ก่อนแข่งก็ตามเชิงว่าอาร์เซนอลทีมเยือนนั้นดีกว่าแน่ๆ คงมีแค่เล่นที่แอนฟิลด์ ทีมระดับแมนฯซิตี้ และแมนฯยูฯ เอาชื่อมาทิ้งในปีนี้ รวมทั้งสถิติที่เหนือกว่าปืนใหญ่เท่านั้นที่เป็นแรงเสริมของเด็กหงส์
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นบ้างแบบชัดๆ
ครึ่งแรกปืนเหนือกว่า 35-40 นาที หงส์คึก 5 นาทีท้าย
1 อาร์เตต้า เน้นแทกติกเกมรุกด้านกว้าง
มาร์ติเนลลี กับ บูกาโย คือคีย์แมน ที่ อาร์เตตา ใช้โจมตีแบ๊กสองข้างของหงส์แดง
บอลออกมาที่สองคนนี้ต่อเนื่อง จนประตูขึ้นนำมาจากด้านขวาคือ ซาก้า เลี้ยงตัดในเข้าหน้าไลน์ ก่อนไหลให้ มาร์ติเนลลี ที่หุบเข้ามาเล่น แต่จังหวะเฮง ฟานไดจ์ สกัดบอลให้กับเท้า ก่อนลุยด้วยความคล่องผ่าน เทร้นต์ และรอบโบ้ เข้าไปดีดผ่านเบคเกอร์ง่ายๆ1-0
ประตู 2-0 ได้ฝั่ง มาร์ติเนลลี ที่ได้บอลจาก กรานิต ชาก้า หยอดให้ ก่อนหลุดไปริมเขตโทษด้านซ้าย แล้วครอสให้ เชซุส โขกเต็มกบาล 2-0 น.28
2 เกมรับ แมน มาร์คเกอร์ กาเบรียล- ซาลาห์
เนื่องจากการใช้ ซินเชนโก เป็นแบ๊กอินเวิร์ธ ตัดในเป็นกองกลาง หน้าที่การประกบ ซาลาห์ จึงเป็นของ กาเบรียล และตามติดเข้ามาแดนหงส์หลายครั้ง เป็นหมากเพรสแดนบนของปืน ซึ่งถือว่าก็มีหลุดบ้างเหมือนกัน แต่ ซาลาห์ ปีนี้การจบสกอร์ไม่คมเท่าไหร่
3 เกมรับหงส์ เล่นเหมือน"ทีมในผับ"
รอย คีน วิจารณ์ในสกายสปอร์ตช่วงพักครึ่งว่า กองหลังหงส์แดงเล่นเหมือนบอลมาจากผับ อย่างที่ผมเคยเขียนไปยืนจ้องกันเหมือน "กรวย" จราจร การเสียสองลูกคือความย่ำแย่ในการป้องกัน โดยเฉพาะ ฟานไดจ์ ที่ต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะลูกสอง ไม่ดูคนเลย ยืนเฝ้าเส้นกรอบหกหลาอย่างหวงแหน
4 หงส์งัดลูกบู๊ มาสู้
หลังเสียประตูไป2-0 นักเตะลิเวอร์พูล คงหงุดหงิดกับเกม เน้นเกมดุดัน เข้าบอลหนัก
แถม เทรนต์ ใช้ลูกบู๊ ปะทะกับตัวตึงปืนโตอย่าง กรานิต ชาก้า ที่มีการผลักอก กัน แม้โดนเหลืองแต่ได้ใจเดอะ ค็อป ทั้งสนาม ที่ส่งเสียงหนุนหลัง ส่งผลให้เด็กหงส์ ไล่สกัดจังหวะ 50-50 โดยไม่มีหงอย ทำให้การเล่นอาร์เซนอลชะงักไป โดยเฉพาะห้านาทีท้าย โดนหงส์แย่งบอล กดดันจนตีไข่แตกได้จากจังหวะขึ้นบอลทางด้านโจนส์ , โชต้า ที่คัตแบ็กให้ เฮนโด ที่ไม่พร้อมยิง แหย่เท้าจนบอลเปลี่ยนทางไปเสาสอง จังหวะ ซาลาห์ โฉบเข้ามายิงไล่มา 2-1 จนจบครึ่งแรก
ครึงหลังเป็นอีกเกมหนึ่ง
1 ปืนแผ่ว...หงส์เล่นเกมดุ
มีแค่ห้านาทีแรกเท่านั้นที่ดูคึกคัก แต่จากนั้น เด็กหงส์เปิดฉากไล่แย่งบอล งัดเกมหนักมาสู้ ทำให้นักเตะปืนดูหงอๆ และทำเกมไม่ได้ เล่นเกมที่ตัวเองไม่ถนัดไม่ได้เลย ส่งผลให้เด็กหงส์ครองบอลบุกเข้าหาอย่างต่อเนื่องร่วมๆ 20 นาทีเต็ม เป็นเกมที่ได้ใจกองเชียร์ในแอนฟิลด์
2 ปืนเป๋ จึงโดน
พายุการรุกแบบเล่นดุดัน ใช้ลูกบู๊ จังหวะคาบลูกคาบดอก ทำให้นักเตะปืน เล่นไม่ออก กดดันจนได้จุดโทษ จากจังหวะโจมตีต่อเนื่อง และ โฮลดิ้ง ทะเล่อทะล่า ทำฟาวล์ จนเสียจุดโทษ
3 ซาลาห์ ยิงจุดโทษไม่ดี
เป็นครั้งที่สองต่อจากเกมบอร์นมัธ ท่าวิ่ง ท่ายิง มันไม่สมดุล
ดูจากมุมหลังถ้าไม่ยิงตวัดข้อก็เท่ากับเปิดหน้าเท้าให้ แรมส์เดล เห็น
ยิงออกไปเอง นัดเตะบอร์นมัธ ยิงหลุดไปไกล
4 ปืนรอสวน
เมื่อไม่สามารถเล่นเกมรุกที่ตัวเองถนัดได้ ทำให้ทีม อาร์เตตา รอจังหวะสวนกลับเป็นหลัก เพราะขึ้นบอลเหมือนเดิมไม่ได้ ซาก้า,เชซุส , มาร์ติเนลลี ถูกตัดออกจากเกม เกมเป็นของหงส์แดงซะอย่างนั้น
เล่นบอลเหมือนกำลังมีลุ้นแชมป์ซะงั้น
5 หงส์ใช้โอกาสเปลือง
เกมที่ดีกว่าปืนใหญ่ แต่ ดาร์วิน, ซาลาห์ ต่างใช้โอกาสเปลือง จนกระทั่งมาได้ บ๊อบบี ฟีร์มีโน โหม่งตีเสมอ 2-2 (ยิงปืน 8 ลูกใน8เกมที่แอนฟิลด์) แต่ต้องชม อารอน แรมสเดล ที่เซฟลูกยากถึง4 ครั้ง
ก่อนแบ่งแต้มในแบบที่ลิเวอร์พูลเล่นได้ดีในครึ่งหลัง
นี่เป็นอีกนัดหนึ่งที่พลพรรคหงส์แดงใช้พลังพลิกเกม ที่เป็นรอง ใช้เสียงเชียร์หนุนหลัง ลุยสู้...ว่ากันตามจริงก็น่าประทับใจที่เล่นบอลแบบนี้ อย่างที่แฟนบอลอยากเห็น เพราะหากเล่นไปเรื่อยๆ ไม่มีลูกฮึด งัดเกมบู๊มาสู้ปืนคงเล่นสบาย แต่พอเล่นแบบดุดัน ถึงลูกถึงคน ก็สู้ได้โดยเฉพาะครึ่งหลัง
แต่...อย่างว่าแหละ คุณภาพของลิเวอร์พูลในซีซั่นนี้มันดรอปลง จากหลังจนถึงกองหน้า
รับไม่ดี ยิงไม่เด็ดขาด
การเสมออาร์เซนอลในแบบที่เล่นดีครึ่งหลัง คือคำตอบที่ชัดเจนว่า ทีมต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายจุดเช่นกัน
ส่วนอาร์เซนอลกับผลเสมอในเกมที่ยากลำบาก ต้องยอมรับว่าพวกเขาทำได้ดีแค่ 35 นาที ของครึ่งแรก ส่วนครึ่งหลังเป็นเกมของหงส์แดง ที่เหนือกว่า แต่พวกเขาเอาตัวรอดไม่แพ้ออกจากแอนฟิลด์ไปได้
กระนั้นก็ไม่ถือว่าได้เปรียบมากเพราะมันมีเกมที่ต้องไปเจอแมนฯซิตี ที่เอติฮัด 26 เม.ย. ที่อาจเป็นนัดตัดสินแชมป์!