เรียนรู้จากความล้มเหลว

เรียนรู้จากความล้มเหลว
สิ้นสุดเสียทีสำหรับฤดูกาลอันแสนระทม

ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา แฟนบอล ลิเวอร์พูล หลายคนจมอยู่กับความผิดหวังมากกว่าความสุข

จากจุดที่เคยยืนเมื่อปีกลาย มี 2 ถ้วยแชมป์ในประเทศ, ขับเคี่ยวแชมป์ลีกจนหยดสุดท้าย, เป็นรองแชมป์ยุโรป แต่หนึ่งปีผ่านไปกลับกลายเป็นว่าไร้ซึ่งถ้วยรางวัลใด ๆ ให้เชยชม 

ยิ่งไปกว่านั้นคือหลุดจาก 4 อันดับแรก

เจมส์ เพียร์ซ คนข่าวชาวเดอะ ค็อปนคนดัง ถึงกับใช้คำว่า "That’s some fall from grace" ซึ่งในบริบทภาษาไทยเข้าใจง่าย ๆ คือ "เทวดาตกสวรรค์" ประมาณนั้น

ตั้งแต่วันเปิดฤดูกาล ผลงาน ลิเวอร์พูล ลุ่ม ๆ ดอน ๆ 

เกมลีก 38 นัด มีช่วงที่ ลิเวอร์พูล เข้าเบรคคว้าชัยชนะติด ๆ กันได้แค่ 2 ช่วงเท่านั้น คือช่วงรอยต่อพักเบรคฟุตบอลโลก ที่คว้าชัย 4 เกมติด (สเปอร์ส, เซาธ์แฮมป์ตัน, แอสตัน วิลล่า, เลสเตอร์) กับอีกช่วงคือ 7 เกมรวดตอนท้ายซีซั่น

ถึงกระนั้น การเข้าเบรคคว้าชัยที่ว่ามันยังน้อยกว่าการถอยเกียร์ไร้ชัยติดกันของทีมเสียอีก 

กางสถิติออกมา ปรากฏว่า มีถึง 4 ช่วงที่มีอย่างน้อย ๆ 3 เกมติดที่ ลิเวอร์พูล ไม่ชนะใคร

อย่างไรก็ตาม ยังพอมีช่วงเวลาดี ๆ ที่ให้ "เดอะ ค็อป" ได้เชยชม กับการไม่แพ้ใครช่วง 11 เกมสุดท้าย แม้ว่ามันไม่ดีพอที่จะส่งทีมรักได้ไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ตาม

"ในระหว่างฤดูกาลเหมือนมีช่วงเวลาที่มันให้ความรู้สึกว่ากินเวลามานาน 4 ปี"

"ขอบคุณพระเจ้าสำหรับ 11 เกมที่ผ่านมา มันช่วยได้มากจริง ๆ ทำให้เรามีกำลังใจ, มีมุมมอง อะไรมากขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานที่เราจะต้องทำ" คล็อปป์ เผยในวันปิดฤดูกาล

"เราผิดหวังมากที่เราไม่ติดท็อปโฟร์ แต่คุณก็ต้องยอมรับว่ามี 4 ทีมที่ดีกว่าเรา นั่นคือความจริง"

"เราเล่นได้แย่และจบอันดับ 5 ลองนึกภาพสิว่าถ้าเราเล่นตามแบบปกติได้มากกว่านี้จะเป็นยังไง"

"เราจะทำแบบนั้นในฤดูกาลหน้าได้แน่นอน เราจะกลับมามีลุ้นแชมป์อีกครั้ง ช่วง 11 เกมสุดท้าย มันช่วยทำให้เราตระหนักถึงเรื่องนั้น"

ขณะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แสดงปฏิกิริยาออกมาตั้งแต่วันที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การันตีพื้นที่ แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วส่งให้ ลิเวอร์พูล หมดลุ้นไปโดยปริยาย

เขาเสียใจยิ่งยวดกับความล้มเหลวของต้นสังกัดที่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายขั้นต่ำสุดที่ ลิเวอร์พูล ต้องทำให้ได้ นั่นคือการจบ 4 อันดับแรก และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้นั้น มันไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น 

"เราทำให้พวกคุณและตัวเองผิดหวัง" ดาวยิงชาวอียิปต์ กล่าวปิดท้ายใน ทวิตเตอร์

ข้อความที่ ซาลาห์ เผยมา ตีความได้ว่าจริง ๆ เขาไม่ได้ติดใจอะไรกับการที่ต้องไปเล่น ยูโรปา ลีก เลย เพียงแต่ต้องการกระตุ้นเพื่อให้ ลิเวอร์พูล กลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้งตอนเดือนสิงหาคม

ลิเวอร์พูล ต้องเรียนรู้จากความล้มเหลวนี้เพื่อให้มั่นใจว่าฤดูกาลแย่ ๆ แบบนี้ จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก 

ตัวเลข 30 ประตูกับ 16 แอสซิสต์จากทุกรายการ นับว่า ซาลาห์ เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ยังคงตัวเองให้อยู่ในมาตรฐาน 

ลิเวอร์พูล จบฤดูกาลด้วยแต้มที่น้อยกว่าปี 2021/22 ถึง 25 คะแนน ยิงน้อยลงกว่าเดิม 19 ลูก และเสียประตูเพิ่มขึ้น 21 ลูก 

เกมที่ เซนต์ แมร์รี่ส์ เกมเดียว สามารถอธิบายถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี

มีความสุขตอนนำ 2-0 

รู้สึกช็อคตอนโดน 4-2

กลับมาเฮได้แต้มตอนเสมอ 4-4

และเกือบพลิกแซงนำจากโอกาสหลายต่อหลายหนช่วงท้ายเกม

ขณะเดียวกันมันก็ชี้ชัดถึงปัญหาที่ยังไม่คลี่คลายออกไปสักที

นั่นคือ ความเปราะบางของเกมรับ และช่องโหว่ตรงแดนกลางที่แม้แต่ทีมอันดับสุดท้ายอย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน ยังหาลู่ทางเล่นงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า

มันตอกย้ำแผลเดิม ๆ และชี้ชัดให้เห็นถึงความสำคัญช่วงตลาดซื้อขายหน้าร้อนนี้ ที่จำเป็นต้องผ่าตัดทีมขนานใหญ่ตั้งแต่ต้นตอ ไม่ใช่แค่เอากระดาษมาปิดเพื่อซ่อนรอยแตกร้าว

การไม่เสริมทัพมากเท่าที่ควรในช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน ส่งผลเสียต่อ ลิเวอร์พูล อย่างมาก 

ต้องยอมรับว่าพวกเขาประเมินขุมกำลังของตัวเองพลาดไป ตายใจคิดว่าการกรำศึกหนัก 63 เกมในฤดูกาลเดียวจะไม่ส่งผลกระทบต่อทีมมากนัก

ซัมเมอร์ปีก่อน ลิเวอร์พูล มองหามิดฟิลด์ฝีเท้าดี แต่จาก ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ซึ่งเป็นเป้าหมายแรก สุดท้ายลงเอยด้วยการเซ็นสัญญากับ อาร์ตูร์ เมโล่ ในวันเดดไลน์

ความผิดพลาดนั้น ตอกย้ำด้วยการที่ มิดฟิลด์แซมบ้า ไม่มีส่วนร่วมกับเกมลีกเลยสักวินาทีเดียว 

ตลาดที่กำลังจะใกล้เข้ามา ลิเวอร์พูล จำเป็นจริง ๆ แล้วที่ต้องนำกองกลางที่พร้อมใช้งานได้เลยอย่างน้อย 2 หรือ 3 คน

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ คือชื่อลำดับต้น ๆ ที่สโมสรเล็งเป้าเอาไว้

อย่างไรก็ดี สภาพเกมรับอันเหวอะหวะจากเกมล่าสุดที่ออกมา เผยให้เห็นอีกแผลที่ว่า โจ โกเมซ กับ โฌแอล มาติป ไม่สามารถเป็นผู้เล่นที่ทีมจะพึ่งพาได้อีกต่อไป

ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องหากองหลังที่ดีกว่านี้อีกสักคนเพื่อเป็นทางเลือกยามที่ อิบราฮิม่า โกนาเต้ หรือ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ลงเล่นไม่ได้

หากเจ้าของทีมจริงจังที่จะดึง ลิเวอร์พูล กลับมาล่าถ้วยรางวัล พวกเขาจำเป็นต้องสนับสนุน คล็อปป์ ด้วยการใช้เงินสดก้อนใหญ่

การพลาดไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วรายได้ลดหายไป ไม่ใช่ข้อแก้ตัวสำหรับการที่จะไม่ทุ่มเงิน

ขุมกำลังอื่น ๆ โคดี้ กัคโป เติบโตขึ้นมากจากวันที่ย้ายเข้ามา 

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยกระดับตัวเองขึ้นมาด้วยการเล่นรูปแบบใหม่

เคอร์ติส โจนส์, สเตฟาน บายเซติช, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ไม่ได้เป็นแค่กำลังเสริมอีกต่อไป แต่สามารถก้าวขึ้นมามีบทบาทในขุมกำลังตัวหลักได้แล้ว

ถ้าเกิด โกนาเต้, หลุยส์ ดิอาซ และ ดีโอโก้ โชต้า ไม่พลาดการลงสนามเป็นส่วนใหญ่ของฤดูกาลแล้วล่ะก็ พวกเขาอาจจะมีผลงานดีกว่านี้ก็เป็นได้

โดยดาวยิงโปรตุกีส ยิงได้ถึง 7 ลูก หลังจากก่อนหน้านี้โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานจนยิงไม่ได้เลย

ตลอด 10 เดือนมานี้ ลิเวอร์พูล มีความสุขได้แค่ช่วงสั้น ๆ พลันจากนั้นก็หม่นหมอง

พวกเขาเคยยิงใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด 7 ลูก แต่อีก 6 วันกลับแพ้ต่อ บอร์นมัธ

จริงอยู่ว่าเกมในบ้าน แอนฟิลด์ แพ้เพียงหนึ่งนัด แต่มันเป็นการปราชัยต่อ ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทีมตกชั้น

ส่วนเกมนอกบ้านย่ำแย่เกินไป หลายคนยังนำเกมที่น่าผิดหวังกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, เบรนท์ฟอร์ด, ไบรท์ตัน และ วูล์ฟส์ ออกจากความคิดไม่ได้

ช่วงที่มรสุมเข้ามาอย่างหนัก คล็อปป์ เผชิญกับปัญหาที่ดาหน้าเข้ามา โดยเฉพาะข่าวส่อโดนปลดจากตำแหน่ง

ขณะที่ทีมอื่น ๆ ทำงานกันอย่างมีชีวิตชีวา แต่กุนซือลิเวอร์พูล ต้องมานั่งพูดเรื่องนี้

ด้วยเครดิตที่เขาเคยทำไว้ จริง ๆ แล้ว คล็อปป์ ไม่จำเป็นต้องออกมาพูดเรื่องแบบนั้นก็ได้ 

แต่เขารู้ดีว่าถ้าฤดูกาลหน้าผลงานยังแย่เหมือนเดิม ตัวเองคงไม่ได้รับความไว้ใจแบบที่ได้รับในปีนี้

"เอาตรง ๆ เลยนะ ถ้าในช่วง 11 เกมก่อนหน้านี้คุณถามผมว่าผมอยากพักรึเปล่า ผมก็คงจะคิดเกี่ยวกับมันอย่างจริงจัง"

"แต่ตอนนี้ผมโอเคดี ผมมีพลังงานเต็มเปี่ยม" คล็อปป์ ยืนยันหนักแน่น

"ผมจะได้พักแน่นอน เพราะผมไม่ต้องลงไปวิ่งในการซ้อมหรืออะไรประมาณนั้น"

"แต่ผมก็จะมีช่วงเวลาที่ยุ่งเหยิงในมุมอื่นของเกมเหมือนกัน ซึ่งที่จริงผมหวังว่ามันจะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย และผมก็ยิ่งกว่ายินดีที่จะทำอย่างนั้น"

"ผมจะหาเวลาเพื่อฟื้นฟูพลังงานของตัวเอง แล้วจากนั้นเราก็จะเริ่มลุยกันอีกครั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม"

สิ่งที่ คล็อปป์ พูด.. ฟังแล้ว มีความฮึกเหิมกันบ้างไหมครับ?!

HOSSALONSO


ที่มาของภาพ : GETTY IMAGE
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport