จบกันไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับบิ๊กแมตช์ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ โดยที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดจนเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม เอาชนะ อาร์เซน่อล ไปได้ถึง 4-1 เมื่อวันพุธที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา
แน่นอนว่าผลการแข่งขันในเกมนี้ยังไม่ได้เป็นการตัดสินแชมป์ เพราะทั้ง 2 ทีมยังเหลือเกมให้เล่นอีกในระดับหนึ่ง แต่อีกมุมหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์มันเข้าทาง แมนฯ ซิตี้ สุดๆ เพราะพวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 73 คะแนนจากการลงเล่น 31 นัด ลดช่องว่างจาก "ไอ้ปืนใหญ่" เหลือเพียง 2 แต้ม แถมทาง แมนฯ ซิตี้ ยังลงเล่นน้อยกว่า 2 เกมอีก
อย่างที่รู้กันดีว่าเกมนี้ทำให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ สถาปนาตัวเองเป็นคนที่ยิงต่อ 1 ฤดูกาลได้มากที่สุดแบบเดี่ยวๆ ในยุคที่ พรีเมียร์ลีก เตะกัน 38 นัดต่อ 1 ซีซั่น หลังจากเขาทำได้ 1 ลูกจนทำให้ยอดรวมเพิ่มเป็น 33 ประตูเข้าไปแล้ว แต่มันก็ยังมีเกร็ดแบบอื่นที่ถือว่าน่าทึ่งพอๆ กันด้วย
- ชอบเจอ
ตลอดช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมานั้น แมนฯ ซิตี้ ถือเป็นทีมที่ทำผลงานได้สุดยอดจนหลายคนแทบจะยกให้เป็นเบอร์ 1 ของเกาะอังกฤษ ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักที่พวกเขาจะชนะทางหลายทีมจนเก็บชัยได้อยู่เรื่อยๆ
ถึงกระนั้น อาร์เซน่อล ก็ถือเป็นกรณีที่พิเศษกว่าทีมอื่นๆ เพราะมันเท่ากับว่า แมนฯ ซิตี้ เอาชนะอีกฝ่ายในเกมลีกได้ถึง 12 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว แถมในจำนวนนั้นพวกเขายังยิงได้ตั้ง 33 ประตู และเสียเพียง 5 ลูกเท่านั้นด้วย
นอกจากนี้ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพของ แมนฯ ซิตี้ ก็ถือว่าถูกโฉลกในการเจอกับ อาร์เซน่อล เช่นกัน เพราะ 2 ประตูที่เขาทำได้ในนัดล่าสุดทำให้ตอนนี้ เดอ บรอยน์ ยิงในการเจอกับ อาร์เซน่อล ในเกมลีกได้แล้วถึง 7 ลูก และมันก็ไม่มีทีมไหนใน พรีเมียร์ลีก อีกแล้วที่เขาเจาะตาข่ายได้มากไปกว่า "ไอ้ปืนใหญ่"
- ฝันร้ายหวนคืนของ อาร์เซน่อล
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยสะดุดมาบ้างแต่ อาร์เซน่อล ก็กลับมาได้อย่างรวดเร็วเกือบทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม หนนี้มันต่างออกไปเพราะพวกเขาไม่ชนะใครในลีกมา 4 นัดรวด แบ่งเป็นการเสมอ 3 เกมกับแพ้ 1 ครั้ง หรือก็คือทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เก็บได้เพียง 3 คะแนนจากจำนวนเต็ม 12 แต้ม
ผลงานที่เลวร้ายแบบนั้นทำให้ อาร์เซน่อล ถือเป็นทีมแรกนับตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม ปี 2008 ที่ไม่ชนะใน พรีเมียร์ลีก 4 เกมติดต่อกันทั้งที่ก่อนลงเล่นในแต่ละนัดที่ว่านั้นพวกเขานำเป็นจ่าฝูง โดยทีมที่มีผลงานน่าผิดหวังสุดขีดในตอนนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น "ไอ้ปืนใหญ่" เหมือนกัน ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาต้องจบฤดูกาล 2007-08 ด้วยการได้เพียงอันดับ 3 ของตารางคะแนน
- ฮาลันด์ โหดทั้งยิงทั้งจ่าย
นอกจากจะทำประตูได้แล้วนั้น ในเกมนัดล่าสุด ฮาลันด์ ยังมีเครดิตเป็นคนทำ 2 แอสซิสต์ด้วย หลังจากเขาผ่านบอลให้ เดอ บรอยน์ ทำได้ 2 ลูก ทำให้ตลอดทั้งซีซั่นนี้เขาทำได้ 8 แอสซิสต์จากการลงเล่นในทุกรายการ
ด้วยเหตุนี้ หากนับรวมกับ 49 ประตูที่เขาทำได้แล้วล่ะก็ มันก็จะเท่ากับว่าซีซั่นนี้ดาวเตะชาวนอร์เวย์มีส่วนร่วมกับประตู (หมายถึงการยิงเองและการทำแอสซิสต์) รวมกันถึง 57 ลูกจากการลงเล่น 43 นัดในทุกรายการ ส่งผลให้เขาเป็นคนที่มีผลงานด้านนี้ดีที่สุดในบรรดานักเตะจาก 5 ลีกใหญ่ของทวีปยุโรป (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, บุนเดสลีกา เยอรมัน, ลา ลีกา สเปน, กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส) ขณะเดียวกัน หากนับเป็นค่าเฉลี่ยแล้วล่ะก็ ฮาลันด์ ก็จะทำประตูหรือแอสซิสต์ได้ 1 ครั้งต่อทุกๆ 58 นาทีเลยทีเดียว
- เด็กเกร็ดบอล -