เอฟเอ ระบุ ไอแวน โทนี่ย์ หัวหอก เบรนท์ฟอร์ด เคยวางพนันให้ทีมของตัวเองแพ้ในช่วงที่เป็นนักเตะของ นิวคาสเซิ่ล กับ วีแกน ซึ่งมันยังถือว่าผิดกฎอยู่ต่อให้เขาจะไม่ได้ลงเล่นหรือมีชื่อติดทีมในเกมเหล่านั้นก็ตาม
สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) กล่าวว่า ไอแวน โทนี่ย์ กองหน้าตัวเก่งของ เบรนท์ฟอร์ด เคยวางเดิมพันให้ทีมของตัวเองแพ้ในช่วงที่อยู่กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ วีแกน แอธเลติก
โทนี่ย์ เป็นนักเตะที่ได้รับคำชมอย่างมากในฤดูกาลนี้หลังจากทำประตูในลีกให้กับ เบรนท์ฟอร์ด ได้ถึง 20 เกมจากการลงเล่น 33 นัด โดยผลงานดังกล่าวทำให้เขาถึงขั้นเคยถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ด้วย
อย่างไรก็ตาม มันมีรายงานว่าเจ้าตัวเคยเล่นพนันด้านเกมฟุตบอลกับบ่อนต่างๆ หลายครั้ง ซึ่งขัดกับกฎของ เอฟเอ ที่ห้ามเหล่าแข้งทำเรื่องนั้นอย่างชัดเจน โดยดาวเตะวัย 27 ปีก็ยอมรับข้อหาบางส่วนไปแล้วจนทำให้เขาโดนแบนยาว 8 เดือน หรือก็คือจะหมดสิทธิ์ลงเล่นจนถึงวันที่ 16 มกราคม ปีหน้า
กระทั่งล่าสุด เอฟเอ ก็ชี้แจงเหตุผลถึงการแบนยาว โทนี่ย์ โดยบอกว่า โทนี่ย์ เคยวางเดิมพัน 13 แบบว่าทีมของเขาจะแพ้ใน 7 เกม ในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม ปี 2017 ไปจนถึงเดือนมีนาคม ปี 2018 ซึ่งในจำนวนนั้นมีการพนัน 11 ครั้งที่เกิดขึ้นกับ นิวคาสเซิ่ล และ 2 อันที่เขาวางเดิมพันกับ วีแกน ทีมที่เขาไปเล่นให้ด้วยสัญญายืมตัวในช่วงดังกล่าว
ที่จริง โทนี่ย์ ไม่ได้ลงเล่นในเกมเหล่านั้นและไม่มีชื่อติดทีมด้วย ทำให้มันไม่ได้หมายความว่าเขาวางเดิมพันแล้วตั้งใจทำให้ทีมแพ้ แต่มันก็ยังถือว่าผิดกฎอยู่ดี นอกจากนี้ เอฟเอ ยังบอกด้วยว่าที่จริงพวกเขาตั้งใจจะแบน โทนี่ย์ ยาวถึง 11 เดือนด้วยซ้ำ แต่ลดมาให้เหลือ 8 เดือนเพราะมองว่า โทนี่ย์ มีประวัติที่ดี, สำนึกผิดด้วยใจจริง และแค่ถูกตรวจพบว่ามีนิสัยเสพติดการพนัน
แถลงการณ์ของ เอฟเอ ระบุว่า "ในจำนวนการวางเดิมพัน 13 ครั้งนั้น มีอยู่ 11 ครั้งที่เขาวางเดิมกับ นิวคาสเซิ่ล ในตอนที่เขาไปเล่นแบบยืมตัวกับที่อื่น ส่วนอีก 2 ครั้งเป็นการวางพนันในเกมระหว่าง วีแกน กับ แอสตัน วิลล่า ในตอนที่เขาไปเล่นแบบยืมตัวกับ วีแกน แต่เขาไม่มีชื่อติดทีมในเกมเหล่านั้น มันไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งบอกว่า มิสเตอร์ โทนี่ย์ มีอิทธิพลในการทำให้ทีมของเขาแพ้ในตอนที่เขาวางเดิมพันกับเกมหล่านั้น เขาไม่ได้อยู่ในทีมหรือไม่สามารถลงเล่นในเกมเหล่านั้นได้อยู่แล้ว"
ทั้งนี้ หลังจากที่ เอฟเอ แถลงการณ์แบบนั้น โทนี่ย์ ก็โพสต์ข้อความว่า "ปกติแล้วผมมักจะรีบออกมาแก้ต่างให้ตัวเองเวลาที่ผมโดนกล่าวหาแบบผิดๆ แต่หนนี้ผมรอที่จะดูว่าใครบ้างที่เชื่อคำกล่าวหาแบบนั้น เพื่อที่ผมจะได้รู้ว่าจะได้ตัดความสัมพันธ์กับใครก่อน"