ทำไมต้อง โซบอสไล

ทำไมต้อง โซบอสไล
โดมินิค โซบอสไล สร้างความหลงใหลจากหลายสโมสรทั่วยุโรป จากเทคนิคการเล่น และความคงเส้นคงวาตลอดฤดูกาล 2022/23

ซึ่ง ลิเวอร์พูล ดูจะเป็นทีมที่สนใจในตัวแข้งฮังกาเรี่ยน มากที่สุด จนกระทั่งได้รับการยืนยันจากสื่อหลายสำนักเทเสียงไปทางเดียวกันว่า "บรรลุข้อตกลงคว้าตัวได้แล้วที่ 70 ล้านยูโร ตามเงื่อนไขค่าฉีกสัญญา"

เรื่องรายละเอียดส่วนตัวไร้ปัญหาแน่ และขั้นตอนที่เหลือคือ ตรวจร่างกาย และเซ็นสัญญา

ดาวเตะวัย 22 ปีเตรียมยุติความสัมพันธ์กับทีมเครือ เร้ด บูลล์ ที่แน่นแฟ้นกันมา 5 ปี นับตั้งแต่ออกจากบ้านเกิดเมืองนอนตอนอายุ 16 

แรกเริ่มกับ เอฟซี ไลเฟอร์ริ่ง ลีกออสเตรีย ปี 2016 จากนั้นตบเท้าสู่ เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก และ อาร์เบ ไลป์ซิก ตามลำดับ

ถึงแม้ปลายทางที่ บุนเดสลีกา ดูสดใส พร้อมไปต่อบนเส้นทางใหม่ 

แต่การเริ่มต้นชีวิตบนแผ่นดินเยอรมนีตะวันออกของ โซบอสซ์ไล ไม่ได้ราบรื่นเหมือนตอนท้าย

เขามาถึง ไลป์ซิก ในเดือนธันวาคม 2020 ด้วยอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบจนร้างสนามถึงเดือนสิงหาคมปีถัดมา

2021/22 ขวบปีแรกแบบเต็มตัวกับ "ทีมกระทิงแดง" การลงสนามจากม้านั่งสำรอง (16) มีบ่อยครั้งกว่าการลงเป็นตัวจริง (15) 

แล้วระหว่างฤดูกาลต้องเจอกับการเปลี่ยนถ่ายเทรนเนอร์จาก เจสซี่ มาร์ช เป็น โดเมนิโก้ เทเดสโก้ 

ถึงกระนั้น โซบอสไล ก็ยังสามารถบันทึกสถิติยิง 6 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์ในปีแรกบนศึก บุนเดสลีกา 

ฤดูกาลที่แล้ว ภายใต้เทรนเนอร์ มาร์โก โรเซ่ โซบอสไล ทำประตูตอกฝาโลงพา ไลป์ซิก ปิดจ็อบใส่ ไอน์ทรัค แฟร้งเฟิร์ต ชูโทรฟี่ เดแอฟเบ โพคาล พร้อมกับสถิติยิง 6 แอสซิสต์ 8 เท่ากับซีซั่นก่อนหน้านั้น

และเพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญที่มีต่อ ไลป์ซิก มีเพียง วิลลี่ ออร์บาน เซ็นเตอร์แบ็กตัวหลักเท่านั้นที่ลงสนามมากกว่า โซบอสไล จากทุกรายการ

ถามว่า ความเก่งกาจของ โซบอสไล มีมากน้อยแค่ไหน?!

จริงอยู่ว่า โซบอสไล มักเล่นเป็นมิดฟิลด์ฝั่งขวาในระบบ 4-2-2-2 หรือ 4-2-3-1 แต่สิ่งที่เขาทำได้มากกว่านั้นคือ การเล่นเป็นปีก รวมถึงการสร้างสรรค์บนตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกที่สามารถถ่างออกด้านข้างได้

ขณะเดียวกัน การเล่นปีกอีกฝั่ง โซบอสไล ก็เล่นได้ไม่เคอะเขิน จากที่เขาเคยทำให้เห็นแล้วทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติ

โดยเฉพาะ การเล่นตัวรุกด้านข้างระบบ 3-4-3 ของ มาร์โก รอสซี่ กุนซือทีมชาติฮังการี

ไม่ว่าจะลากตัดเข้ากลางจากทางฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวา โซบอสไล มักจะชอบแทงบอลให้คนที่วิ่งแซงเขาขึ้นไป หรือไม่ก็เลือกยิงจากระยะไกล ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ในตัว

ตัวเลขหมวดเดียวกันนี้ มีเพียง เลรอย ซาเน่ ของ บาเยิร์น มิวนิค เท่านั้นที่ยิงจากนอกกรอบเขตโทษมากกว่าเขาเมื่อปีก่อน

ในจำนวนครั้งการยิงเหล่านั้นมี 2 หนที่เป็นประตู แม้ว่าค่าเฉลี่ยความน่าจะเป็นประตูจะสื่อว่าเขาพยายามยิงไกลมากเกินความจำเป็น 

แต่ โซบอสไล ควรได้รับอิสระในการเล่นอย่างเต็มที่ เมื่อคำนึงถึงเรื่องที่ว่าลูกยิงของเขามันมีความเด็ดขาดมาก

ดิ แอธเลติก เผยข้อมูลว่า สมัยวัยรุ่น ในแต่ละวัน โซบอสไล มักฝึกปรือลูกฟรีคิกเกือบ 200 ครั้งเพื่อเฟ้นหาเทคนิคที่เหมาะสมที่สุดแก่ตัวเอง

ซึ่งผลจากความหมั่นเพียรทำให้การสับไกลูกนิ่งของ โซบอสไล กลายเป็นหนึ่งในอาวุธหลัก

เขาวางสรีระสวยงามในขณะที่สามารถเคลื่อนบอลได้อย่างยอดเยี่ยม และหนึ่งในหลักฐานคือการที่เขาสามารถวางบอลได้อย่างแม่นยำในตอนที่เล่นลูกเตะมุม 

ขณะที่การเล่นลูกนิ่งเป็นจุดขายของเขา แต่ก็อย่าลืมเรื่องการสร้างสรรค์เกมที่ โซบอสไล มีดีไม่แพ้กัน

โซบอสไล สร้างสรรค์โอกาส 2.6 ครั้งต่อการเล่น 90 นาที เป็นอันดับ 9 ในหมู่นักเตะทั้งหมดของ บุนเดสลีกา เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

คุณอาจคิดได้ว่าตัวเลขนี้มันมาจากการที่เขาเป็นคนเล่นลูกนิ่ง ทว่าเมื่อขมวดเป็นการเล่นแบบโอเพ่น เพลย์ โซบอสไล มีตัวเลขสร้างโอกาสที่ 1.7 ครั้งต่อ 90 นาที ซึ่งอยู่ในอันดับ 11 ของลีก

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงการจ่ายบอลหรือจบสกอร์จังหวะสุดท้าย แต่ภาพรวมบอกได้ว่าเขามีส่วนร่วมกับการทำเกมบุกที่เขารับผิดชอบ

เมื่อมองที่การเล่นเกมบุกที่นำไปสู่การทำประตู อย่าง การผ่านบอล, ดวลกับคู่แข่ง และการเรียกฟาวล์ นั้น โซบอสไล มีตัวเลขที่ 5.5 ครั้งต่อเกม มากสุดในทีม 

ด้วยความที่เขาเล่นอยู่ทางกราบขวา ทำให้การครอสบอลเข้ามาจากด้านข้างถือเป็นส่วนสำคัญในด้านการสร้างโอกาสการทำประตูของ โซบอสไล เมื่อฤดูกาลก่อน

อย่างไรก็ตาม ดาวเตะชาวฮังกาเรี่ยน ยังมีความฉลาดในการเล่นจนมีการหลอกคู่แข่งในการผ่านบอล ไม่ใช่เอาแต่เปิดสูงเข้ากลางมันทุกครั้ง โดยมีหลายหนที่เขาทำให้บอลมันช้าลงแล้วเลือกที่จะเปิดแบบไม่สูงมากนักเพื่อหลอกคู่ต่อสู้

ความสามารถด้านเทคนิคของ โซบอสไล ไร้ข้อกังขาอยู่แล้ว แต่ความฉลาดในการเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด และการตัดสินใจได้ถูกต้องในช่วงเวลาที่สำคัญมันเป็นสิ่งที่ทำให้นักเตะชั้นยอดต่างไปจากนักเตะทั่ว ๆ ไป

แล้วเรื่องสมรรถภาพร่างกายล่ะ?!

แม้ว่าปกติแล้ว โซบอสไล จะเล่นตรงริมเส้น แต่เขากลับไม่ได้มีความเร็วระดับที่จะฉีกหนีคู่แข่งในสถานการณ์ที่ต้องดวลตัวต่อตัวได้ 

ความเร็วในการวิ่งระยะสั้นไม่ใช่จุดเด่นเลย แต่มีหลายครั้งที่คู่แข่งประมาทความสามารถในการเร่งความเร็วแบบฉับพลันของเขา

จากสถิติของ บุนเดสลีกา ที่บันทึกโดย AWS นั้น โซบอสไล เคยวิ่งได้เร็วสุดที่ 35.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือเป็นนักเตะที่มีจังหวะวิ่งได้เร็วที่สุดเป็นอันดับ 31 ของ บุนเดสลีกา 

ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแย่มากนักเมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่ามีถึง 506 คนที่อยู่ในข่ายการจัดอันดับนี้

รูปร่างของร่างกายมันสามารถหลอกตากันได้ ในขณะที่เขาอาจจะไม่ได้เป็นมิดฟิลด์ที่มีความครบเครื่องเหมือนกับปีกตัวอื่น ๆ ในทวีปยุโรป 

แต่ถ้านับเฉพาะใน ไลป์ซิก กลับไม่มีใครที่จะวิ่งในเกม บุนเดสลีกา ได้มากกว่า โซบอสไล จากการที่เขาทำไป 2,069 ครั้ง แถมเขายิงมีชอตสปรินท์ถึง 863 หน 

ถือเป็นนักเตะที่ทำอย่างนั้นได้มากที่สุดเป็นอันดับ 7 ของศึก บุนเดสลีกา เมื่อซีซั่นก่อนด้วย

สุดท้ายคือด้านแทคติค

แม้ว่าช่วงแรก ๆ ของการเล่นอาชีพ โซบอสไล เล่นเกมรับไม่ดีเท่าไหร่ แต่ฤดูกาลก่อน เขาก็แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีทั้งตอนที่ได้ครองบอลและตอนที่ไม่ได้ครองบอล

ที่ ไลป์ซิก มีระบบการเล่นที่วิ่งกันแบบดุดัน และเปลี่ยนจังหวะการเล่นอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นทำให้ ลิเวอร์พูล สามารถมั่นใจได้ว่า โซบอสไล ไม่น่าจะต้องใช้เวลามากนักในการปรับตัวให้เข้ากับระบบของ เจอร์เก้น คล็อปป์

ในฤดูกาลก่อนมีเพียง บาเยิร์น มิวนิค ที่ไล่กดดันคู่แข่งได้ดีกว่า ไลป์ซิก หลังจาก "ทีมกระทิงแดง" ปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสผ่านบอลภายในระยะ 40 หลาจากหน้าปากประตูของตัวเองเพียงแค่เฉลี่ย 11.1 ครั้งต่อเกม 

นอกจากนี้ ในฤดูกาล 2022-23 บาเยิร์น ยังเป็นทีมเดียวที่มีจังหวะการขึ้นบอลโดยตรงมากกว่า ไลป์ซิก ด้วย โดย ไลป์ซิก ทำได้ 77 ครั้ง ซึ่งการขึ้นเกมโดยตรงแบบนั้นเป็นส่วนสำคัญในการเล่นเกมสวนกลับเร็ว

โซบอสไล เป็นกุญแจสำคัญในจังหวะทรานซิชั่น เมื่อ ไลป์ซิก เสียการครอบครองบอลพวกเขาจะพยายามแย่งบอลกลับคืนให้ได้ตรงพื้นที่อันตราย

ในการเล่น บุนเดสลีกา ฤดูกาลก่อน ไลป์ซิก มีส่วนต่างระหว่างการได้ยิงเองกับการปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสทำประตูอยู่ที่ 46 ครั้ง นับเป็นทีมที่ทำได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีก 

ดังนั้นไม่ว่าจะมองจากด้านเกมรุกหรือเกมรับ แต่การยืนตำแหน่งทางฝั่งขวาของ โซบอสไล อาจจะทำให้พอมองเห็นว่า ลิเวอร์พูล จะอยากใช้งานเขาแบบไหน

ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลก่อนใช้แผน 3-บ็อกซ์-3 หรือก็คือ แผงกลางจะมีตัวโฮลด์บอลแบบนักเตะหมายเลข 6 อยู่ 2 คนในการขึ้นเกม ซึ่งคนที่รับบทบาทนั้นคือ ฟาบินโญ่ กับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดยจะมีนักเตะแบบหมายเลข 8 (หรือหมายเลข 10) อีก 2 คนคอยสนับสนุนเกมรุก

และหลังจากเซ็นสัญญากับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ แล้วนั้น ถามว่า โซบอสไล จะได้เล่นเป็นผู้เล่นหมายเลข 10 ในระบบใหม่ของ คล็อปป์ หรือไม่?

คำตอบคือ ดาวเตะทีมชาติฮังการี ปรับตัวเข้ากับการเล่นในแผงมิดฟิลด์แบบนั้นอยู่แล้วตอนที่เล่นในระบบ 4-2-2-2 ที่ ไลป์ซิก 

การยิงระยะไกลสามารถเป็นประโยชน์ได้เวลาที่คู่แข่งของ ลิเวอร์พูล เลือกที่จะถอยไปตั้งรับลึก ๆ เหมือนที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ซึ่งเพิ่งย้ายออกไปเคยได้รับคำแนะนำจากสตาฟฟ์ของ ลิเวอร์พูล ว่าให้ลองยิงไกลมากกว่าเดิม

ไม่ว่าจะลงเล่นตรงไหน โซบอสไล จะสร้างประโยชน์ และเพิ่มมิติใหม่ ๆ ให้กับ ลิเวอร์พูล ได้แน่นอน

HOSSALONSO

ข้อมูลจาก THE ATHLETIC


ที่มาของภาพ : GETTY IMAGE
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X