงสุดได้ตอนจบฤดูกาล 1976-77 จากการเป็นรองแชมด์ ดิวิชั่น 2 และเขาก็ยังรักษาตำแหน่งตัวจริงได้อย่างต่อเนื่อง แต่หลังจาก เชลซี ตกชั้นตอนจบซีซั่น 1978-79 แล้วนั้น เขาก็โดนขายให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 825,000 ปอนด์ ซึ่งถือเป็นค่าตัวการย้ายออกจากทีมที่สูงที่สุดของ เชลซี ในตอนนั้น ทำให้เส้นทางของเขากับที่ เชลซี จบลงที่การเล่น 207 นัดในทุกรายการกับผลงาน 35 ประตู

ตอนอยูกับ แมนฯ ยูไนเต็ด วิลกิ้นส์ ก็ถือเป็นกำลังสำคัญของทีมหลายช่วงเนกันจนทำให้ได้ลงเล่นไป 194 นัดในทุกรายการ พร้อมกับทำได้ 10 ประตู ก่อนจะแยกทางกับทีมในปี 1984 โดยที่มี เอซี มิลาน ดึงไปใช้งานต่อ ซึ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เขามีแชมป์ เอฟเอ คัพ กับ แชร์ริตี้ ชิลด์ ติดมืออย่างละ 1 ครั้ง ต่างกับตอนเล่นให้ เชลซี ที่ไม่เคยได้แชมป์เลย

- อเล็กซ์ สเต็ปนี่ย์

สำหรับแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วนั้น นี่คือตำนานผู้รักษาประตูที่แฟนบอลหลายคนรัก หลังจกา สเต็ปนี่ย์ รับใช้ทีมอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1966 จนถึงปี 1978 จนทำให้เขาได้ลงเล่นในลีกให้กับทีมไปถึง 433 นัดด้วยกัน แถมยังเคยได้สัมผัสบรรยากาศการเป็นแชมป์กับทีมด้วย อย่างเช่น ยูโรเปี้ยน คัพ (ชื่อเดิมของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) 1 สมัย, แชมป์ลีกสูงสุด 1 ครั้ง และแชมป์ เอฟเอ คัพ 1 หน เป็นต้น

ความยิ่งใหญ่ของเขากับที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้หลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่าที่จริง สเต็ปนี่ย์ เคยเป็นผู้รักษาประตูของ เชลซี โดยเขาลงเล่นให้ที่นั่นไปเพียงแค่นัดเดียว ก่อนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะดึงไปเฝ้าเสาด้วยค่าตัว 55,000 ปอนด์ ซึ่งเป็นค่าตัวที่สูงเป็นสถิติในสมัยนั้น

- เกรแฮม มัวร์

เชลซี จ่ายเงินไป 35,000 ปอนด์เพื่อเอา มัวร์ มาอยู่กับทีมในปี 1961 หลังจากช่วงนั้นเขาทำผลงานได้โดดเด่นกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ซึ่งเจ้าตัวก็อยู่กับที่นั่นราว 2 ปี พร้อมกับผลงาน 13 ประตูจากการลงเล่นในลีก 68 นัด แถมยังมีส่วนพา เชลซี เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้ด้วย

พอถึงปี 1963 เขาก็โดนปล่อยให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวเท่ากับตอนที่ เชลซี จ่ายไป น่าเศร้าที่เขาโดนอาการบาดเจ็บตามเล่นงานอย่างรุนแรงจนทำให้ได้ลงเล่นในลีกไปเพียง 18 นัด และถูกขายอย่างรวดเร็วในปีต่อมา


- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport