ปี 2002 บรูโน่ เชย์รู เซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล พร้อมคำเยินยอจาก เชราร์ อุลลิเย่ร์ ที่เปรียบเขากับ ซีเนดีน ซีดาน
"บรูโน่ มีทักษะที่ยอดเยี่ยม, วิสัยทัศน์ดี และมีสายตาการผ่านบอลที่เฉียบคม"
"ผมไม่ได้เปรียบเทียบกับ ซีดาน ได้ง่าย ๆ หรอกนะ และผมเชื่อว่าเขาจะสามารถเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ ลิเวอร์พูล"
"เขามีการสัมผัสบอลเหมือนกับที่ ซีดาน มี"
"ทั้งสองคนมีความคล้ายกันมากยามที่พวกเขามีบอลอยู่กับตัว"
ความเห็นของ อุลลิเย่ร์ ที่สร้างความ "เดอะ ค็อป" ตื่นเต้นไม่มากก็น้อย
...
อุลลิเย่ร์ นำ ลิเวอร์พูล ก้าวหน้า ไต่อันดับจาก 4, 3, 2 มาตลอด 3 ฤดูกาลหลัง
การได้ เชย์รู เข้ามากุนซือชาวฝรั่งเศส หวังยิ่งว่าจะช่วยยกระดับแผงกองกลางให้ดีขึ้น
สายตาของ อุลลิเย่ร์ มักมองไม่ค่อยพลาด แม้เคยมีจุดด่างกับการคว้า ฌอง-มิเชล เฟอร์รี่ หรือกระทั่ง อิกอร์ บิสคาน
แต่ต้องไม่ลืมผู้เล่นอย่าง แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ จนถึง ดีทมาร์ ฮามันน์
และเพียงแวบแรกที่แฟน ๆ ลิเวอร์พูล ได้เห็น เชย์รู
ว่าที่ทายาท ซีดาน คนนี้ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
ภายใต้แสงไฟที่ แอนฟิลด์ วันที่ 30 กรกฎาคม 2002
"เดอะ ค็อป" ส่งเสียงก้องทุกครั้งที่ เชย์รู เคลื่อนไหว
ทุกสัมผัสยามลูกบอลกระทบกับสตั๊ดสีขาว
หลายคนมั่นใจว่านี่คือ "รักแรกพบ"
หลายจังหวะ หลากท่วงท่า
เชย์รู แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมเรื่องการครองบอล, วิสัยทัศน์ในการเล่น และเทนนิคอันน่าทึ่ง
จังหวะลุ้นทำประตูต้นเกม แต่โดน ลูก้า มาเคจานี่ ผู้รักษาประตู ลาซิโอ ปัดออกไป
ต่อด้วยลูกยิงทรงพลัง แม้จะติดเซฟแต่ทำให้ เดอะ ค็อป ฮือฮาระดับหนึ่ง
ก่อน 45 นาทีแรกจะจบลง
เสียงตะโกน "บรูโน่, บรูโน่" กึกก้องไปทั่วสนาม
และเมื่อเริ่มครึ่งหลังไปแล้ว ความตื่นเต้นในตัว บรูโน่ ยังไม่จางหาย
เกิดช็อตที่เขาพยายามชิพแบบเหนือชั้นในกรอบเขตโทษ ซึ่งลูกบอลมันข้ามคานออกไปแค่นิดเดียว
หนุ่มจากเมืองน้ำหอม แสดงฝีเท้าออกมาได้อย่างโดดเด่นตลอด 73 นาทีที่อยู่ในสนาม
วันนั้น เขาทำให้แฟนบอลประทับใจมาก ๆ
ถึงขั้นว่าสามารถเอาธงทีมชาติฝรั่งเศส มาปักตรงกลางสนาม แล้วร้องเพลงชาติฝรั่งเศสตามก็ยังได้ หากเป็นสิ่งที่ เชย์รู ต้องการ..
แม้ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ 0-1
แต่ก็ถูกกลบด้วยฟอร์มของ บรูโน่ เชย์รู
เดอะ ค็อป บางรายออกจากสนามพร้อมรู้สึกสบายใจที่ว่า
ทีมรักของเขาได้จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ตามหาแล้ว
"เขาน่าจะเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมเลย"
"ลองคิดดูสิว่ามันจะเจ๋งแค่ไหนที่จะมีเขาลงเล่นโดยที่ยืนสนับสนุน โอเว่น อยู่ด้านหลังทุกสัปดาห์"
"เขาคือคนที่เราตามหาอยู่เลยล่ะ"
นั่นคือเสียงจากแฟนบอลรายหนึ่งที่เห็น เชย์รู ร่ายมนต์จนโดนใจ
แต่เรื่องน่าเศร้าที่หลังจากนั้น เชย์รู ไม่สามารถเป็นอย่างที่หลายคนหวังได้
ลิเวอร์พูล ได้ชูโทรฟี่ ลีก คัพ ในฤดูกาลนั้นก็จริง
แต่สำหรับดาวเตะฝรั่งเศส รายนี้ ผลงานลงเล่น 29 นัด 1 ประตูทุกรายการ
มันเต็มไปด้วยความคาดหวังที่ไม่เกิดขึ้นจริงมากมาย
ทว่า อุลลิเย่ร์ ยังยืนกรานหนักแน่นว่า บางทีเขาต้องใช้เวลาเพื่อปรับตัวอีกหน่อย
"ก็เหมือนกับนักเตะฝรั่งเศสคนอื่น ๆ ที่มาก่อนเขาแหละ"
"เขาคงต้องใช้เวลาอีกหน่อย"
"จำฤดูกาลแรกที่ อาร์เซน่อล ได้ไหมล่ะ?"
"ทุกคนเอาแต่หัวเราะใส่ โรแบร์ ปิแรส"
...
มกราคม 2004 เชย์รู ฟื้นคืนชีพเหมือนได้เกิดใหม่
เขาผลิตสกอร์แรกใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลูกยิงนำชัยพา ลิเวอร์พูล บุกชนะ เชลซี ที่ เดอะ บริดจ์
2 สัปดาห์ให้หลัง ยิงใส่ วูล์ฟส์ ในเกมบุกแชร์แต้มที่ โมลินิวซ์
และอีก 3 วันต่อมา เขาทำสองประตูในเกมชนะ นิวคาสเซิ่ล บอลถ้วย เอฟเอ คัพ รอบ 4
มันเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่เขาทำได้ 4 ประตูจาก 5 เกม
ทว่า เปลวไฟที่ลุกโชนในช่วงเวลานั้นกลับเปล่งประกายอยู่ได้ไม่นาน
พลันที่ ราฟาเอล เบนิเตซ เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม
เชย์รู ก็ถูกปล่อยยืมตัวทันที
หนแรกกับ มาร์กเซย และหนสองกับ บอร์กโดซ์
แล้วเซ็นถาวรกับ แรนส์ ซึ่งเป็นสโมสรสุดท้ายในอาชีพ
ตลอด 4 ฤดูกาลที่ เชย์รู อยู่ภายใต้สังกัด ลิเวอร์พูล
มีแค่เวลาหนึ่งชั่วโมงเศษในวันนั้นกับ ลาซิโอ
ที่เขาดูเหมือน ซีเนดีน ซีดาน คนต่อไปจริง ๆ
HOSSALONSO