"ปู่รอย" คัมแบ็กคุมอย่างสวยหรู หลังส่ง "มาเตต้า" ซูเปอร์ซับลงมาซัดประตูชัยในช่วงทดเจ็บพา คริสตัล พาเลซ แซงเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ สุดมันส์ 2-1 คว้าชัยนัดแรกของปี 2023 รั้งที่ 12 ส่วน "เดอะ ฟ็อกซ์" แพ้ 6 ใน 7 เกมล่าสุด หล่นไปอยู่โซนตกชั้นอันดับ 18
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2566
คริสตัล พาเลซ 2 - เลสเตอร์ ซิตี้ 1
สนาม : เซลเฮิร์สท์ พาร์ค
คริสตัล พาเลซ ที่ รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือใหม้หน้าเก่าจะประเดิมคุมทีม หลังเข้ามาแทนที่ ปาทริค วิเอร่า โดยส่ง เอเบเรชี่ เอเซ่, ไมเคิ่ล โอลิเซ่ และ วิลฟรีด ซาฮา เป็นตัวชูโรงในแนวรุก
ด้าน เลสเตอร์ ยังใช้ ดาเนียล อีเวอร์เซ่น เฝ้าเสาต่อเนื่องเป็นเกมที่สอง ขณะที่ เวาต์ ฟาส และ วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น ก็ฟิตลงตัวจริงได้แล้ว ขณะที่ เจมส์ แมดดิสัน และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ก็ยังอยู่กันครบ
เริ่มเกมมาช่วงแรก คริสตัล พาเลซ บุกได้น้ำได้เนื้อกว่าเยอะเลย แค่นาทีเดียว วิลฟรีด ซาฮา ก็ได้ซัดทักทายแล้ว แต่บอลไม่ผ่านบล็อคแนวรับทีมเยือน
จากนั้น พาเลซ ก็บุกใส่เป็นพายุ และมีลุ้นจากทั้ง ซาฮา และ เช็ค ดูกูเร่ แต่แนวรับ เลสเตอร์ ก็ยังยืนกันแน่นบล็อคไว้ได้หมด โดยเฉพาะ เวาต์ ฟาส
นาทีที่ 7 กองหลัง เลสเตอร์ สกัดลูกเตะมุมออกมา เช็ค ดูกูเร่ กองกลาง พาเลซ ได้เก็บตกซัดสวนเข้าไปด้วยขวา แต่บอลไม่ห่างมือ ดาเนียล อีเวอร์เซ่น เลยล้มตัวรับไว้ได้
ทัพ จิ้งจอก เองก็เกือบเฮเหมือนกันในช่วงนาทีที่ 11 เมื่อ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ไหลต่อเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น เติมขึ้นมาเปิด แต่บอลลึกไปชนเสาไกลเด้งออกมาหวุดหวิด
ถัดมา 3 นาที เป็นโอกาสทองของเจ้าถิ่น เมื่อ เอเซ่ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวโซโล่แหวกแนวรับทีมเยือนไปยิงในเขตโทษด้านขวา แต่ อีเวอร์เซ่น ก็ล้มตัวปัดมือเดียวไว้ได้
นาทีที่ 19 พาเลซ ได้ลุ้นจากลูกที่ ซาฮา ได้บอลในเขตโทษด้านซ้ายแล้วเอี้ยวตัวปั่นด้วยเท้าขวากะให้เข้าเสาไกล แต่ อีเวอร์เซ่น ก็ยังเหนียวบินปัดไว้ได้อีก
ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกมา พาเลซ ก็ยังได้ทำเกมบุก คราวนี้เป็น อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ ที่ได้ยิงด้วยขวา แต่ก็ไม่ผ่านมือ อีเวอร์เซ่น อีกครั้ง
กระนั้น พาเลซ ก็มาเจอข่าวร้ายในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เมื่อ วิลฟรีด ซาฮา ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นทางกราบซ้ายดันบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนออกแล้วเอา จอร์แดน อายิว ลงมาแทน
หมดครึ่งแรก คริสตัล พาเลซ เสมอ เลสเตอร์ อยู่ 0-0
ครึ่งหลัง นาที 50 "จิ้งจอกสยาม" เกือบชิงขึ้นนำหลัง ดูว์สบิวรี่-ฮอลล์ ตักบอลมาเสาไกลถึง เจมส์ แมดดิสัน จับบอลลงแล้วซัดเร็วแต่ยังไปติดเซฟของ บิเซนเต้ ไกวต้า ช่วยพาเลซไว้หวุดหวิด
นาที 56 เลสเตอร์ ซิตี้ มาขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ ทิโมธี กาสตาญ หักบอลเข้ากลางมาให้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาแทน เตเต้ กดด้วยขวาเข้าไปสุดเฉียบส่งบอลเข้าก้นตาข่ายสวยงามให้ จิ้งจอก ออกนำ 1-0
แต่อีกแค่ 3 นาทีถัดมา แฟนบอลดิ อีเกิ้ลส์ ได้เฮกันบ้าง เมื่อพาเลซมาได้ฟรีคิกนอกกรอบ ก่อนที่ เอเบเรชี่ เอเซ่ จะปั่นข้ามกำแพงไปชนคานก่อนบอลกระเด้งมาชนขา ดาเนียล อีเวอร์เซ่น เข้าประตูตัวเองไป ให้ คริสตัล พาเลซ ตามไล่ตีเสมอ 1-1
นาที 76 พาเลซ เกือบพลิกแซงขึ้นนำ หลัง เอเซ่ ตั้งป้อมปั่นนอกกรอบบอลพุ่งจะเสียบมุมเสาไกลอยู่แล้วแต่ อีเวอร์เซ่น ยังไวพุ่งบินปัดออกไป
เกมทำท่าจะจบลงด้วยการแบ่งแต้ม แต่แล้วช่วงทดเจ็บ นาที 90+5 ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ตัวสำรองที่เพิ่งลงมารับลูกจ่ายของ จอร์แดน อายิว ก่อนซัดด้วยซ้ายผ่านตัว อีเวอร์เซ่น เข้าไปอย่างเฉียบขาดพา คริสตัล พาเลซ แซงขึ้นนำ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ก่อนผู้ตัดสินเป่านกหวีดยาวจเกมส่งให้ "ปู่รอย" รอย ฮ็อดจ์สัน คัมแบ็กกลับมาคุมพาเลซได้อย่างสวยหรู พร้อมชัยชนะนัดแรกนับแต่ขึ้นปี 2023 รั้งที่ 12 มี 30 คะแนน ส่วน "เดอะ ฟ็อกซ์" แพ้ 6 ใน 7 เกมล่าสุด หล่นไปอยู่โซนตกชั้นอันดับ 18 มีอยู่ 25 แต้ม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นทั้งสองทีม
คริสตัล พาเลซ : บิเซนเต้ ไกวต้า - โจเอล วอร์ด, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, มาร์ค เกฮี, ไทริค มิตเชลล์ - เอเบเรชี่ เอเซ่, เช็ค ดูกูเร่, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ - ไมเคิ่ล โอลิเซ่, อ็อดซอนน์ เอดูอาร์, วิลฟรีด ซาฮา
เลสเตอร์ : ดาเนียล อีเวอร์เซ่น - ทิโมธี กาสตาญ, แฮร์รี่ ซุททาร์, เวาต์ ฟาส, วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น - วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, เคียร์แนน ดูว์สบิวรี่-ฮอลล์ - เตเต้, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ - แพตสัน ดาก้า
ผู้ตัดสิน : ทิม โรบินสัน