ส่อแววหลุดท็อปโฟร์! 3 เหตุผล แมนยู อาจชวดตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก

ในฐานะทีมอันดับสามของตาราง ร้านรับพนันต่างพากันยกให้ทีมของ เอริค เทน ฮาก รั้งเต็งหนึ่งแบบนอนมาที่จะจบซีซั่นในสี่อันดับแรกได้แบบหายห่วง แต่หลังบุกไปโดน นิวคาสเซิ่ล รองแชมป์ คาราบาวคัพ ถอนแค้นด้วยสกอร์ 2-0 ที่สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค สถานการณ์ก็เริ่มกลับตาลปัตรทันที

ดังจะเห็นว่า ผีแดง หล่นมาอยู่ในอันดับสี่แล้วโดยถูก เดอะ แม็กพายส์ แซงขึ้นอันดับสามแทนด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่าเยอะ

เท่านั้นไม่พอ หากเกมเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 3 เม.ย. สเปอร์ส บุกไปสยบ เอฟเวอร์ตัน ได้สำเร็จ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็จะหล่นลงสู่อันดับห้าทันทีแม้จะลงเล่นน้อยกว่า ไก่เดือยทอง สองเกมก็ตาม

ด้วยเหตุนี้ การคว้าอันดับท็อปโฟร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด จึงเริ่มไม่แน่นอนซะแล้วเนื่องจากสามนัดหลังใน พรีเมียร์ลีก พวกเขาไม่ชนะเลย แถมยิงประตูไม่ได้แม้แต่เม็ดเดียวอีกด้วยกับการเก็บได้แค่แต้มเดียวเท่านั้นในเกมเฝ้าบ้านเจ๊ากับ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมบ๊วยแบบไม่มีสกอร์

ฉะนั้นแล้ว มันเป็นเหมือนลางบอกเหตุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด อาจตกม้าตายในโค้งสุดท้ายก็เป็นได้ และนี่คือ 3 เหตุผลที่อาจทำให้พวกเขาพลาดการคว้าอันดับท็อปโฟร์โดยยึดจากฟอร์มล่าสุดในเกมบุกไปแพ้ สาลิกาดง เป็นสำคัญ

1. บุคลิกภาพ (แพ้แล้วแพ้เลย)

นิวคาสเซิ่ล ไม่ใช่ว่าไม่เคยแพ้ให้กับคู่แข่ง แต่พวกเขาไม่ออกอาการเหมือน แมนฯ ยูไนเต็ด ต่างหากที่หากเกมไหนเล่นกันได้ไม่เอาอ่าวก็เหมือนจะการันตีความปราชัยได้เลย

ยิ่งไปกว่านั้น กับการปราศจากผู้นำหรือว่ากัปตันทีมที่มีความเหมาะสม ต่างไปจากอดีตที่ ผีแดง มี สตีฟ บรู๊ซ สวมปลอกแขนคอยกระตุ้นพรรคพวกให้สู้ตายถวายชีวิต มันจึงทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคปัจจุบันมีเกมที่เลวร้ายบ่อยครั้งอย่างก่อนหน้านี้ก็เป็นการโดน ลิเวอร์พูล อัดเละ 7-0 ที่ แอนฟิลด์

ยิ่งไปกว่านั้น มันอาจเป็นประเด็นของความหิวกระหายด้วยที่ทั้ง ลุค ชอว์ และ เทน ฮาก ให้สัมภาษณ์หลังเกมตรงกันว่า นิวคาสเซิ่ล กระหายชัยชนะมากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด

เอ่ยถึง นิวคาสเซิ่ล พวกเขาแพ้ในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้สามนัดให้กับ ลิเวอร์พูล สองนัด และ แมนฯ ซิตี้ หนึ่งนัด แต่ลูกทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ไม่ถึงกับเสียทรงเหมือนกับที่ ผีแดง ปราชัยในแต่ละเกม

ดังจะเห็นว่า สาลิกาดง ถูกโจมตีน้อยมาก หรือไม่ถูกโจมตีเลยด้วยซ้ำเนื่องจากนักเตะของพวกเขายังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และความพยายามในสนามแม้จะไม่อาจคว้าชัยชนะได้ก็ตาม

และบางทีเกมแดงเดือดหนล่าสุดอาจส่งผลกระทบอย่างเลวร้ายต่อสภาพจิตใจของขุนพล เร้ด เดวิลส์ ที่มีผลงานใน พรีเมียร์ลีก ติดๆขัดๆทันที ไม่ได้มีรูปเกมที่น่าเกรงขามเหมือนเคยอีก

ขณะเดียวกัน นักเตะ ผีแดง ไม่คิดแยแสแฟนบอลตัวเองด้วยหลังเกมแพ้ นิวคาสเซิ่ล เนื่องจากหลายรายพากันเดินเข้าอุโมงค์หลังจบเกมทันที ร้อนจน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ต้องจ้ำจี้จำไชให้เดินไปปรบมือขอบคุณสาวกที่เดินทางมาให้กำลังใจทีมซึ่งประเด็นนี้ชี้ให้เห็นว่าพวกเขากำลังกดดันอย่างหนักหลังจากโชว์ฟอร์มแย่อย่างต่อเนื่อง

2. คุณภาพ

ชอว์ บ่งชี้ว่า นิวคาสเซิ่ล ไม่ได้ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยคุณภาพ แต่เป็นความหิวกระหายของพวกเขา

พูดแบบนี้ บอกได้เลยว่าแบ็คซ้ายทีมชาติ อังกฤษ คิดผิดเต็มเปาเพราะจริงๆแล้วสตาร์ทีม สาลิกาดง แสดงให้เห็นถึงคุณภาพต่างหากต่อการล้างแค้น ปีศาจแดง ได้อย่างเจ็บแสบซึ่งอาจมีผลทำให้ทีมของ เทน ฮาก ชวดอันดับท็อปโฟร์ก็เป็นได้

ในแง่คุณภาพ ชัดเจนเลยว่า เวาท์ เว็กฮอร์สต์ ไม่มีสิ่งนี้อยู่ในตัวนอกเหนือจากความขยันตามแบบฉบับของผึ้งงานเท่านั้นเพราะถึงขณะนี้แล้ว กองหน้าทีมชาติ ฮอลแลนด์ ยิงได้แค่สองประตู และยังเท้าบอดในเกม พรีเมียร์ลีก ไม่เลิกทั้งๆที่ เทน ฮาก ส่งลงเล่นเป็นตัวจริงยันเต

ไม่เพียงเท่านั้น สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็เป็นอีกรายที่สร้างประโยชน์ให้ทีมไม่ได้แม้จะเล่นได้อย่างโดดเด่นมาหมาดๆในเกมทีมชาติ แต่ดาวเตะสกอตต์ไม่สามารถทดแทน กาเซมีโร่ ได้เลยจริงๆจนส่งผลให้ นิวคาสเซิ่ล ขึ้นเกมรุกได้อย่างสบายไม่มีอะไรติดขัด และได้ส่องยิงตลอดทั้งเกมมากถึง 22 ครั้ง หากแต่ทีมของ ฮาว มีจุดบกพร่องในด้านนี้ หาไม่แล้ว ผีแดง อาจแพ้ด้วยสกอร์ 7-0 อีกเกมก็เป็นได้

จากภาพรวมในเกมที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด นัดกันเล่นได้อย่างน่าผิดหวังทุกราย ยกเว้นก็แค่ ดาบิด เด เคอา ที่ยังพึ่งพาได้ทุกนัดเช่นเดิม ไม่เว้นแม้กระทั่ง ดีโอโก้ ดาโลต์ ซึ่งคว้าโอกาสไม่สำเร็จทั้งๆที่ได้ลงเล่นเนื่องจาก อารอน วาน บิสซาก้า ป่วย ตลอดจน มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งถอนตัวจากการรับใช้ชาติไปพักผ่อนที่นิวยอร์ค แต่แทบไม่มีส่วนกับเกมเลยสักนิด

3. โปรแกรมที่เหลืออยู่

ก่อนหน้านี้ ผู้สันทัดกรณีลงความเห็นตรงกันว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะคว้าอันดับท็อปโฟร์ได้อย่างแน่นอนเนื่องจากโปรแกรมที่เหลืออยู่ของพวกเขาง่ายกว่าทีมคู่แข่ง

แต่มาตอนนี้ มันไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นอีกแล้วก็ขนาดได้เล่นในบ้านต้อนรับการมาเยือนของ นักบุญ แท้ๆ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังทำได้แค่แบ่งแต้มให้ทีมบ๊วยด้วยผลเสมอ 0-0

กระทั่งล่าสุด เทน ฮาก พาทีมไปเสียท่าให้กับ นิวคาสเซิ่ล แบบหมดรูปชนิดที่เขาจำเป็นต้องยอมรับว่า สาลิกาดง สมควรได้สามแต้มทั้งๆที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยชนะคู่แข่งรายนี้ในนัดชิงดำถ้วย คาราบาวคัพ มาแท้ๆเมื่อเดือนก.พ.

ด้วยเหตุนี้ มันจึงฟ้องให้เห็นว่าไม่มีเกมไหนง่ายทั้งนั้นหาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่อาจงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ และยิ่งพวกเขาไม่ชนะเลยในลีกสามนัดหลัง มันก็ยิ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นในตัวนักเตะลดลงไปด้วยอย่างแน่นอนซึ่งไม่ว่าจะต้องต่อกรกับคู่แข่งระดับไหนก็จะต้องเลือดตาแทบกระเด็นกับการพยายามคว้าชัยชนะ

ประกอบกับการมีลุ้นคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยอีกสองรายการทั้ง เอฟเอคัพ และ ยูโรปาลีก ก็น่าจะส่งผลให้ ผีแดง เกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง หวังจับปลาทุกมือจนปลาทุกตัวอาจหลุดมือได้เช่นกัน

นอกจากจะต้องลงเล่นเกมลีกในอีก 11 นัดที่เหลือแล้ว ยังไม่แน่ว่าโปรแกรมของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะอัดแน่นมากแค่ไหนหากพวกเขายังผ่านเข้ารอบฟุตบอลถ้วยอีกสองรายการที่เหลือได้ต่อไป

ถึงจุดนี้ จึงสามารถบอกได้เลยว่าทีมจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด กำลังเผชิญกับหน้าสิ่วหน้าขวาน แม้จะได้แชมป์ไปแล้วหนึ่งรายการ แต่เป้าหมายสูงสุดของพวกเขาคือการกลับไปเล่นฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก ส่อเค้าว่าจะเข้าข่ายลูกผีลูกคนเข้าให้แล้ว