ในที่สุด การเสาะหากุนซือคนใหม่ของ สเปอร์ส ที่กลายเป็นมหากาพย์อยู่นานก็ลงเอยที่ อังเก้ ปอสเตโคกลู นายใหญ่ทีม เซลติก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก่อนจะประกาศแต่งตั้งกุนซือ ออสซี่ กุมบังเหียน ไก่เดือยทอง มีข่าวพัวพันกับโค้ชชื่อดังมากมายทั้ง หลุยส์ เอ็นรีเก้ , แว็งซ็อง กอมปานี , ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ , อาร์เน่ สล็อต และ ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าทุกรายล้วนคุ้นชื่อสำหรับแฟนบอลด้วยกันทั้งนั้น
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่แปลกที่สาวกทีม สเปอร์ส จะผุดแคมเปญแอนตี้กุนซือคนใหม่ของพวกเขาด้วยไม่พอใจที่ แดเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสรใช้เวลามองหานายใหญ่คนใหม่มาแทนที่ อันโตนิโอ คอนเต้ นานเกินเหตุก่อนตัดสินใจว่าจ้างกุนซือโลว์โปรไฟล์ในมุมมองของพวกเขา
ว่าแต่ว่า ปอสเตโคกลู จะเป็นเจ้านายที่ใช่สำหรับทีมดังแห่งกรุงลอนดอนหรือเปล่า เราจะไปทำความรู้จักกับผู้จัดการทีมวัย 57 ปีรายนี้กันอย่างทะลุปรุโปร่ง
- สายตาที่แหลมคม
ปอสเตโคกลู ได้รับการยกย่องว่าจ่ายตลาดได้อย่างยอดเยี่ยมโดยตลอดระยะเวลาของการคุมทีม เซลติก สองซีซั่น เขาดึงนักเตะมาร่วมงานทั้งสิ้น 29 ราย
ที่น่าสนใจก็คือในจำนวนนี้มีนักเตะ ญี่ปุ่น มากถึง 6 รายโดยเฉพาะ เคียวโกะ ฟุรุฮาชิ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของเขา
ดาวยิงซามูไรย้ายมาจาก วิสเซล โกเบ เมื่อเดือนก.ค. 2021 ด้วยค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์ และสร้างความคุ้มค่าให้กับ ม้าลายเขียวขาว กับทุกประตูที่เขายิงได้
แค่ซีซั่นแรกในลีกเมืองน้ำหอม หัวหอกวัย 28 ปีก็พังประตูได้ 20 ลูกจากการลงเล่น 33 นัดทั้งๆที่มีช่วงล้มเจ็บยาวด้วยซ้ำ
กระทั่งสิ้นสุดซีซั่นที่ผ่านมา เขาผงาดคว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของลีกสกอตต์ด้วยผลงาน 27 ประตูจาก 34 นัด ตลอดจนซิวรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ สมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (พีเอฟเอ) , สกอตติช พรีเมียร์ลีก และ สมาคมนักข่าวฟุตบอล
จากนั้นในเดือนธ.ค. 2021 เรโอะ ฮาตาเตะ และ ไดเซน มาเอดะ ก็ย้ายตาม เคียวโกะ มาที่ เซลติก พาร์ค แถมทั้งสองปรับตัวได้อย่างรวดเร็วจนกลายเป็นคีย์แมนของทีมเช่นกัน
และในเกมประเดิมสนาม มาเอดะ ก็คลำเป้าได้ทันที ขณะที่ ฮาตาเตะ โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในซีซั่นนี้จนมีชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ ด้วย
นอกจากนี้ โชต้า ปีกฝอยทอง และ คาเมร่อน คาร์เตอร์ วิคเกอร์ส อดีตกองหลัง สเปอร์ส ก็ถูก "บิ๊กอังเก้" ยืมตัวมา และในที่สุดทั้งสองก็ได้เซ็นสัญญากับ เซลติก อย่างถาวรเมื่อซัมเมอร์ก่อน
เท่านั้นไม่พอ ทีมจากเมืองกลาสโกว์ประสบกับปัญหาในตำแหน่งนายทวารด้วย และแน่นอนว่าทุกคนตะลึงงันที่ โจ ฮาร์ท ถูกฉุดมาจาก สเปอร์ส เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2021 เนื่องจากใครต่อใครมองว่าอดีตมือกาว แมนฯ ซิตี้ ผ่านจุดสูงสุดของอาชีพไปแล้ว แต่เอาเข้าจริงเขาเฝ้าเสาให้ เซลติก แทบไม่เคยขาดเลย และเป็นกำลังสำคัญพาทีมคว้าแชมป์ห้ารายการในสองปีที่ผ่านมา
- ประสบความสำเร็จระดับไหน?
ปอสเตโคกลู ได้แชมป์ลีก ออสเตรเลีย กับ เซาธ์ เมลเบิร์น สองสมัยในช่วงที่เขามีอายุ 30 ต้นๆ ก่อนย้ายไปคุมทีมชาติชุดเยาวชนนานเจ็ดปี
อย่างไรก็ดี หลังหันมาจับงานระดับสโมสรอีกรอบ ปอสเตโคกลู ก็สร้างชื่อได้ด้วยการพาทีม บริสเบน รอร์ ขยับจากอันดับบ๊วยมาคว้าแชมป์ เอลีก ได้ในปี 2011 และ 2012 อีกทั้งสร้างสถิติไม่แพ้นานถึง 36 นัด
กระทั่งปี 2014 เขาก็คุมทีม จิงโจ้ ร่วมสู้ศึก ฟุตบอลโลก และได้แชมป์ เอเชี่ยนคัพ ในปีต่อมา แถมพาทีม ซ็อคเกอร์รูส์ เข้ารอบสุดท้ายศึก เวิลด์คัพ ปี 2018 ได้ด้วย แต่ประกาศลาออกเพื่อรับงานกุมบังเหียน โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ซึ่งเขาเนรมิตแชมป์ เจลีก ให้ทีมได้เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีเมื่อปี 2019
- ผลงานในลีกน้ำเมา
นายใหญ่สัญชาติ ออสซี่ ได้แชมป์ในลีกวิสกี้ห้าจากหกรายการในเวลาสองปีที่เขารับงานกับ เซลติก รวมทั้งการพาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในซีซั่นสุดท้ายของเขา
แม้จะไม่มีโทรฟี่ยุโรป แต่ เซลติก โชว์ฟอร์มได้ไม่เลวในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อซีซั่นที่ผ่านมาจากการอยู่ในกลุ่มเดียวกับทีมแกร่งอย่าง เรอัล มาดริด , แอร์เบ ไลป์ซิก และ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค โดยพวกเขาเก็บได้สองแต้มจากเกมเสมอกับ ชัคตาร์ 1-1 ทั้งสองนัด
- มีประสบการณ์ใน พรีเมียร์ลีก มั้ย?
แน่นอนว่าไม่เคย แต่เขาแสดงออกว่ามั่นใจในฝีมือของตัวเองอย่างเต็มที่
แม้จะได้คุมทีม เซลติก แต่เป็นเพราะว่า เอ็ดดี้ ฮาว คุยกับทีมดังของลีกสกอตต์ไม่ลงตัว ส้มจึงหล่นใส่ ปอสเตโคกลู
"คุณอาจมองว่าผมเป็นตัวเลือกที่สอง ผมอาจเป็นตัวเลือกที่ห้าก็ได้ คุณไม่รู้หรอก" ปอสเตโคกลู ประกาศในวันเปิดตัวกับ เซลติก
"เรื่องนี้ไม่กระทบจิตใจผม สิ่งที่สำคัญก็คือผมได้รับโอกาสให้ผมได้แสดงความรับผิดชอบ"
"ผมเคยคุมทีมลงเล่น ฟุตบอลโลก มาแล้ว ผมเคยเป็นโค้ชของทีมชั้นยอดของโลกมาก่อนเช่นกัน"
- สไตล์ฟุตบอล
ปอสเตโคกลู ประสบความสำเร็จด้วยการคุมทีมเล่นเกมรุกเป็นหลัก และขึ้นชื่อในด้านการสร้างทีมของตัวเองขึ้นมาจนทำให้แฟนบอลประทับใจ
ต่อแนวทางดังกล่าวของเขาส่งผลให้ เซลติก สร้างสถิติของสโมสรหลังยุคสงครามด้วยการสอยตาข่ายในลีกได้มากถึง 114 ประตูเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา และแน่นอนว่ามันเริ่มตั้งแต่นายทวารที่เป็นคนผ่านบอลสร้างเกมโดยที่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟจะต้องพร้อมขยับขึ้นหน้า อีกทั้งเขาเป็นกุนซือที่ใช้ระบบฟูลแบ็คตัวในเน้นเกมรุกเช่นกัน
สำหรับแดนกลาง ปอสเตโคกลู วางสองมิดฟิลด์ตัวรุกคู่กัน และมีปีกสองข้างคอยสนับสนุนเกมรุกทางริมเส้นเพื่อเปิดโอกาสให้กองหน้ามีจังหวะเช็คบิลตลอดเวลา
ฉะนั้นแล้วแนวทางของเขาก็คือการเล่นเกมรุกแบบไม่หยุดยั้งนั่นเอง ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กเก็บบอลริมสนามที่ต้องมีส่วนร่วมทำให้ทีมเดินเกมรุกอย่างต่อเนื่องด้วย
- ปรัชญาฟุตบอล
ปอสเตโคกลู ซึ่งอพยพมาจากกรีซตั้งแต่อายุสี่ขวบได้แชมป์สองรายการสมัยเป็นกองหลังทีม เซาธ์ เมลเบิร์น ในยุคของกุนซือ เฟเรนซ์ ปุสกัส ตำนานผู้ล่วงลับของ เรอัล มาดริด และติดทีมชาติ ออสเตรเลีย สี่นัดก่อนจะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานจนต้องหันไปจับงานโค้ชแทนตั้งแต่อายุยังน้อย
โดยส่วนตัวแล้ว เขามีปรัชญาคุมทีมเล่นเกมรุกบุกแหลกเน้นเอนเตอร์เทนสถานเดียว แถมไม่คิดเปลี่ยนสไตล์โดยไม่หวั่นหน้าอินทร์หน้าพรหมด้วยแม้จะเป็นเกมที่ต้องต่อกรกับบรรดายักษ์ใหญ่ในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ตาม
จากระบบโปรด 4-3-3 ทำให้ทีมของเขาสามารถสร้างความกดดันฝ่ายตรงข้ามได้อย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับปรัชญาส่วนตัวที่เน้นให้ทีมบุกกระหน่ำแบบไม่มีหยุด
อีกทั้งการใช้ฟูลแบ็คขยับขึ้นสูงเพื่อเติมเกมรุกทำให้ เซลติก สามารถสร้างเกมได้ตั้งแต่แดนหลังเพื่อตรึงให้คู่แข่งหลังพิงกำแพงเนื่องจากการมีจำนวนนักเตะในเกมรุกมากขึ้นทำให้พวกเขาสามารถแย่งบอลกลับคืนมาได้ทันทีในแดนของฝ่ายตรงข้าม
นอกจากนี้ ปอสเตโคกลู ยังเป็นกุนซือที่สื่อสารกับลูกทีมได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วยแม้จะไม่คิดวางตัวเป็นเพื่อนกับนักเตะ และเลือกใช้วิธีกระตุ้นหรือวิจารณ์ลูกทีมอยู่บ่อยๆแทน