แมนฯ ยูไนเต็ด งมหาชัยชนะในพรีเมียร์ลีกจนเจออีกครั้ง โดยเฉือนผู้มาเยือนอย่าง เบรนต์ฟอร์ด ไปแบบหวุดหวิด ด้วยสกอร์ 1-0 หลังจากที่ไม่ชนะใครมา 3 เกมติดต่อกัน แถมยิงไม่ได้สักประตูเดียว
และนี่คือสิ่งที่ผู้ชมทางบ้านอย่างกระผมอยากจะบอก
1.ขอเริ่มต้นด้วยการจัดทัพ
เอริค เทน ฮาก ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสียที นั่นคือการดร็อปกองหน้าตัวรับอย่าง เวาท์ เวกฮอร์สต์ ที่ถูกวิญญาณปั้นจั่นเข้าสิงร่างออกจากตำแหน่งตัวจริง โทษฐานของหัวหอกที่ดันยิงประตูไม่เป็น
แผงหลังเหมือนเดิมจากนัดที่แล้วทุกตำแหน่ง
แดนกลางมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยด้วยการขยับ บรูโน แฟร์นันด์ส จากตำแหน่งหมายเลข 10 มายืนต่ำเป็นตัวคุมจังหวะเกมคู่กับ สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่เป็นตัวรับ แล้วให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ขึ้นสูงไปเล่นเหมือนเป็นกองหน้าคนที่ 2
ส่วนหน่วยเหนือ มาร์คัส แรชฟอร์ด สวมบทกองหน้าตัวเป้า ขนาบข้างข้างขวาและซ้ายด้วย อันโตนี่ กับ เจดอน ซานโช่ แถมบนม้านั่งสำรองมี อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล รอโอกาสอยู่
2.ทีนี้มาว่ากันถึงเรื่องเกม
ขอสารภาพตามตรงว่า...ผิดคาด (อย่างแรง)
คือผู้ชมทางบ้านอย่างผมไม่คิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะคอนโทรลเกมได้แบบเบ็ดเสร็จซะขนาดนั้น
เปิดฉากมาก็ครองบอลบุกใส่เลย ก่อนจะคุมเกมได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยความกระตือรือร้นของผู้เล่น พวกเขาบีบสูงใส่ผู้มาเยือนแล้วพุ่งเข้าหาบอลเร็วทุกจังหวะ
ต่อเมื่อเป็นฝ่ายครองบอลก็จะรับส่งกันตามช่องด้วยความแม่นยำและแน่นอนกว่าคู่แข่ง
บอลจังหวะ 2 หรือจังหวะเก็บตกก็ทำได้เหนือกว่า แถมไม่อนุญาตให้ เบรนต์ฟอร์ด สวนกลับอีกต่างหาก
ปัญหาคือพลพรรคปีศาจแดงดันหาจังหวะจบแบบจะจะไม่ค่อยเจอ ทั้งที่มีโอกาสมากมาย
ทั้งการคุมเกมแล้วบุกอยู่ข้างเดียวกับการหาจังหวะแบบจะจะไม่ค่อยเจอสามารถอธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์นะครับว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร ???
3.หลังเก็บได้แค่แต้มเดียวจาก 3 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องสำแดงออกถึงความมุ่งมั่นให้มากขึ้น และด้วยคุณภาพผู้เล่นที่เหนือกว่า มันย่อมช่วยให้พวกเขาเป็นฝ่ายครองบอลบุกมากกว่า
มิเพียงเท่านั้น
วิธีการเล่นของสโมสรผึ้งน้อยก็มีส่วนสำคัญ
ตอนแรก ผมมั่นใจว่าผู้มาเยือนจะเล่นงานเจ้าของบ้านด้วยการบีบสูงแล้วเพรสซิ่งเข้าใส่ เพราะมันเป็นกลยุทธ์ที่ปีศาจแดงเกลียดพอๆ กับพวกสเกาเซอร์ส
กลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปราศจาก กาเซมิโร่ กับ คริสเตียน เอริคเซ่น ก็มักจะพลิกบอลหรือทำชิ่ง เพื่อแก้เพรสส์คู่ไม่ค่อยเก่งสักเท่าไหร่ (นั่นคือเหตุผลที่ต้องขยับ 'บรูโน่' ลงมาต่ำ)
แทนที่ เบรนต์ฟอร์ด จะไล่บดไล่บี้แบบถึงลูกถึงเมียทุกจังหวะให้ทีมเจ้าถิ่นเล่นยาก พวกเขากลับเลือกที่จะถอยลงไปคุมพื้นที่พลางตั้งรับในแดน
นี่แหละเหตุผลที่บอกว่าทำไม แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงครองบอลบุกได้มากกว่า แต่หาจังหวะทำลายตาข่ายแบบเหน่งๆ ไม่ค่อยเจอสักเท่าไหร่
4.จบครึ่งแรก นอกจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด จะกระทุ้งประตูขึ้นนำ 1-0 พวกอสูรสามง่ามยังควบคุมสถานการณ์พลางบุกอยู่ข้างเดียว แถมไม่ยอมให้ผู้มาเยือนสวนกลับด้วยนะ ชนิดที่ ดาบิด เด เคอา ไม่ต้องออกแรงเซฟลูกยิงของคู่แข่งสักครั้งเดียว
ปัญหาคือการนำเพียงแค่ประตูเดียวนี่แหละ
มันน่าหวาดเสียว
ดังฉะนั้นในครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด จึงเล่นกันอย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกับที่ เบรนต์ฟอร์ด ต้องเสี่ยงและต้องเน้นเกมรุกมากยิ่งขึ้น
มันจึงกลายเป็นเกมที่น่าอึดอัดสลับกับกระสับกระส่าย
เรด เดวิลส์ ยังคงเล่นดีและบุกมากกว่าก็จริง
ทว่าตราบใดที่คุณยังย้ำหัวตะปู 7 ป่าช้าลงบนฝาโลงจำปาที่ทำจากไม้ตะเคียนไม่ได้ คุณก็มีสิทธิ์ถูกตีเสมอแบบจับพลัดจับผลูทุกเมื่อ
เดชะบุญ...มันเป็นเกมที่ผู้เล่นของ เบรนต์ฟอร์ด ดันเล่นกันแบบผิดฟอร์มด้วย
5. ฟอร์มโดยรวมของปีศาจแดงถือว่าไฉไลนะครับ เฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งแรก แม้จะไม่มีดาวเตะสำคัญอย่างคุณเกษมวิโรจน์
น่าเสียดายที่ชนะแค่ประตูเดียว
คือมันน้อยไปหน่อย หากดูจากเปอร์เซ็นต์การครองบอล การได้ลูกเตะมุม และโอกาสทำประตู
อย่างไรก็ยังดีกว่าไม่ชนะ
...ว่าแล้วก็ปีนกลับเข้าไปอยู่ใน "ท็อปโฟร์" อีกครั้ง โดยนำหน้า สเปอร์ส 3 แต้ม แถมแข่งน้อยกว่า 1 นัด
บรรดาผู้มีจิตศรัทธาในปีศาจแดงและนาทีนี้เลยหายใจได้อย่างโล่งตูด เอ๊ย! โล่งจมูกหน่อย
บอ.บู๋