โอกาสของ ดาร์วิน นูนเญซ

1 ปีที่ผ่านมา ดาร์วิน นูนเญซ ยังไม่สามารถตอบแทนความคุ้มค่าให้ ลิเวอร์พูล ได้

มันเป็นเครื่องหมายคำถามสำหรับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ว่าจะทำอย่างไรให้ ดาร์วิน กลายร่างเป็นเครื่องจักรสังหารเหมือนตอนอยู่ เบนฟิก้า

ดาร์วิน เซ็นสัญญาเข้ามาสู่รั้วแอนฟิลด์ด้วยฐานะนักเตะหมายเลข 9 แต่ผลงานที่ดีที่สุดของเขาเมื่อฤดูกาลก่อนคือตัวรุกทางฝั่งซ้าย

ฟอร์มในเกมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เดือนพฤศจิกายน 2022 เป็นตัวอย่างอันยอดเยี่ยมกับการเล่นตำแหน่งริมเส้น ที่แสดงให้เห็นถึงความเร็ว และการวิ่งบนพื้นที่ว่าง

สตาฟฟ์หลายคนที่ ลิเวอร์พูล เชื่อว่าการเคลื่อนที่ของ นูนเญซ ทำได้ดีเอามาก ๆ โดยเฉพาะการกะจังหวะตรงพื้นที่สุดท้าย และความละเอียดในการเล่นที่มักสอดเข้าไปในกรอบเขตโทษขณะที่ฝ่ายตั้งรับไม่ทันตั้งตัว

ความสามารถการอ่านเกมของ นูนเญซ ที่รู้ว่าพื้นที่ว่างมันอยู่ตรงไหน และการทำอย่างไรเพื่อให้เกิดพื้นที่ว่างขึ้นมา ทั้งที่ตอนแรกมันไม่มีว่างอยู่เลยนั้นเป็นองค์ประกอบหลักในพัฒนาการของเขาตอนอยู่กับ อัลเมเรีย และ เบนฟิก้า 

เพราะด้วยเหตุผลนี้ที่ทำให้เขาสร้างโอกาสยิงได้หลายหนในฤดูกาลแรกกับการเล่นให้ ลิเวอร์พูล จึงทำให้ค่า xG หรือค่าความน่าจะเป็นของการทำประตูของเขานั้นมีสูงมาก แต่ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นประตูได้

กระนั้นก็ดี บ่อยครั้งที่ นูนเญซ พาตัวเองเข้าไปในกรอบเขตโทษได้อยู่เรื่อย ๆ และเมื่อทำอย่างนั้นได้ โอกาสได้ประตูมันก็มีมากขึ้น 

คนในสโมสรมีความรู้สึกว่า นูนเญซ ไม่น่าจะต้องใช้เวลานานก่อนที่เขาจะเริ่มมีอัตราการทำประตูที่ยอดเยี่ยมเหมือนที่ทำได้ในฤดูกาลสุดท้ายกับ เบนฟิก้า โดยซีซั่นที่ว่า เขาทำได้ 34 ประตูจากการลงเล่น 41 นัดในทุกรายการ

อย่างไรก็ตาม มันก็มีการยอมรับด้วยว่าความนิ่ง และเทคนิคการทำประตูของเขายังสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าได้อีกเยอะได้ โดยเหล่าโค้ชที่ เคิร์คบี้ กระตุ้นให้ นูนเญซ ซ้อมเรื่องการทรงตัวและการใช้ศีรษะช่วยคุมบอล, ยืนให้ห่างจากบอลนิด ๆ ก่อนที่จะยิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลายิงทแยงมุม

แน่นอนว่า นูนเญซ ดูเล่นได้ดีกว่าปกติเวลาที่บอลมาจากทางซ้าย เขาจัดท่วงท่าดีจนสามารถยิงด้วยเท้าขวาได้ หรือเวลาที่เขายิงแบบไม่ต้องเสียเวลาจับบอล โดยเฉพาะเวลาที่ยิงแบบลูกวอลเล่ย์

"เขารับมือได้ยากมาก ๆ เป็นเหมือนเครื่องจักรเลย เขาจะทำประตูได้หลายลูกแน่ ๆ " คล็อปป์ ว่าไว้ตอนเดือนพฤษภาคม

นูนเญซ อาจจะเจอกับความยากลำบาก แต่สถิติภาพรวมถือว่าไม่เลวเมื่อทำได้ 15 ประตูจากโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริง 26 เกม และนัดที่เจอกับทีมแข็ง ๆ อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล, นิวคาสเซิ่ล รวมถึง นาโปลี กับ เรอัล มาดริด เขาก็ใส่สกอร์ทีมเหล่านี้ได้ทั้งหมด

ถึงกระนั้น ในเมื่อเขามีความสามารถล้นเหลือขนาดนั้น อะไรล่ะคืออุปสรรค?

ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ตลอด 1 ปีเต็มกำแพงภาษาคืออุปสรรคที่ นูนเญซ ยังข้ามไปไม่พ้น

นายใหญ่เลือดด๊อยช์ท เคยพูดในช่วงท้ายซีซั่นที่แล้วเกี่ยวกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องนี้มันส่งผลต่อความสม่ำเสมอยามอยู่บนฟลอร์หญ้า

"ดาร์วิน เป็นนักเตะที่มีทักษะที่แตกต่างจากผู้เล่นคนอื่นๆ  นั่นเป็นสิ่งที่ดี  เขายังคงต้องปรับตัว ภาษาอังกฤษของเขายังไม่ค่อยดีนักซึ่งมันไม่สามารถช่วยเขาได้" คล็อปป์ เผย

ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ต้องใช้ความเข้าใจในเรื่องแทคติคระดับสูง โดยเฉพาะยามที่ต้องแย่งบอลกลับคืนมา

บ่อยครั้งที่ นูนเญซ วิ่งไล่เพรซซิ่งผิดจังหวะ วิ่งเป็นบ้าเป็นหลังโดยที่ไม่รู้ว่าจะชิงบอลกลับมาได้อย่างไร

หลังเกมชนะ ฟูแล่ม ช่วงเดือนพฤษภาคม คล็อปป์ บอกว่าเขาเป็นเหมือน "ม้าแข่ง" (A racehorse)

แต่นั่นไม่ใช่คำชม เพราะ คล็อปป์ จะสื่อว่า นูนเญซ วิ่งไล่เหมือนม้าที่พุ่งใส่ทุกคนจนเปิดช่องให้ ฟูแล่ม ควบคุมสถานการณ์ในช่วงหนึ่งของเกม

ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการพยายามมากเพื่อทำให้ นูนเญซ สปีคอิงลิชคล่องขึ้น ซึ่งความคาดหวังเมื่อถึงตอนรายงานตัวในช่วงปรี-ซีซั่น เราคงจะได้เห็นว่าเขามีพัฒนาการที่ชัดเจนในเรื่องนั้น

บันไดขั้นต่อไป เมื่อได้ลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเขาหรือเปล่า?

การมาของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โดมินิค โซโบซไล ทำให้แฟนบอล ลิเวอร์พูล ได้ดื่มด่ำความสุข

และเชื่อเถอะว่า ตัวดาร์วิน เองก็คงมีความรู้สึกแบบนั้นไม่ต่างกัน

ทั้ง แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โซโบซไล ต่างขึ้นชื่อในเรื่องความสามารถการจ่ายบอลจังหวะสุดท้าย เช่นเดียวกับทักษะเล่นลูกนิ่ง 

ซึ่งสำหรับผู้เล่นที่วิ่งหาพื้นที่เก่ง ๆ แบบ นูนเญซ แล้วนั้น เพื่อนใหม่สองคนนี้คือส่วนเติมเต็มที่ยอดเยี่ยม

ยิ่งไปกว่านั้น หาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ต่อยอดจากการเล่นตรงกลาง นูนเญซ เองจะพบว่าจะมีคนคอยป้อนและมองเห็นการวิ่งหาพื้นที่ของเขาอยู่ถึง 3 ราย

1 ปีเต็ม ๆ ที่ นูนเญซ ได้ทำความเข้าใจกับ เทรนท์ ซึ่งเป็นคนที่จ่ายบอลดีที่สุดให้กับ ลิเวอร์พูล มันน่าตื่นเต้นสำหรับเขาแค่ไหนเมื่อจะมีเพื่อนที่จ่ายบอลดี ๆ เพิ่มขึ้นอีก 2 ราย

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ดึง โซโบซไล มาร่วมทัพก็เพราะความสามารถในการแทงบอลทะลุช่อง และการครอสบอลได้อันตรายจากทางฝั่งขวาในเวลาที่มีพื้นที่ว่างแบบปานกลาง (เป็นหน้าที่แบบที่ เทรนท์/เดอ บรอยน์ ถนัด) 

โดยนั่นเป็นพื้นที่ที่ นูนเญซ มักจะทำได้ดีด้วยเมื่อเขาได้เข้าไปอยู่ตรงนั้น

อย่างไรก็ดี การที่เขาจะได้โอกาสแบบนั้นได้ อันดับแรก นูนเญซ ต้องรักษาตำแหน่งตัวจริงให้ได้

และคำถามคือ ดาร์วิน นูนเญซ จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกสามประสานแดนหน้าของ ลิเวอร์พูล ได้ไหม?

คำตอบคือ มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อพิจารณาจากการได้ หลุยส์ ดิอาซ กลับมาจากอาการบาดเจ็บ, การกลับมายิงประตูต่อเนื่องของ ดีโอโก้ โชต้า และฟอร์มคงเส้นคงวาของ โคดี้ กัคโป นับตั้งแต่ย้ายมาตอนเดือนมกราคม

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อจบฤดูกาล 2022/23 การต่อสู้เพื่อตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า นูนเญซ แพ้ต่อ กัคโป ชัดเจน

ส่วนพื้นที่ฝั่งซ้าย ดิอาซ คือตัวเลือกแรกทันทีที่หายเจ็บกลับมาจนทำให้ นูนเญซ ได้ลงเล่นตัวจริงแค่ 3 จาก 9 นัดสุดท้าย และยิงเพียงลูกเดียวเท่านั้นจาก 11 เกมหลังสุด

การหาหนทางที่จะทำให้ นูนเญซ กลับมายิงประตูเป็นกอบเป็นกำเหมือนครั้งเล่นในลีกโปรตุเกส คือสิ่งที่ต้องทำของ คล็อปป์ ในช่วงปรีซีซั่น

เขาไม่ได้เลี้ยงบอลได้โดดเด่นทางฝั่งซ้ายเหมือนกับ ดิอาซ และไม่สามารถไล่กดดันในแดนหน้าได้ดีเหมือน โชต้า 

นอกจากนี้ เขาก็ไม่มีความโหดเหี้ยมแบบ ซาลาห์ และจับบอลได้ไม่ดีหากเทียบกับ กัคโป 

อย่างไรก็ตาม นูนเญซ ยังมีศักยภาพที่จะเป็นนักเตะคนสำคัญของ ลิเวอร์พูล ได้ 

"นี่เป็นโปรเจกต์ระยะยาว และเขาอยากลงเล่นสุด ๆ ผมเข้าใจดีว่า ดาร์วิน คงไม่ได้จะพอใจในตอนที่เขาไม่ได้เป็นตัวจริงแม้ว่าตอนอยู่ต่อหน้าผมเขาจะยิ้มแย้มก็ตาม"

"แต่ทุกอย่างมันโอเคดี เรามีแนวรุกห้า,หกคน ผมต้องเป็นคนตัดสินใจ ประตูยังคงเปิดกว้างสำหรับทุกคน" 

คำพูดที่ คล็อปป์ เคยบอกเพื่อเป็นการเสริมกำลังใจให้กับลูกทีมวัย 24 ปี

ถึงเวลาแล้วที่ ดาร์วิน นูนเญซ จะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเองคู่ควรกับนักเตะค่าตัวแพงสุดของสโมสรลิเวอร์พูล

HOSSALONSO