เอริคเซ่น เผยดูคลิปเหตุวูบคาสนาม 1 วันหลังอยู่โรงหมอ

เอริคเซ่น เผยดูคลิปเหตุวูบคาสนาม 1 วันหลังอยู่โรงหมอ
คริสเตียน เอริคเซ่น กองกลางมากประสบการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยตนเคยดูคลิปวีดิโอตอนที่วูบหมดสติคาสนามระหว่างการลงเล่นนัดแรกของ เดนมาร์ก ในศึกยูโร 2020 ขณะที่กำลังฟื้นฟูร่างกายอยู่ที่โรงพยาบาล

จอมทัพชาวเดนิส เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันในช่วงท้ายครึ่งแรกเกมที่ทัพ "โคนม" ปะทะกับ ฟินแลนด์ โดยเพื่อนร่วมทีมได้เข้ามาช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น และแพทย์สนามเข้ามาทำ "ซีพีอาร์" (CPR) ยื้อชีวิตกลับมาได้ทันทั้งๆ ที่ตอนนั้นเจ้าตัวหัวใจหยุดเต้นไปแล้วราวๆ 5 นาที 

หลังจากนั้น เอริคเซ่น ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วนเพื่อทำการรักษาต่อเนื่อง และจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อติดตั้งเครื่องกระตุ้นหัวใจอัตโนมัติ "ไอซีดี" (ICD) ฝังในหน้าอกซึ่งอุปกรณ์ตัวนี้ไม่ใช่แค่ช่วยทำให้มีชีวิตต่อไปเท่านั้น แต่ยังทำให้เขาสามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง

เอริคเซ่น ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดใจว่าตนเคยมีโอกาสได้ดูช่วงความเป็นความตายของตัวเองในเกมกับฟินแลนด์ แค่ 24 ชั่วโมงหลังจากเข้ารับการรักษาตัวที่โรงหมอ "จริงๆ แล้วผมได้ดูเหตุการณ์นั้นราวๆ 1 วันหลังเกิดเหตุ เพียงเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น และต้องผ่านอารมรณ์ทุกอย่าง เพื่อเตรียมตัวเองหลังจากนั้น"

"แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย คุณได้ดูเหตุการณ์นั้น และคุณไม่คิดอะไรทั้งนั้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น คุณแค่อยากดูมันก็แค่นั้นแหละ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ก็คือต้องมีความสุขขณะที่อยู่ที่นี่ และสนุกกับอะไรก็ตามที่เข้ามา รวมทั้งเล่นฟุตบอลถ้าหากมันยังสนุกแต่ถ้ามันไม่สนุก ก็ทำอย่างอื่นแทน" เอริคเซ่น ระบุ

ตอนนั้น เอริคเซ่น ยังมีสัญญาอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน แต่ตามกฎลูกหนังเมืองมะกะโรนีไม่อนุญาตให้นักฟุตบอลติดตั้งเครื่องกระตุ้นหัวใจกลับมาเล่นอีกครั้ง ทำให้ "งูใหญ่" กับนักเตะตัดสินใจยกเลิกสัญญา ก่อนที่เขาจะได้รับโอกาสหวนกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้งกับสโมสรเบรนท์ฟอร์ด เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว 

อดีตสตาร์ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สร้างผลงานดีมีคุณภาพกับทัพ "ผึ้งน้อย" โดยลงเล่น 11 เกมและช่วยทีมสโมสรคว้าอันดับ 13 เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา จากนั้น "ปีศาจแดง" ตัดสินใจเซ็นสัญญาแบบฟรีเอเจ้นต์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ และตอนนี้เขาลงเล่นให้ทีม  39 เกม และเป็นหนึ่งในแข้งคีย์แมน แมนฯ ยูฯ ในยุคของกุนซือเอริค เทน ฮาก


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport