ทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ล่าสุด แถมเกมเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือกมาผสมกันให้แฟน ๆ ได้ติดตาม มีใครติดเข้ามาบ้าง ไปดูกันเลย!
ผู้รักษาประตู : ดาบิด เด เคอา (แมนฯ ยูไนเต็ด)
มีช็อตเซฟสำคัญทั้งช่วงครึ่งแรกและครึ่งหลัง ถึงแม้ตอนดวลจุดโทษจะไม่สามารถป้องกันได้ แต่ถ้าไม่มีนายด่านสแปนิช แมนฯ ยูไนเต็ด อาจไม่ได้มาถึงการดวลฎีกาก็เป็นได้
กองหลัง : อารอน วาน-บิสซาก้า (แมนฯ ยูไนเต็ด)
จัดการเก็บ คาโอรุ มิโตมะ ใส่กระเป๋าจนลากเลื้่อยไม่ออก เข้าเสียบสกัดแม่นยำ แถมมีการเติมเกมรุกที่ใช้ได้
กองหลัง : วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ (แมนฯ ยูไนเต็ด)
เป็นคนสำคัญบนแผงแบ็กโฟร์ ยูไนเต็ด ตามเก็บลูกกลางอากาศได้หมด และเป็นคนยิงจุดโทษปิดท้ายพาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ
กองหลัง : คูร์ต ซูม่า (เวสต์แฮม)
แม้ว่าชัยชนะสกอร์ 4-0 ดูเหมือนเกมรับจะไม่ต้องเจองานยากอะไรมาก แต่สถิติของ ซูม่า กลับโดดเด่นมาก ๆ ในเชิงเกมรับ เมื่อตัดบอลได้ 4 ครั้ง และเคลียร์บอลมากถึง 10 หน แถมยังบล็อคลูกยิงอีก 2 ครั้ง
กองหลัง : วลาดิเมียร์ คูฟัล (เวสต์แฮม)
นอกจากเกมรับที่ทำหน้าที่ได้ดีมสถิติเข้าปะทะสำเร็จ 2 ครั้งกับเคลียร์บอล 5 หน แบ็กเลือดเช็กยังมีแอสซิสต์ที่ผ่านบอลให้ ลูกัส ปาเกต้า ทำประตู
กองกลาง : จาค็อบ เมอร์ฟี่ (นิวคาสเซิ่ล)
ไม่ยิงในลีกมา 21 นัดติดต่อกัน ก่อนจะมาปลดล็อกเบิ้ลสองลูกในเกมนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นลูกยิงนอกกรอบแบบสุดสวย
กองกลาง : โชลินตอน (นิวคาสเซิ่ล)
ทำทั้งประตูและแอสซิสต์ จบสกอร์ได้อย่างเยือกเย็น เป็นเกมที่ดีของดาวเตะแซมบ้า
กองกลาง : ริยาด มาห์เรซ (แมนฯ ซิตี้)
รับหน้าที่สังหารจุดโทษแทน เออร์ลิง ฮาลันด์ ซึ่งเจ้าตัวก็ยังมีความนิ่งในการยิง นอกเหนือจากนั้นลูกยิงลูกสองก็สวยงาม ก่อนจะทำแฮตทริกได้ในที่สุด
กองหน้า : บูกาโย่ ซาก้า (อาร์เซน่อล)
ขึ้นเกมฝั่งขวาได้อันตราย มีแอสซิสต์ให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ทำประตู และสุดท้ายสวมบาทฮีโร่ ทำประตูตีเสมอ 3-3 ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความปราชัย
กองหน้า : ดีโอโก้ โชต้า (ลิเวอร์พูล)
กลับมาผลิตสกอร์ได้ต่อเนื่อง ดังที่เจ้าตัวบอกว่าการยิงก็เหมือนการบีบซอสมะเขือเทศออกจากขวด สังหารประตูได้อย่างเฉียบขาด
กองหน้า : อเล็กซานเดอร์ อิซัค (นิวคาสเซิ่ล)
ทำหน้าที่จบสกอร์ได้อย่างคมกริบ ทุกครั้งที่มีโอกาสมักไม่ปล่อยให้หลุดมือ