การเปลี่ยแปลงภายในทีมเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับทุกสโมสร โดยเฉพาะ ลิเวอร์พูล ที่ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มากมายรวมทั้งพรีเมียร์ลีก และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้สตาร์ของทีมบางคนเริ่มกระหายอยากออกจากถิ่นแอนฟิลด์เพื่อไปหาความท้าทายใหม่
ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียนในช่วงปลายปี 2015 เขาได้ทำการสร้างทัพ "หงส์แดง" ขึ้นมาใหม่ จนสามารถก้าวขึ้นมาท้าทายความสำเร็จในทุกรายการที่ลงแข่งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานั้นทีมก็มีการผลัดใบเกิดขึ้น และมีสตาร์หลายคนตัดสินใจแยกทางกับสโมสร โดยเฉพาะหลังจบซีซั่นที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่านักเตะบางคนของทีมย้ายออกไปแล้วกลับต้องพบกับความผิดหวังอย่างไม่น่าเชื่อ
ซาดิโอ มาเน่
สตาร์ทีมชาติเซเนกัล ยังคงเป็นที่รักของสาวก "เดอะ ค็อป" อยู่เสมอหลังจากที่เขาเป็นหนึ่งในแข้งคีย์แมนสำคัญที่มีบทบาทช่วยให้สโมสรสร้างประวัติศาสตร์มากมายในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มาเน่ ตัดสินใจโบกมือลา ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะต้องการออกไปหาความท้าทายใหม่กับ บาเยิร์น มิวนิค และดูเหมือนว่าชีวิตการค้าแข้งกับทัพ "เสือใต้" น่าจะไปได้สวยเมื่อนักเตะสร้างผลงานดีอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นซีซั่น กระนั้นทุกอย่างดูเหมือนจะไม่เป็นไปได้ตามแผนที่คาดคิด เพราะนักเตะซัดไปแล้ว 3 ประตูจากการเล่น 7 เกมในบุนเดสลีกา ทำให้ต้นสังกัดออกสตาร์ทไม่ค่อยโสภาสถาพรเท่าไหร่ เมื่อรั้งอยุ่ในอันดับ 5 ตามหลัง อูนิโอน เบอร์ลิน จ่าฝูง 5 คะแนน ยิ่งไปกว่านั้น อดีตดาวเตะเซาธ์แฮมป์ตัน ยังยิงไม่ได้มา 6 เกมแล้ว ทำให้ตอนนี้บรรดาแฟนคลับ "เสือใต้" เริ่มไม่พอใจผลงานของเขา ถึงขนาดมีการโพสต์ให้สโมสรขายนักเตะไปให้กับลีกจีนเลยทีเดียว
ทาคุมิ มินามิโนะ
จะว่าไปแล้ว มินามิโนะ ก็ไม่เชิงที่อยากจะอำลา ลิเวอร์พูล แต่ด้วยการที่เขาไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากนักทำให้เจ้าตัวต้องตัดสินใจออกไปหาโอกาสใหม่กับ โมนาโก เพราะไม่อย่างนั้นสถานการณ์การติดทีมชาติญี่ปุ่นไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์อาจจะมีปัญหาก็ได้ อย่างไรก็ตามชีวิตในการค้าแข้งที่ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลายเพราะเขาลงสนามไป 4 เกมทำได้เพียงแค่ 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์เท่านั้นในเกมลีกเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากฟอร์มการเล่นดังกล่าวทำให้ Le Quotidien du Sport สื่อดังในแดนน้ำหอม ยกให้ดีลของ กองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่งย้ายมาจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 12.9 ล้านปอนด์ (ราว 567 ล้านลาท) บวกแอดออนอีก 2.6 ล้านปอนด์ (ราว 114 ล้านบาท) กลายเป็นดีลที่แย่ที่สุดของลีก เอิง ในซัมเมอร์นี้เลยทีเดียว
ดิว็อค โอริกี้
มหาเทพของแฟนบอลลิเวอร์พูล ได้รับคำชื่นชอบอย่างมากในฐานะฮีโร่ของสโมสร เนื่องจากนักเตะมักจะยิงประตูสำคัญให้กับทีมเวลาที่ลงสนามในฐานะตัวสำรอง อาทิเช่นประตูตอกฝาโลง สเปอร์ส ในเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก หรือเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ แต่สถานะของเขากับการเล่นให้ เอซี มิลาน มันไม่เป็นแบบนั้นเลย โดยเขาต้องเจอกับปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังทำให้โอกาสในการลงสนามค่อนข้างจำกัด ซึ่ง โอริกี้ ได้ลงเล่นให้กับทัพ "ปีศาจแดงดำ" แค่ 4 เกมเท่านั้นแถมยังเป็นการลงสนามในฐานะตัวสำรองทั้งหมด ! รวมเบ็ดเสร็จ ดาวยิงชาวเบลเยียม ลงเล่นให้ มิลาน 81 นาทีในซีซั่นนี้ นอกจากนี้เขายังยิงประตูให้กับ "รอสโซเนรี่" ไม่ได้เลย ซึ่งต่างจาก โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ แม้จะอายุมากกว่าแต่ผลงานยังเด็ดดวงเหลือเกิน ฟอร์มที่แสนน่าผิดหวังทำให้ อัลวิเซ่ คักนาซโซ่ นักข่าวอิตาเลี่ยนชี้ว่า โอริกี้ เป็นการเซ็นสัญญาที่เลวร้ายที่สุดในซีซั่นนี้ของศึกกัลโช่ เซเรีย อา นอกจากนี้ยังมีรายงานจากสื่อหลายสำนักระบุว่า มิลาน มีแผนที่จะเซ็นหัวหอกคนใหม่แทนที่ อดีตดาวยิงลิเวอร์พูล ในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
นี่คือหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอล "เดอะ เร้ดส์" เสียใจมากๆ ตอนที่เขาตัดสินใจย้ายทีม อย่างไรก็ตามค่าตัวจำนวน 142 ล้านปอนด์ (ราว 6,248 ล้านบาท) มันช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้นำไปใช้เพื่อสร้างทีมจนประสบความสำเร็จในเวลาต่อไป ขณะที่ คูตินโญ่ ต้องพบกับช่วงเวลาที่แสนยากลำบากในการเล่นให้ บาร์เซโลน่า หลังจากที่ย้ายไปร่วมทีมในเดือนมกราคม 2018 โดยนักเตะไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งได้เหมือนสมัยที่อยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ และต้องโดนดร็อปออกจากทีม รวมทั้งการถูกปล่อยไปเล่นแบบยืมตัวกับ บาเยิร์น มิวนิค ตามด้วย แอสตัน วิลล่า ก่อนจะย้ายมาเป็นสมาชิกถาวรให้กับ "สิงห์ผงาด" ด้วยค่าตัวเพียง 20 ล้านปอนด์ (ราว 880 ล้านบาท) งานนี้บอกเลยว่า บาร์ซ่า ขาดทุนยับเยิน แต่พวกเขายินดีที่จะขาดทุนเพราะ "คูตี้" ไม่ใช่นักเตะที่ทีมต้องการ และถ้าอยู่กับทีมต่อไปทีมก็ต้องแบกรับภาระค่าเหนื่อยที่แสนแพงระยับด้วย
เอ็มเร่ ชาน
กองกลางชาวเยอรมันย้ายมาเล่นกับ ลิเวอร์พูล ตอนอายุ 20 ปี และนักเตะสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของสโมสร เนื่องจาก ชาน เป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ที่สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง อย่างไรก็ตามเจ้าตัวถนัดกับการเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ กระนั้นก็มีหลายครั้งที่โดนจับไปยืนเป็นกองหลัง ไม่ว่าจะเป็นเซนเตอร์แบ็ก หรือแบ็กขวา หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น นักเตะเริ่มมองหาโอกาสใหม่ในชีวิต และเลือกที่จะย้ายทีมหลังหมดสัญญาเพื่อไปเล่นให้กับ ยูเวนตุส ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2018 อย่างไรก็ตามชีวิตในเมืองตูรินไม่ได้สวยงามอย่างที่เจ้าตัวคาดหวัง แม้นักเตะจะคว้าแชมป์ลีกเมืองมะกะโรนี 2 สมัย แต่ก็แทบไม่มีบทบาทอะไรกับทัพ "ม้าลาย" มากนักเพราะชีวิตส่วนใหญ่นั่งตบยุงอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง ด้วยเหตุนี้ทำให้นักเตะตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แบบชั่วคราวในเดือนมกราคม 2020 ก่อนจะย้ายไปอยู่กับทัพ "เสือเหลือง" ถาวรหลังจบซีซั่น
ทอมเม้ง