พวกพรี่ๆ เขาชนะอีกแล้วนะครับ
ล่าสุดเปิดบ้านเชือด เบรนต์ฟอร์ด หวุดหวิด 1-0 ทำสถิติกะซวกชัย 6 เกมติดต่อกันจนไล่จี้ตูด แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือแค่แต้มเดียวเท่านั้น
และนี่คือสิ่งที่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมอยากจะบอก
1. สารภาพตามตรงว่าใจคอไม่ดีเลยว่ะ...ครับ
แม้นทีมปีศาจแดงจะแข่งน้อยกว่า 2 นัด แต่เมื่อถูกบี้และหายใจรดต้นคอแบบนี้ มันย่อมสร้างความตระหนกและกดดันให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ลงเล่นทีหลังอย่างจงหนักแน่นอน
2.เกมล่าสุด ลิเวอร์พูล เล่นแบบเน้นผลชัดเจน
เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดทีมแบบ "เอาตาย" ด้วยการใส่ผู้เล่นประเภทกองหน้าลงไปพร้อมกันถึง 4 ตัว คือ โม ซาล่าห์, โคดี้ คักโป, ดาร์วิน นูนเญซ และดิโอโก้ โชต้า ก่อนเดินหน้าพลางโขยกอย่างไม่ยั้งหยุดตั้งแต่เริ่มเกม กระทั่งยิงประตูขึ้นนำได้สำเร็จในเวลาประมาณ 12 นาที
หลังจากนั้นก็ผ่อนเกมมาเน้นความรัดกุมและระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ก่อนจะเล่นแบบรักษาสกอร์มากกว่าเอาประตูเพิ่มในครึ่งหลัง
เกมรับเหนียวแน่น และไม่มีความผิดพลาดจนผู้มาเยือนเจาะไม่เข้า แถมป้องกันลูกเซ็ตพีซอันเป็นจุดเด่นของสโมสรผึ้งน้อยได้หมดจดดีนักแล ทั้งทุ่มไกล เตะมุม และฟรีคิก
3.ณ จุดนี้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เหมาะสมกับตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางมากกว่าแบ็คขวานะครับ เพราะนับตั้งแต่เปลี่ยนบทบาทใหม่ก็โชว์ฟอร์มไฉไลจนมีส่วนกับการได้ประตูแทบทุกนัด
ว่าแล้วก็นึกถึง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่เริ่มต้นด้วยการเป็นแบ็คขวา ก่อนพัฒนาตัวเองเป็นยอดมิดฟิลด์ตัวกลางที่เป็นรองแค่ พอล สโคลส์ เท่านั้น (แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นรองมากนักหรอก)
4. ดาร์วิน นูนเญซ เล่นไม่ออกอีกแล้ว ทั้งที่ตั้งอกตั้งใจ เต็มที่ แต่กลับเล่นเหมือนไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
เกมล่าสุดแทบไม่มีประโยชน์อะไรในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าเลย
ชะรอยว่าน่าจะได้กลับไปเป็นตัวสำรองอีกครั้งในแมตช์ต่อไป
5.ผู้มีจิตศรัทธาในปีศาจแดงอย่างผมทั้งมั่นใจและหวั่นใจว่าในอีก 3 นัดที่เหลือ ลิเวอร์พูล จะเอาชนะคู่แข่งได้ทั้งหมด คือ เลสเตอร์ (เยือน), แอสตัน วิลล่า (เหย้า) และเซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน) แล้วจะจบฤดูกาลด้วยการมี 71 แต้ม
นั่นหมายความว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องสะสมให้ได้อย่างต่ำ 9 แต้ม จาก 5 เกมสุดท้ายในพรีเมียร์ลีกถึงจะมีอันดับสูงกว่าพวกพรี่ๆ เขา...นะจ๊ะ
คิดถึงเรื่องนี้แล้วก็
อืมมมมมมมมม...นะ
ก่อนรำพึงรำพันในใจเป็นภาษาขอมโบราณว่า...
เชี่ยนะคะ
บอ.บู๋