Whatever will be.. will be..

Whatever will be.. will be..
เสียงเพลง Que sera sera แว่วขึ้นมาในหัวตั้งแต่เมื่อวาน.. มันก็เป็นธรรมดาของชีวิต มีเก่า มีใหม่ มีอดีต มีปัจจุบัน มีวันข้างหน้า

มีความเปลี่ยนแปลงที่เป็นนิรันดร์ที่สุดแล้ว

ถึงกระนั้น ผมก็ยังมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้น หลังจากที่ได้เห็นพวกพ้องน้องพี่ในวงการ เห็นผู้คนมากมายทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก โพสต์ แชร์ และแสดงความคิดเห็นในคอมเมนต์กันเยอะเหลือเกินถึงความทรงจำที่มีต่อหนังสือพิมพ์สตาร์ซอคเก้อร์รายวัน

ในอารมณ์ใจหายปนเศร้านั้น มันยังเป็นความรู้สึกดีใจ ภูมิใจ และอบอุ่นในหัวใจ ผมคิดว่าพวกเราทุกคนที่เคยผ่านการทำงานกับ "เล่มเล็ก" มาไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ๆ ที่ลงมือสร้างมันมาด้วยน้ำพักน้ำแรง รุ่นเพื่อนรุ่นผมที่รับช่วงต่อ หรือรุ่นน้องที่ประคับประคองดูแลมันมาจนถึงวันนี้ต่างก็คงรู้สึกอย่างนั้น

ดีใจ ภูมิใจ และอบอุ่นในหัวใจ.. อยากจะกล่าวขอบคุณทุกๆ เสียงแห่งความคิดถึงที่มีต่อ "เล่มเล็ก" ของพวกเรา

พวกคุณทำให้เรารับรู้ว่าเส้นทางยาวไกลที่เราเดินมาด้วยกันนั้นมีความหมายมากเพียงใด

พวกคุณทำให้เรารับรู้ว่าช่วงเวลาแห่งความสุขที่มีร่วมกันมามันไม่ได้หายไปไหนเลย.. ทุกก้าวเดินของพวกเราอันหมายถึงทั้ง 'คุณ' และ 'เรา' ล้วนฝังแน่น สนิทลึกอยู่ในลิ้นชักแห่งความทรงจำร่วมกัน ส่วนจะเป็นภาพไหนเหตุการณ์ใดก็อยู่ที่ภาพจำของแต่ละคน

พวกคุณทำให้เรารับรู้ว่าความพยายาม ความสนุก เสียงหัวเราะ หรือกระทั่งน้ำตาที่เราทุ่มเทให้กับงานแห่งความฝันตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นมีคุณค่า มันไม่ได้สูญเปล่าเลยแม้แต่น้อย

เรารู้ดีว่าเราเป็นกลุ่มคนที่โชคดีเป็นบ้าที่ได้ทำงานในฝันแทนคนอีกมากมายที่อยากเข้ามาอยู่ตรงนี้ ผมสำนึกอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองยังรู้น้อยนัก ยังมีผู้อ่านอีกมากที่รู้ดีกว่าเรา รู้จริงกว่าเรา รู้ลึกกว่าเรา เพียงแต่พวกเขาเหล่านั้นไม่มีโอกาสได้เข้ามาอยู่ตรงนี้เหมือนเรา เพราะฉะนั้นเราต้องพยายามทำงานให้มีคุณภาพที่สุด ผิดพลาดให้น้อยที่สุด รักษาไฟในการทำงานและเรี่ยวแรงให้ได้นานที่สุด

สำหรับผมในฐานะที่รู้จัก "เล่มเล็ก" มาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มน้อย ซื้อทันตั้งแต่เล่มแรกหน้าปก พอล เมอร์สัน ที่วางเชิญชวนอย่างยวนเย้าบนแผงหนังสือเจ้าประจำหน้าปากซอยบ้านเก่าตรงข้ามโรงหนังเพชรรามา ขลุกอยู่กับมันนับแต่นั้นถึงขั้นเคยไม่ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ เพื่อตามอ่านซอคเก้อร์หน้าอื่นๆ ที่อ่านไม่ทัน จนมีโอกาสได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมงาน ได้แปลข่าว เขียนข่าว เขียนคอลัมน์ ปิดเล่ม ไปประจำการที่อังกฤษ และยังคงเขียนงานให้ "เล่มเล็ก" มาจนถึงฉบับสุดท้ายที่เป็นแท็บลอยด์..

ความภูมิใจที่เกิดขึ้นจากคำร่ำลาล้นหลามและเปี่ยมด้วยคุณค่าของพวกคุณนั้น ผมไม่ได้รู้สึกว่าเป็นความภูมิใจของตัวเองเลย แต่เป็นความภูมิใจแทนองค์กรและรุ่นพี่ทุกคนที่ช่วยกันปลุกปั้นมันมา

ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เราเพียงเข้ามาสานต่อสิ่งที่รุ่นพี่ทุกคนหักร้างถางพงเอาไว้ให้แล้ว ก่อร่างสร้างมันขึ้นมาจน "เล่มเล็ก" เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ยืนหยัดมั่นคงแข็งแรง เชิดหน้าชูตาได้อย่างไม่อายใคร

ภูมิใจแทนคุณระวิ โหลทอง ผู้ให้กำเนิดมันขึ้นมา เริ่มต้นจากความคิดในวันหนึ่งเมื่อหลายสิบปีก่อน ก่อนที่พรีเมียร์ลีกจะถือกำเนิดเสียอีก ความคิดบ้าๆ และสุดโต่งที่มีแต่คนคัดค้านในวันนั้นกลับได้รับการรดน้ำพรวนดินจากผู้คนจนเมล็ดพันธุ์แห่งความฝันหยั่งรากลึก แทงช่อพ้นผิวดินแล้วค่อยๆ เติบโตจนกลายเป็นต้นไม้สูงใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขาร่มเย็น

มอบความฝัน สร้างความหวัง ขัดเกลาเด็กให้เป็นผู้ใหญ่ ขยับขยายแตกแขนงออกไปทำงานในวงการจากรุ่นสู่รุ่นมาไม่รู้กี่คนต่อกี่คน

ภูมิใจแทนพี่ๆ รุ่นบุกเบิกที่รับคำสั่งโดยตรงลงมา ความลังเลใจที่มีอยู่บ้างในทีแรกว่ามันจะไปรอดหรือจำต้องถูกโยนทิ้งไปเพราะคำง่ายๆ "พี่วิให้ทำ" แล้วจึงพบว่าผลตอบแทนกลับมาที่เริ่มมองเห็นและมองเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ นั้นไม่เพียงแต่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นอีกครั้งที่พี่วิคิดถูก มันยังเป็นน้ำทิพย์หล่อเลี้ยงชโลมใจให้ทุกคนมีกำลังใจในการเลี้ยงดูเจ้า "เล่มเล็ก" ให้โตมาอย่างมีคุณภาพ

แล้วคนรุ่นเพื่อน รุ่นผม และรุ่นน้องก็เข้ารับช่วงมาดูแลต่อ ด้วยความรักและความฝันที่มาบรรจบกันจนเป็นความจริง มันคืองานในฝันโดยแท้

จากหนึ่งปี สู่สามปี เจ็ดปี สิบสองปี สิบห้าปี ยี่สิบปี ยี่สิบหกปี สามสิบเอ็ดปี..

นานนะครับ นานพอที่จะทำให้เด็กกะโปโลคนหนึ่งเติบโตขึ้นสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัว

กลายเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ยังคงรักฟุตบอลเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือผู้ใหญ่คนนี้มีเพื่อนฝูงมากมาย

มันคือความภูมิใจอย่างที่สุดอีกด้านหนึ่งเหมือนกันนะครับ

ท่ามกลางห้วงคำนึงแห่งความคิดถึงและถ้อยคำร่ำลาที่เปี่ยมไปด้วยความหมายของพวกคุณ ผมคิดว่าถ้ามันพูดได้ เจ้า "เล่มเล็ก" ก็คงอยากจะพูดว่า "ผมก็คิดถึงพวกคุณเหมือนกัน"

เล่มเล็ก..

มันไม่เพียงเป็นหนังสือพิมพ์ รูปเล่มของมันอาจจะเป็นอย่างนั้น เป็นแท็บลอยด์หยิบฉวยถนัดมือ พับสองทบเสียบกระเป๋ากางเกงด้านหลังได้ พลิกอ่านทีละหน้าเสียงกระดาษกรอบแกรบสัมผัสแก้วหู ได้ของแถมคือหมึกพิมพ์ที่เปื้อนนิ้วและกลิ่นฉุนติดจมูก

แต่มันยังเป็นอะไรที่มากกว่านั้น..

เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นมิตรสหายที่อยู่เคียงข้าง มองตาก็รู้ใจ และวิ่งเล่นหกคะเมนตีลังกามาด้วยกันกับเรา

เป็นตำรา เป็นอาจารย์ เป็นแหล่งความรู้และยังเป็นแปลงปลูกฝังความรัก

เป็นความสุข เป็นศรัทธา เป็นแรงบันดาลใจ

เป็นความหวัง ทั้งยังเป็นจินตนาการ

"เล่มเล็ก" เป็นความทรงจำ..

ไม่ใช่แค่หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์.. มันเป็นความทรงจำ และยังเป็นสัญลักษณ์แห่งวันวาน เป็นวิถีร่วมสมัยกับความสุนทรีในวันที่ชีวิตยังเนิบช้า

ในวันนี้ "เล่มเล็ก" ที่เป็นแท็บลอยด์ไม่มีแล้ว จะพูดว่า ลาก่อนแท็บลอยด์แห่งความฝันวัยเยาว์ของผม ก็คงไม่ผิดหรอก

แต่จริงๆ แล้วจิตวิญญาณของมันไม่ได้หายไปไหนเลยครับ นอกจากมันยังคงอยู่ในใจของเราทุกคนแล้ว ในความเป็นจริงมันก็ยังคงอยู่ให้จับต้องได้ทุกวี่วัน

เพียงเปลี่ยนจากโฉมแท็บลอยด์ทั้งฉบับ กลับไปรวมกับ "เล่มใหญ่" พี่ชายของมันอย่างที่เคยเป็นมาก่อน

เพราะก่อนที่จะถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อปี 1992 "เล่มเล็ก" ก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของ "เล่มใหญ่" ในรูปแบบของฉบับสอดไส้พิเศษหรือบางวาระอาจแยกออกมาพิมพ์เป็นฉบับเฉพาะกิจไปเลยอย่างช่วงฟุตบอลโลกหรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป

ด้วยข้อจำกัดและปัจจัยต่างๆ ในวันนี้ มันกลับไปรวมกับพี่ชายอีกครั้ง

จากหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน "เล่มใหญ่" และ หนังสือพิมพ์สตาร์ซอคเก้อร์รายวัน "เล่มเล็ก" เป็นหนังสือพิมพ์สยามกีฬา/สตาร์ซอคเก้อร์ รายวัน

คอลัมน์ต่างๆ จากเล่มเล็กยังอยู่ครบ

ลาก่อน แต่ไม่ใช่ลาขาด กลับไปสู่จุดเริ่มต้น ไม่ใช่จุดสิ้นสุด..

ขอบคุณทุกคำอำลาที่มีให้ "เล่มเล็ก" นะครับ ขอบคุณทุกคนที่ร่วมทางกันมาและยังคงคิดถึงมัน วันนี้เรามาร่ำลาเล่มเล็กที่เป็นแท็บลอยด์กันแล้วก้าวเดินต่อไปกับวันใหม่

Whatever will be.. will be..

ก็อยู่ด้วยกันมาตั้งสามสิบเอ็ดปีจะไม่ให้ใจหายและคิดถึงได้ยังไงนะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ ขอบคุณจริงๆ..

----------------

ขออนุญาตทำความเข้าใจให้ตรงกันอีกครั้งนะครับ..

พวกเรายังคงเขียนคอลัมน์ส่งเล่มเล็กเหมือนเดิมไม่ได้หายไปไหน ทั้ง พี่ยอดทอง คุณอาช่อคูน พี่ชู้ตเอ๊าต์ พี่ Jackie พี่บอ.บู๋ พี่ลิตเติ้ลโจ พี่หน่องคุณฉุย ผม เจมส์ ลา ลีกา ไก่ป่า ลาปุย

เพียงแต่ย้ายจากฉบับที่เป็นแท็บลอยด์ไปอยู่ในหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวันที่จะเปลี่ยนหัวหนังสือเป็น สยามกีฬา/สตาร์ซอคเก้อร์ รายวัน

คิดถึงกันก็ยังตามไปอุดหนุนกันได้ หาซื้อตามแผงหนังสือหรือเซเว่นอีเลฟเว่นไม่ได้ก็ยังมีช่องทางออนไลน์ทั้ง Shopee, Lazada เว็บไซต์ aladinonline แอดไลน์ aladinonline กับ siamsportshop หรือจะเป็นในรูปแบบ e-book ก็มีทั้งในแอพ ookbee และ meb

หนังสือพิมพ์สตาร์ซอคเก้อร์รายวัน "เล่มเล็ก" ฉบับสุดท้ายที่วางแผงวันนี้ก็เช่นกันครับ ใครที่หาซื้อไม่ได้ก็ยังเข้าไปสั่งซื้อได้ทางช่องทางเหล่านี้ แนะนำทาง Shopee กับ Lazada จะสะดวกที่สุด เข้าไปแล้วพิมพ์ siamsport หรือ สตาร์ซอคเก้อร์ ก็ได้ มันยังมีหนังสือทั้งเก่าและใหม่ รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ของสยามสปอร์ตวางจำหน่ายอยู่ครับ

ตังกุย


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport