โธมัส กรอนเนมาร์ค โค้ชลูกทุ่มทีม ลิเวอร์พูล ประกาศอำลาทีมลูกหนังของ พรีเมียร์ลีก แล้วในช่วงซัมเมอร์นี้หลังได้ร่วมงานกับทีม หงส์แดง มานานห้าปี
กรอนเนมาร์ค โค้ชลูกทุ่มวัย 47 ปีตกเป็นข่าวชวนฮือฮาเนื่องจาก ลิเวอร์พูล ดึงเขามาติวเข้มการทุ่มบอลของนักเตะเมื่อปี 2018 หลังจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาว เยอรมัน เล็งเห็นว่าทีมของเขาเสียการครองบอลจากลูกทุ่มของตัวเองมากเกินไป
อย่างไรก็ดี หลังจาก กรอนเนมาร์ค ได้รับตำแหน่งสุดพิสดารในสังเวียนแข้ง แอนฟิลด์ สตีฟ นิโคลล์ อดีตกองหลังระดับตำนานของสโมสรได้ระบุว่าเป็นเรื่องที่เหลวไหลอย่างยิ่ง ขณะที่ แอนดี้ เกรย์ อดีตกองหน้า เอฟเวอร์ตัน ซึ่งสวมบทคอมเมนเตเตอร์ลงความเห็นตรงกันว่าเป็นไอเดียที่น่าขัน
"ผมรู้ว่าคุณสามารถฉวยความได้เปรียบในสถานการณ์นี้จากการทุ่มบอลของนักเตะ แต่นี่คือบทเรียน คว้าบอลขึ้นชูหลังศีรษะ ทุ่มมันไปให้กับเพื่อนร่วมทีมโดยที่เท้าทั้งสองข้างยังติดพื้น ผมเพิ่งเห็นว่ามันมีโค้ชแบบนี้ด้วย ผมอยากเห็นโค้ชเตะเขี่ยบอลเริ่มเกมแล้วล่ะ" เกรย์ กล่าวกับ บีอิน สปอร์ต ในเวลานั้น
กระนั้นก็ดี กรอนเนมาร์ค แสดงให้เห็นว่าเขามีบทบาทสำคัญช่วยทำให้ เร้ด แมชีน ได้แชมป์อย่างครบถ้วนทั้ง พรีเมียร์ลีก , แชมเปี้ยนส์ลีก , เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ จวบจนล่าสุดเมื่อ 11 พ.ค. เขาทวีตข้อความว่าจะอำลาทีม ลิเวอร์พูล หลังจบซีซั่นนี้
"เรื่องราวดีๆทั้งหมดยุติลงแล้ว ลิเวอร์พูล กับผมตัดสินใจว่าจะไม่มีโค้ชทุ่มบอลอีกแล้วหลังจากผ่านไปห้าซีซั่น" กรอนเนมาร์ค ซึ่งทำงานในรูปแบบฟรีแลนซ์ระบุ
"ผมภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล จากอันดับ 18 สู่อันดับ 1 ของการทุ่มบอลภายใต้ความกดดันใน พรีเมียร์ลีก 25 สโมสรว่าจ้างผมจากสถิติที่พัฒนาในทีม ลิเวอร์พูล และผมมีส่วนได้แชมป์ 14 รายการ รวมถึงการเลื่อนชั้นด้วย"
"ซีซั่นก่อนไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ทำงานในเรื่องการทุ่มบอลมากอย่างที่ผมต้องการ ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นธรรมดา และเรากล่าวขอบคุณกันในตอนนี้"
"ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่ได้ร่วมงานกับ ลิเวอร์พูล และ เจอร์เก้น คล็อปป์ รวมทั้งสตาฟฟ์ และนักเตะ เรามีช่วงเวลาที่วิเศษ"
"แล้วจากนี้จะเป็นยังไงล่ะ โธมัส? เรื่องที่น่าตื่นเต้นรออยู่ มีการเซ็นสัญญาสามชิ้นในซีซั่นหน้า ผมเปิดกว้างให้กับอีกหลายๆทีมในซีซั่นที่กำลังจะมาถึง"
โค้ชทุ่มบอลคนดังให้สัมภาษณ์กับ ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ เช่นกันว่า "งานของผมที่ ลิเวอร์พูล เปลี่ยนชีวิตของผม และช่วยเหลือครอบครัวของผม ดังนั้นผมจึงขอขอบคุณ เจอร์เก้น ตลอดไป รวมทั้งสตาฟฟ์ นักเตะ และแฟนบอลทั่วโลก มันมีความหมายต่อผมมาก"