เดวิด เบ็คแฮม ระบุ เคยไม่เปิดทีวีดูเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด 3 ปี เพราะผิดหวังที่โดนปล่อยออกจากทีม พร้อมบอกว่าครอบครัวของตนโดนคนคุกคามอย่างหนักในช่วงที่ เบ็คแฮม ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ อังกฤษ ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายใน ฟุตบอลโลก 1998
เดวิด เบ็คแฮม ตำนานกองกลางชาวอังกฤษ เปิดเผยว่าตนเคยเสียใจที่ต้องย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนถึงขั้นไม่ดูเกมของ "ปีศาจแดง" แม้แต่นัดเดียวเป็นเวลา 3 ปี
เบ็คแฮม อยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ระดับอะคาเดมี่ ก่อนจะก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ในปี 1992 และเป็นหนึ่งในแกนหลักของทีมอย่างยาวนาน แต่สุดท้ายเขาก็โดนปล่อยไปอย่กับ เรอัล มาดริด ในปี 2003 หลังจากช่วงนั้นมีความสัมพันธ์ที่เลวร้ายกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีมชาวสกอตต์
อดีตแข้งวัย 48 ปีเผยว่า "ผมคิดอยู่เสมอว่าผมจะเริ่มเส้นทางการเป็นนักเตะอาชีพของผมกับที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และจะแขวนสตั๊ดกับที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมเคยไม่มีความคิดที่จะย้ายออกจากทีมไม่ว่าจะตอนไหนก็ตาม และผมไม่อยากเล่นให้สโมสรอื่นด้วย ผมถึงขั้นไม่ดูเกมของ ยูไนเต็ด ทางโทรทัศน์เลยในช่วง 3 ปีต่อมา (หมายถึงหลังจากที่ออกจากทีมไปแล้ว) แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันน่าหงุดหงิดมากๆ เมื่อพิจารณาถึงการที่ผมอยู่กับ ยูไนเต็ด มานานและเชียร์ทีมมาอย่างยาวนาน"
เบ็คแฮม บอกด้วยว่าตอนที่ อังกฤษ ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึก ฟุตบอลโลก 1998 นั้น แฟนบอลบางส่วนถึงขั้นตามคุกคามครอบครัวของตน หลังจากตอนนั้น เบ็คแฮม โดนใบแดงไล่ออกจากสนามจนทำให้หลายคนมองว่าเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทีมจอดป้ายที่รอบดังกล่าว "มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก แต่ครอบครัวของผมเจอหนักกว่าผม ที่จริงผมพยายามที่จะไม่โดนอารมณ์ครอบงำมากเกินไป แต่สิ่งที่ครอบครัวของผมเจอมันทำให้ผมรู้สึกกังวลสุดๆ"
"ผมจำได้เลยว่าคุณปู่ของผมเคยโทรศัพท์มาหาผมแล้วบอกว่า -เดวิด มีคนมาเคาะประตูบ้านแล้วบอกว่าแกทำให้คนทั้งประเทศต้องผิดหวัง รวมถึงทำให้ครอบครัวรู้สึกผิดหวัง- ปู่ควรจะตอบไปว่าอะไรดี ?-"
"ช่วงนั้นผมขับรถไปรอบๆ กรุงลอนดอนไม่ได้เลย ผมออกมาเดินรอบๆ กรุงลอนดอนไม่ได้ด้วย ผมไม่สามารถเข้าร้านอาหารร้านไหนได้เลย จะไปบาร์ที่ไหนก็ไม่ได้ ขนาดเพื่อนๆ ของผมยังไม่อยากออกมาเที่ยวกับผมด้วยซ้ำ พวกเขารู้ดีว่าผมจะโดนตามด่าอย่างหนักแน่ๆ ถ้าผมติดไฟแดงที่ไหนแล้วน่ะมันก็คงจะมีคนวิ่งมาเตะรถผมหรือไม่ก็ถุยน้ำลายใส่รถผมแน่นอน มันเกิดเรื่องแบบนั้นกับผมในทุกวันอยู่หลายปีเลยล่ะ"