อังเก้, ปรัชญา และ ธีราทร

อังเก้, ปรัชญา และ ธีราทร
'อังเก้' หรือ อันเจลอส ปอสเตโคกลู ชื่อนี้กำลังเป็นที่ฮือฮามากๆ กับวงการลูกหนังโลก โดยเฉพาะในอังกฤษ, ญี่ปุ่น และรวมถึงไทย เช่นกัน โทษฐานที่เขาเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชของ สเปอร์ส หนึ่งในสโมสรใหญ่ของเมืองหลวงลูกหนัง

เท่านั้นไม่พอ เฮดโค้ชเชื้อสายกรีซ ยังความหลังที่สวยงามกับทีมชาติออสเตรเลีย, โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส และ ธีราทร บุญมาทัน ซึ่งมันคือความเชื่อมโยงในโลกของฟุตบอล

กุนซือวัย 57 ปี เกิดและโต ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ แต่ครอบครัวอพยพไปออสเตรเลีย ตอนที่เขาอายุเพียง 5 ขวบ และที่สำคัญคือตอนเดินทางนั้นโดยสารโดย 'เรือ' อีกต่างหาก

ด้วยเหตุนี้เองทำให้ ปอสเตโคกลู เติบและโตบนดินแดนจิงโจ้ ก่อนจะคลุกคลีกับวงการฟุตบอลตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะ กระทั่งก้าวสู่งานโค้ช ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงเสียด้วย

'ฟุตบอลบุก' คือปรัชญาการทำทีมของเทรนเนอร์เชื้อสายกรีซ - ซึ่งนั่นน่าจะมาจากอิทธิพลที่เขาได้รับจาก เฟเรนซ์ ปุสกัส ตำนานศูนย์หน้าชาวฮังการี ที่เคยร่วมงานกันสมัยที่เขาเป็นนักเตะของ เซาธ์ เมลเบิร์น เฮลลาส

ความเก่งกาจด้านงานโค้ชของ ปอสเตโคกลู เริ่มฉายแววมาตั้งแต่สมัยคุมทัพ เซาธ์ เมลเบิร์น เฮลลาส ซึ่งเป็นอดีตต้นสังกัดสมัยค้าแข้งนั่นแหละ ก่อนจะไปพีกสุดขีดกับทีมชาติออสเตรเลีย โดยเริ่มจากการเซ็นสัญญาปี 2013 - พาไป เวิร์ล คัพ 2014 และคว้าแชมป์เอเชีย ปี 2015 แถมยังนำออสซี่ตะลุยฟุตบอลโลกอีกครั้งในปี 2018

เรียกได้ว่าการันตีความสำเร็จได้เลย

พอไปญี่ปุ่น ก็นำ มารินอส คว้าแชมป์ เจลีก 2019 ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นหนแรกในรอบ 15 ปี ที่กลับมาสู่บัลลังก์สูงสุดของประเทศ 

ในช่วงที่ ปอสเตโคกลู ทำงานบนดินแดนปลาดิบ เขาได้รู้จักกับ ธีราทร บุญมาทัน เด็กหนุ่มชาวไทย ที่เพิ่งย้ายไปเล่นให้ทีมนกนางนวลในฐานะนักเตะยืมตัวจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นซีซั่นที่สองที่กองหลังชาวนนทบุรี โลดแล่นใน เจลีก

แม้จะมีประสบการณ์กับ วิสเซิ่ล โกเบ ในปี 2018 แถมได้เล่นร่วมกับ อันเดรียส อีเนียสต้า และ ลูคัส โพดอลสกี้ สองผู้เล่นที่เคยได้แชมป์โลกมาแล้ว แต่ห้วงแรกในรั้ว นิสสัน สเตเดี้ยม ของดาวเตะทัพช้างศึกไม่ได้โสภาดังใครคิด

เขาต้องตกเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง แต่ด้วยความที่เป็นนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยเลือดนักสู้ ธีราทร มุ่งมั่นในสนามฝึกซ้อมและพยายามทำความเข้าใจในแท็กติกจาก ปอสเตโคกลู ให้รู้แบบถ่องแท้

จากสนับก้นได้เปลี่ยนเป็นสนับแข้ง - ธีราทร ฝ่าฟันจนกลายเป็นหนึ่งในฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่ทำให้ มารินอส คว้าแชมป์ เจลีก ได้อย่างยิ่งใหญ่ในฤดูกาล 2019

นอกจากจะสร้างประวัติศาสตร์กับการเป็นผู้เล่นไทย คนแรกที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น เขายังยกระดับตนเองไปสู่การเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่เก่งกาจที่สุดในเอเชีย อีกต่างหาก ซึ่งนั่นก็มาจากการเรียนรู้จาก ปอสเตโคกลู นั่นเอง 

ธีราทร มีความผูกพันกับกุนซือสัญชาติออสเตรเลีย แบบลึกซึ้ง หลายๆ ครั้งเขามักจะออกมายกย่องเทรนเนอร์วัย 57 ปี ผ่านโซเชียลมีเดียของตนเอง

"การออกมาเล่นลีกต่างประเทศ สิ่งที่นักฟุตบอลต้องเจอคือความกดดัน, ความคาดหวังและการยอมรับ" 

"อุปสรรคต่างๆ มากมายและสิ่งที่สำคัญคือการได้รับโอกาส"

 "ผมขอขอบคุณสำหรับโอกาสในทุกๆ ครั้งที่บอสมอบให้ ขอบคุณทุกๆ คำสอนสั่งที่มีให้ผมมาตลอด 2 ปีครึ่ง ขอบคุณที่ทำให้ผมเป็นนักเตะที่ดีขึ้น ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยเล่นมาก่อน ขอบคุณที่ทำให้ได้รู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือในทุกๆ วันทุกๆ วินาทีต้องมีความคิดที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไรถ้ามีความคิดที่แข็งแกร่ง เราจะสามารถผ่านมันไปได้"

"ตลอดระยะเวลา 2 ปีครึ่งที่ได้ร่วมงานกับบอส ผมมีความสุขและความสนุก มีผิดหวังในวันที่เราแพ้  มีสมหวังในวันที่ชนะ และเป็นแชมป์ เจลีก ด้วยกันในปี 2019 ถึงเวลาแล้ววันนี้ที่ต้องจากลากัน ผมขอให้บอสอังเก้ โชคดี และประสบความสำเร็จกับทีมใหม่ ผมจะคอยเชียร์และเป็นกำลังใจให้กับบอส ผมจะคิดถึงบอส และไม่มีวันลืมบอส"

THEERATHON TO THE BOSS ANGE

นี่คือข้อความที่ ธีราทร เขียนถึง ปอสเตโคกลู เมื่อ 10 มิถุนายน 2021

จากสิ่งที่กองหลังทีมชาติไทย ถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษร มันไม่ได้หมายความแค่ว่าโค้ชคนนี้มีดีแค่เรื่องของแท็กติก หากแต่ยังเก่งกาจในเรื่องจิตวิทยา ที่ทำให้ลูกทีมเชื่อมั่นในตัวเอง กระทั่งดึงศักยภาพสูงสุดออกมาแสดงให้เห็นบนฟลอร์หญ้า

ธีราทร ได้เรียนรู้มากมายจาก ปอสเตโคกลู ไม่ใช่เพียงเรื่องของฟุตบอล หากแต่ยังรวมไปถึงการใช้ชีวิตและแง่คิดในการดำรงชีพ

แชมป์ เอลีก กับ บริสเบน โรร์

แชมป์เอเชีย กับทีมชาติออสเตรเลีย

แชมป์ เจลีก กับ มารินอส

แชมป์ สกอตติช พรีเมียร์ลีก กับ กลาสโกว เซลติก

สู่การเป็นเฮดโค้ชของ สเปอร์ส

"เมื่อผู้คนต่างพูดถึงตัวผมในตอนนี้ ได้เห็นเก้าอี้ตัวนี้ที่ผมนั่งอยู่ ได้คุมสโมสรที่ยอดเยี่ยมและเต็มไปด้วยทรัพยากรนักเตะที่อุดมสมบูรณ์มากกว่าทีมใดๆ แต่สิ่งที่ผมอยากจะตอบกลับไป คือผมอยากบอกว่าตัวผมอยู่ล่างของล่างที่สุดในห่วงโซ่อาหาร"

"ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ผมรู้ตัวเองและก็ทำงานอย่างหนักหน่วงเสมอ และผมจะทำมันให้หนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะการแข่งขันที่สูงขึ้นในทุกๆ ฤดูกาล" นี่คือบทสัมภาษณ์หนึ่งที่อดีตบิ๊กบอส มารินอส กล่าวในการเข้ามาคุมทัพ เซลติก ซึ่งมันสะท้อนได้ชัดเจนว่าเขามีความมุ่งมั่นกับหน้าที่ของตนเองเพียงใด

ก้าวเดินของ ปอสเตโคกลู กำลังไต่สูงขึ้น ด้วยปรัชญาการทำงานที่เข้มข้น แม้ประสบการณ์ในการคุมทีมบนแผ่นดินยุโรป จะน้อยนิด แถมยังเป็น พานาไชกี สโมสรใน ดิวิชั่น 3 ของกรีซ อีกต่างหาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะล้มเหลวซะเมื่อไหร่

เป้าหมายมีไว้พุ่งชน

อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็มาจาก เอเบอร์ดีน ก่อนจะสร้าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนเกรียงไกร และตนเองได้รับพระราชทานยศอัศวิน

อาแซน เวนเกอร์ ก็ย้ายจาก นาโกยะ แกรมปัส เอต แล้วมาคุมทัพ อาร์เซน่อล จนยิ่งใหญ่ได้แชมป์ลีกอังกฤษ แบบไร้พ่ายมาแล้ว

อาจจะคนละยุค คนละสมัย แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นอีกไม่ได้ ขอเพียงเชื่อมั่นและตั้งใจ อุปสรรคที่ขวางกั้นก็พังทลายได้เช่นกัน 

อังเก้, ปรัชญา และ ธีราทร


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport