เปิดท็อป 5 สตาร์ซัดแฮททริคเร็วสุดในพรีเมียร์ลีก

เปิดท็อป 5 สตาร์ซัดแฮททริคเร็วสุดในพรีเมียร์ลีก
ซน ฮึง มิน กองหน้าทีมชาติ เกาหลีใต้ ของสโมสร ท๊อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สร้างชื่อได้อย่างระบือลือลั่นในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเฝ้าบ้านขยี้ เลสเตอร์ เละเทะ 6-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

หลังประสบกับปัญหาเท้าบอดมาตั้งแต่เปิดซีซั่น อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซืออิตาเลี่ยนจึงตัดสินใจดร็อปเจ้าของรางวัล รองเท้าทองคำ ให้นั่งข้างสนามก่อนส่งสตาร์กิมจิลงบู๊ในนาทีที่ 59 ช่วงที่ทีมเมืองกรุงมีสกอร์นำ เดอะ ฟ็อกซ์ 3-2 ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่า ไก่เดือยทอง จะคว้าสามแต้มได้สำเร็จหรือไม่เนื่องจากอาคันตุกะเป็นฝ่ายที่ครองบอลได้มากกว่า และมีจังหวะง้างไกมากกว่า หากแต่เจ้าบ้านได้ความหนึบของ อูโก้ โยริส ช่วยเซฟลูกยากได้อย่างมหัศจรรย์หลายหน

จนในที่สุด ซน ก็เริ่มนับหนึ่งยิงประตูแรกของเขาพาทีมหนีห่างอย่างน่าอุ่นใจด้วยสกอร์ 4-2 จนได้

เท่านั้นไม่พอ ดาวดังขวัญใจชาวเอเชียยังประกาศศักดากดแฮททริคได้สำเร็จอีกต่างหาก

เท่ากับว่าหัวหอกโอ้ปป้าใช้เวลาแค่ 27 นาทีก็สามารถกระหน่ำแฮททริคได้ในนาทีที่ 73, 84 และ 86

อย่างไรก็ดี หากจะนับตั้งแต่เวลาที่เขายิงประตูแรกจนถึงประตูที่สามก็หมายความว่า ซน ใช้เวลาเช็คบิลทั้งหมดอย่างไวแค่ 13 นาทีเท่านั้น

และนี่คือสถิติ 5 นักเตะที่กดแฮททริคได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก (นับตั้งแต่นาทีแรกที่นักเตะได้ลงเล่นจนถึงนาทีที่ยิงเม็ดสามของตัวเองได้)

1.ซาดิโอ มาเน่ (เซาธ์แฮมป์ตัน 6- แอสตัน วิลล่า 1 ปี 2015) , 16 นาที

หัวหอกทีมชาติ เซเนกัล สร้างผลงานที่น่าประทับใจกับ เซาธ์แฮมป์ตัน เอาไว้มากมายก่อนย้ายไปโด่งดังเพิ่มกับ ลิเวอร์พูล และหากินอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ในปัจจุบัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปี 2015 มาเน่ สร้างประวัติศาสตร์ซัดแฮทริคได้เร็วที่สุดในเกม พรีเมียร์ลีก นัดต้อนรับ แอสตัน วิลล่า โดยเขากดเม็ดแรกได้ในนาทีที่ 13 และมาได้เม็ดสองกับเม็ดสามติดๆกันในนาทีที่ 14 และ 16 จึงทำให้เจ้าตัวใช้เวลาสาดกระสุนไปแค่ 16 นาทีเท่านั้น

กระนั้นก็ดี หากจะนับกันตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการได้ประตูแรก มาเน่ ทำแฮททริคได้ในเวลาเพียง 2 นาที 56 วินาทีช่วยให้ นักบุญ ขยี้ สิงห์ผงาด ยับเยิน 6-1 เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2015

2.ดไวท์ ยอร์ค (แมนฯ ยูไนเต็ด 6- อาร์เซน่อล 1 ปี 2001) , 22 นาที

ในฐานะทีมจ่าฝูงของลีกขณะนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล ซึ่งหวังคว้าชัยชนะลดช่องว่างความห่างของคะแนน 13 แต้มลงให้ได้

อย่างไรก็ดี กลายเป็นว่าผลลัพธ์ของเกมเป็นไปอย่างเกินความคาดหมายของ อาร์แซน เวนเกอร์ เนื่องจาก ยอร์ค คายพิษสงได้ตั้งแต่หัววันด้วยการกระทุ้งสามประตูติดต่อกันได้ในเวลา 22 นาทีพา ผีแดง ขยับนำ 3-1 ก่อนชนะไปอย่างขาดลอยโดยทีม ปืนใหญ่ ได้ประตูปลอยขวัญจาก  เธียร์รี่ อองรี ที่เป็นประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 16

นอกจากดาวเตะทีมชาติ ตรินิแดด แอนด์ โทเบโก ซึ่งทำสกอร์ได้ในนาทีที่ 3, 18 และ 22 แล้ว อีกสามประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มาจากฝีเท้าของ รอย คีน ในนาทีที่ 26 ,โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในนาทีที่ 38 และ เท็ดดี้ เชอริ่งแฮม ในนาทีที่ 90

3. เควิน เดอ บรอยน์ (วูล์ฟส์ 1-แมนฯ ซิตี้ 5 ปี 2022) ,24 นาที

ในเกมลีกช่วงท้ายซีซั่นก่อนที่ โมลินิวซ์ กราวน์ เดอ บรอยน์ กองกลางทีมชาติ เบลเยี่ยม ใช้เวลาเจ็ดนาทีแรกรับลูกผ่านจาก แบร์นาร์โด้ ซิลวา ซัดลูกแรกให้ เรือใบสีฟ้า บุกไปนำก่อนโดนเจ้าบ้านตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 11 

อย่างไรก็ดี หมาป่า ไม่อาจหยุดฟอร์มที่ร้อนแรงของ เดอ บรอยน์ ได้ และเขาซัดเพิ่มอีกสามเม็ดในนาทีที่ 16,24 และ 60 พาแชมป์เก่านำห่าง 4-1 ก่อนจะมี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กดปิดท้ายในนาทีที่ 84

เป็นอันว่า เดอ บรอยน์ จัดการเช็คบิลได้คนเดียวสี่ตุง แต่หากจะนับเฉพาะแฮททริค เขาใช้เวลาตั้งแต่เริ่มเกมรวมทั้งสิ้น 24 นาที

ทั้งนี้ จากการยิงคนเดียวสี่เม็ดของดาวเตะผมทอง ทำให้ แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่สองในหนึ่งซีซั่นที่มีพ่อค้าแข้งสองรายสอยตาข่ายได้ในหนึ่งเกมสี่ประตูขึ้นไปเช่นเดียวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่น 1999/2000 (แอนดี้ โคล , โอเล่ กุนนาร์ โซลชา) และ สเปอร์ส ในซีซั่น 2009/10 (ร็อบบี้ คีน และ เจอร์เมน เดโฟ)

4.เจอร์เมน เพนแนนท์ (อาร์เซน่อล 6- เซาธ์แฮมป์ตัน 1 ปี 2003) ,26 นาที

ไม่เพียง เพนแนนท์ เท่านั้นที่ซัดแฮททริคได้ในเกมนี้ แต่ โรแบร์ ปิแรส กดสามเม็ดให้ เดอะ กันเนอร์ส ได้เช่นกันพาทีมเปิดบ้านนำห่าง นักบุญ ตั้งแต่ครึ่งแรกด้วยสกอร์ 5-1

ในเกมที่ว่า ปีกทีมชาติ ฝรั่งเศส ยิงประตูได้ก่อน เพนแนนท์ ด้วยซ้ำเนื่องจากเขาสอยตาข่ายให้ทีมเมืองหลวงออกนำตั้งแต่นาทีที่ 9 แต่เป็น เพนแนนท์ ที่แซงหน้ายิงแฮททริคได้ในนาทีที่ 16, 19 และ 26

สำหรับ ปีแรส ใช้เวลานานกว่าในการคลำเป้าสามประตูในนาทีที่ 22 และ 47 ขณะที่ทีมเยือนได้ลูกตีไข่แตกในนาทีที่ 35 จาก โจ เทสเซม

5.เอียน มาร์แชลล์ (เลสเตอร์ 4- ดาร์บี้ 2 ปี 1997) , 27 นาที

มาร์แชลล์ สร้างชื่อซัดแฮททริคแรกใน พรีเมียร์ลีก ให้กับ เลสเตอร์ ได้ในเกมเปิดบ้านยำใหญ่ ดาร์บี้ วันที่ 22 ก.พ.1997 โดยเขาลงมือปฏิบัติการสอยตาข่าย แกะเขาเหล็ก ได้ตั้งแต่นาทีที่ 7

จากนั้นดาวยิงจอมเก๋าซึ่งมีอายุ 31 ปีในขณะนั้นมาบวกประตูที่สองได้ในนาทีที่ 20 ก่อนจัดการทำแฮททริคได้ในนาทีที่ 27 ขณะที่อีกประตูในเกมนี้ของ สุนัขจิ้งจอก มาจากฝีเท้าของ สตีฟ คลาริดจ์ กองหน้าอีกรายในช่วงครึ่งหลังนาทีที่ 56

รวมแล้ว มาร์แชลล์ รับใช้ เลสเตอร์ ระหว่างปี 1996-2000 โดยเขาพังประตูได้ 26 ลูกในทุกรายการ แถมได้แชมป์ ลีกคัพ กับสโมสรในปี 2000 ด้วย

ด้านทีมเยือนได้สองเม็ดจากหัวหอกเช่นกันโดย ดีน สเตอร์ริดจ์ เหมาเข่นคนเดียวในนาทีที่ 2 และ 47

5.ซน ฮึง มิน (สเปอร์ 6-เลสเตอร์ 2 ปี2022) , 27 นาที

ไม่ใช่แฮททริคแรกของ ซน ในลีกอังกฤษก็จริงเนื่องจากเขาเคยกระทุ้งสามประตูให้ทีมลูกหนังแห่งมหานคร ลอนดอน มาได้ก่อนแล้ว แต่ดาวเตะพลังโสมสร้างชื่อเป็นตัวสำรองของ ไก่เดือยทอง คนแรกที่กดแฮททริคได้ในเกม พรีเมียร์ลีก

อย่างไรก็ดี หากจะนับเวลาการทำแฮททริคตั้งแต่นาทีที่ยิงลูกแรกจนถึงลูกที่สาม ท็อป 5 ในทำเนียบของ พรีเมียร์ลีก เป็นดังนี้

1.ซาดิโอ มาเน่ : 2 นาที 56 วินาที (เซาธ์แฮมป์ตัน 6  - แอสตัน วิลล่า 1 ปี 2015) , นาทีที่ 13, 14, 16

2. ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ : 4 นาที 33 วินาที (ลิเวอร์พูล 3 - อาร์เซน่อล0  ปี 1994) ,นาทีที่ 26, 29, 31

3.เจอร์เมน เดโฟ : 7 นาที (สเปอร์ส 9 -วีแกน 1 ปี 2009), เดโฟ ซัดได้รวมห้าเม็ดในนาทีที่ 51, 54, 58, 69,87)

4.กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ :7 นาที 10 วินาที (แอสตัน วิลล่า 4- แมนฯ ซิตี้ 2 ปี 2008) ,นาทีที่ 69,74,76

5.เซร์คิโอ อเกวโร่ :8 นาที (แมนฯ ซิตี้ 6 -นิวคาสเซิ่ล 1 ปี 2015) , กุน ยิงได้รวมห้าเม็ดในนาทีที่ 42, 49, 50, 60, 62


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport