การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ ลิเวอร์พูล จะเกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์นี้ นักเตะหลายคนมีแนวโน้มที่จะย้ายออกจากทีม โดยเฉพาะผู้เล่นที่กำลังจะหมดสัญญาอย่าง นาบี้ เกอิต้า, อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน หรือกระทั่ง เจมส์ มิลเนอร์
นอกจากรายชื่อที่กล่าวไป คนอื่น ๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะถูกเทขายเพื่อนำเงินมาเป็นทุนในการคว้าคนใหม่เข้ามา ส่วนจะเป็นใครบ้างนั้น ต้องรอดูกันต่อไป
บนหน้ากระดาษคอลัมน์ Boot Room ที่จะเล่าสู่กันฟังในสัปดาห์นี้ ขอพูดถึงกลุ่มนักเตะที่สโมสรปล่อยออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แทบทั้งหมดคือนักเตะอายุน้อยที่มีโอกาสพัฒนาฝีเท้าก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่
ในบรรดาผู้เล่นทั้งหมดที่เก็บกระเป๋าชั่วคราวมีทั้งหมด 13 ราย และสถานการณ์ของแต่ละคนก็แตกต่างกัน ทั้งเรื่องอนาคตที่จะได้ไปต่อกับ ลิเวอร์พูล หรืออาจต้องเก็บข้าวของเป็นการถาวร
คนแรกที่จะพูดถึงคือ ไทเลอร์ มอร์ตัน เจ้าเด็กนี่ก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ได้ตั้งแต่ปีก่อน แต่ซีซั่นนี้ด้วยความอัดแน่นตรงแดนกลาง และการมี สเตฟาน บายเซติช ขึ้นมาทำให้เขาถูกปล่อยให้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ไปใช้งาน
มอร์ตัน เป็นดาวรุ่ง"หงส์แดง" รายที่ 3 แล้วนะครับ ที่สโมสรให้ไปเพิ่มพูนเลเวลที่ อีวู้ด พาร์ค ต่อจาก เลห์ตัน คลาร์กสัน และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์
อย่างไรก็ดี ตอนแรกดูเหมือนเป็นฤดูกาลที่ค่อนข้างอารมณ์ผสมปนเป เพราะ มอร์ตัน ถูกแฟน ๆ โรเวอร์ส ค่อนขอดว่าจะทำผลงานน่าผิดหวังเหมือนที่พวกเขาเคยมีประสบการณ์ไม่ดีครั้งที่ทีมยืมตัว คลาร์กสัน มิเพียงเท่านั้น แฟน ๆ โรเวอร์ส ส่วนหนึ่งยังเกรงว่าเป็นการปิดกั้นโอกาสเด็กดาวรุ่งที่เติบโตมากับสโมสร
แต่พวกเขาคงลืมไปแล้วเหมือนกันว่า เอลเลียตต์ ก็เป็นคนที่ทำผลงานกับ แบล็คเบิร์น ได้ดี แต่กลับไม่มีใครเอาไปเปรียบเทียบ
ถึงตอนนี้ มอร์ตัน ลงเล่นให้กับทีมแชมเปี้ยนชิพ ไปแล้ว 40 เกม และในช่วงซัมเมอร์ เขาก็จะกลับมายัง ลิเวอร์พูล เพื่อตัดสินใจอีกทีว่าจะได้เล่นกับ "หงส์แดง" ชุดใหญ่ หรือจะถูกปล่อยยืมตัวอีกรอบ
คนต่อมา คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ ที่เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีโอกาสได้สัมผัสเหรียญรางวัล เพราะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ที่เขาไปอยู่ด้วยนั้นได้เข้าชิงชนะเลิศรายการ อีเอฟแอล โทรฟี่ กับ พลีมัธ อาร์ไกล์
ดาวรุ่งรายนี้ ปีก่อนได้ลงเล่นกับ ลิเวอร์พูล ไป 5 นัด แต่หลังจากการมาของ คาลวิน แรมซี่ย์ การย้ายออกแบบยืมตัวเป็นทางออกที่ดีเพื่อการลงสนามต่อเนื่อง
ผลงานของ แบร็ดลี่ย์ ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่เลยสักนิด เขาเป็นกำลังสำคัญของ "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" ในการลุ้นเลื่อนชั้นคืนสู่ แชมเปี้ยนชิพ
43 นัด 6 ประตู 6 แอสซิสต์ เป็นตัวเลขที่ดีทีเดียวกับผู้เล่นตำแหน่งแบ็กขวา และได้รับคำชมจาก เอียน อีวัตต์ ผู้จัดการทีมโบลตัน ว่าที่เหมือน "ฟองน้ำ" ที่พร้อมซึมซับการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น
ส่วนอนาคตกับ ลิเวอร์พูล คาดว่า แบร็ดลี่ย์ น่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่ในช่วงพรี-ซีซั่น และหากถูกปล่อยยืมตัวอีกรอบ ลีกที่สูงกว่า แชมเปี้ยนชิพ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
อย่างที่กล่าวไปว่า เลห์ตัน คลาร์กสัน ไม่ใช่การยืมตัวที่ดีนักของ แบล็คเบิร์น เมื่อปีก่อน แต่ตอนนี้เขากำลังเฉิดฉายในลีกสกอตแลนด์ กับ อเบอร์ดีน
คลาร์กสัน ได้กระแสตอบรับเชิงบวกจากแฟนบอลที่นั่น และใช้เวลาปรับตัวไม่นานกลายเป็นตัวเล่นลูกนิ่งประจำทีม รวมถึงบางเกมนอกจากการเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับตามถนัดแล้ว เขายังสามารถขึ้นไปเล่นกองหน้าตัวเป้าไม่แบบไม่เคอะเขิน
อย่าไรก็ตาม โอกาสที่เขาจะก้าวขึ้นมาเล่นกับ ลิเวอร์พูล ชุดใหญ่ได้นั้นเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น ซึ่งทางออกคือการได้กลับมาเล่นที่ อเบอร์ดีน ที่ที่เขาโดดเด่น และน่าจะมีความสุขที่ได้ลงเล่น
เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก... ลืมชื่อนี้ไปแล้วหรือยังครับ? ด้วยรูปร่าง และความสามารถดูมีแววที่จะไปโรจน์ แต่ด้วยจำนวนผู้เล่นตำแหน่งแนวรับที่กองอยู่ตรงหน้า ทำให้การยืมตัวเป็นโอกาสที่จะได้โชว์ฝีเท้า
ซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลายทีมไม่น้อยที่ยื่นซองขอยืมตัวไปใช้งาน ทั้ง เบิร์นลี่ย์, แบล็คเบิร์น ซึ่งก่อนหน้านี้ ฟาน เดน เบิร์ก ได้ไปอยู่กับ เปรสตัน นอร์ธ เอ็นด์ เป็นเวลา 18 เดือน ก่อนที่สุดท้ายเขาอัปเกรดตัวเองไปเล่นในลีกสูงสุด เยอรมนี กับ ชาลเก้ 04
เมื่อไปยังที่นั่น ฟาน เดน เบิร์ก ยึดตำแหน่งตัวจริงได้ทันที ในเกมเจอกับ เอาก์สบวร์ก เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม ปีก่อน
ทว่าเรื่องโชคร้ายเกิดขึ้นเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บตรงเอ็นข้อเท้าจนต้องเข้ารับการผ่าตัดจนต้องพักรักษาตัวนาน 5 เดือน
ยิ่งไปกว่านั้น วันที่ ฟาน เดน เบิร์ก กลับคืนสนามลงเล่นให้ทีมสำรองชาลเก้ เขาพลาดทำเข้าประตูตัวเองแบบน่าเจ็บใจ
สำหรับอนาคตกับ ลิเวอร์พูล เขาควรได้รับการเลือกเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมทีมช่วงพรี-ซีซั่น แต่หากไม่มีโอกาสเช่นนั้น การย้ายทีมแบบถาวรคงน่าจะดีที่สุดเพื่อเส้นทางอาชีพ
มาถึงรายของ จาเรลล์ ควอนซาห์ ที่ใช้เวลา 80 นาทีในเกม ยู-21 ปีนัดเจอกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง เมื่อเดือนมกราคม ทำให้แมวมองหลายคนสนใจ
หนึ่งในนั้นคือ โจอี้ บาร์ตัน ผู้จัดการทีม บริสตอล โรเวอร์ส ที่ยื่นมือเข้ามาดึงเด็กวัย 20 ปีรายนี้ไปใช้งานในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาลนี้
แต่เดิม ควอนซาห์ โดดเด่นบนแผงแนวรับในทีมอะคาเดมี่ ลิเวอร์พูล เป็นกัปตันทีมชุดยู-18 และเป็นกัปตันทีมลงสนามนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ ยูธ คัพ เมื่อปี 2021
ในการย้ายไปเป็นลูกทีมของ บาร์ตัน นั้น ควอนซาห์ ลงเล่นในเกมลีก วัน ไปแล้ว 11 นัด จนได้รับการชื่นชมจากปากอดีตแข้งขาโหดว่า "The sky is the limit" หรือแปลได้ประมาณว่า "ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้"
เรื่องอนาคตปีหน้ากับ ลิเวอร์พูล คงจะดีหาก ควอนซาห์ ได้ออกไปยืมตัวอีกครั้งในแบบใช้งานได้เต็ม ๆ ทั้งฤดูกาล และเขาเป็นนักเตะดาวรุ่งที่ทีมไม่ควรขาย
เมื่อปรี-ซีซั่นปีก่อน ลุค แชมเบอร์ส เดินทางร่วมกับทีมชุดใหญ่มาทัวร์เซาธ์อีสต์ เอเชียที่ประเทศไทย กับ สิงคโปร์ และต่อมาเขาเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่โดดเด่นกับทีมอะคาเดมี่ของทีมในซีซั่นนี้ ก่อนที่จะได้ย้ายไปอยู่ คิลมาน็อค ตอนเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เด็กหนุ่มวัย 18 ปีที่เข้ามาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ 6 ขวบ เป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติอังกฤษ ยู-19 ที่คว้าแชมป์ ยูโร มาครองได้เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว และภายใต้สีเสื้อ คิลมาร์น็อค เขาลงเล่นไปแล้ว 7 นัด
ซึ่งคำชมจาก เดเร็ค แม็คอินเนส ผู้จัดการทีม คิลมาร์น็อค กล่าวไว้ว่า "36 ปีก่อน ผมเล่นทีมชุดใหญ่ครั้งแรก และผมไม่ได้เล่นเก่งได้เท่ากับเขาเลย"
"เขายอดเยี่ยม ดูเหมือนเด็ก 13 แต่เล่นได้อย่างกกับอายุ 30 เขามีความเป็นผู้ใหญ่ เยือกเย็นกับการเล่นเกมรับของตัวเอง การตัดสินใจเล่นกับบอลของเขาดีเอามาก ๆ เลยล่ะ"
ส่วนอนาคต แชมเบอร์ส ก็ไม่ต่างกับ แบร็ดลี่ย์ ที่ควรได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่ช่วงพรีซีซั่นที่จะมาถึง จากนั้นเขาควรได้รับการพัฒนาในทีมยู-21 หรือออกไปอัปเกรดในรูปแบบยืมตัวอีกรอบ
ในขณะที่ แชมเบอร์ส เติบโตในรูปแบบการยืมตัว ในรายของ อดัม ลูอิส กลับมีทิศทางกลับกัน เพราะรายหลังเจออาการบาดเจ็บแฮมสตริงเล่นงานจนทำให้ปิดเทอมทั้งฤดูกาลกับ นิวพอร์ท เคาน์ตี้ ไปแล้วเรียบร้อย
ลูอิส วัย 23 ปีเป็นนักเตะริมเส้นทางด้านซ้าย มีผลงานทำ 1 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ใน 6 เกมหลังสุด
น่าเสียดายที่โอกาสของเขากับ ลิเวอร์พูล ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เนื่องด้วยสัญญากำลังจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งการแยกทางดูจะสมเหตุสมผลสุด และกองเชียร์ นิวพอร์ต ก็น่าจะพร้อมต้อนรับเขากลับไปยังถิ่น ร็อคนี่ย์ พาเหรด อีกครั้ง
ช่วงครึ่งซีซั่น 2022/23 ฟิเดล โอ'รูร์ค วัย 21 ปีคือเครื่องผลิตสกอร์ชั้นดีบนเวทีลีกเวลส์ กับ แคร์นาร์ฟอน เอฟซี ด้วยการซัดไป 7 ประตูจาก 10 เกมที่ลงสนาม
ดาวรุ่งผู้มีถิ่นกำเนิดที่ ลิเวอร์พูล สร้างความประทับใจมากทีเดียว จนกระทั่ง ลิเวอร์พูล ต่อยอดให้ โอ'รูร์ค ด้วยการเรียกตัวคืนกลับมาแล้วปล่อยไปให้ ฮาลิแฟ็กซ์ ทาวน์ ทีมระดับเนชั่น ลีก อังกฤษ
อย่างไรก็ตาม ประตูที่เคยไหลมาเทมากับทีมก่อนกลับหายจ๋อมเป็นศูนย์ทั้งที่ได้ลงเล่นไป 9 เกม แต่ในจำนวน 9 เกมนั้น โอ'รูร์ค ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่ 3 เกม
การได้ลงเล่นต่อเนื่องสม่ำเสมอควรเป็นโอกาสของเขา ซึ่งการออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกหนก็คงไม่ได้แย่อะไรสำหรับเด็กหนุ่มรายนี้
หลายคนลืมไปแล้วว่า ลิเวอร์พูล มีชื่อ แอนเดอร์สัน อาร์โรโย่ ดาวเตะโคลอมเบียเป็นนักเตะของทีม เพราะเวลาส่วนใหญ่ที่ใช้ไปคือปล่อยให้ทีมอื่นใช้งานมาโดยตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อปี 2018
มายอร์ก้า, เกนท์, มลาด้า โบเลสลาฟ, ซาลามังก้า จนมาถึง เดปอร์ติโบ อลาเบส ทีมล่าสุด เป็นจำนวน 6 จาก 4 ปีที่ต้องระหกระเหินหาที่เล่น เพราะใบอนุญาตการทำงานในเกาะอังกฤษยังไม่ผ่านเกณฑ์
อาร์โรโย่ เหลือสัญญากับ ลิเวอร์พูล อีก 2 ปี นี่คงเป็นเวลาที่ดีที่เขาจะได้ไปหาทีมใหม่แบบเต็มตัวได้สักที
อีกคนที่ "เดอะ ค็อป" หลงลืมไปแล้วเหมือนกันนั่นก็คือ พอล กลัตเซล ที่เคยเป็นดาวโรจน์ในทีมชุดแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 2019 ด้วยผลงาน 28 ประตูในปีดังกล่าว
แต่ด้วยโชคชะตาที่ไม่เป็นใจ กลัตเซล ประสบปัญหาบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถพัฒนาฝีเท้าของตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้
เรื่องการได้ไปต่อกับ ลิเวอร์พูล คงลืมไปได้เลย สัญญาที่กำลังจะหมดลงในซัมเมอร์นี้ ถึงเวลาแล้วที่ทั้งสองฝ่ายจะได้แยกทางจากกัน
แจ็ค แบร์น ตามรอยเท้าของ รีส วิลเลี่ยมส์ ในการเข้าร่วมทีม คิดเดอร์มินสเตอร์ ผลงานการเล่นที่นี่เข้าท่าไม่น้อย เมื่อเขามีส่วนร่วมกับทีม 25 จาก 35 เกม จนได้รับคำชมจาก รัสเซล เพนน์ คนเป็นผู้จัดการทีม
ส่วนเรื่องการไปต่อกับ ลิเวอร์พูล นั้น คงเป็นเรื่องยากเพราะอายุของเขาก็ 21 ปีแล้ว ฉะนั้นการย้ายทีมแบบถาวรควรเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
วีเตสลาฟ ยารอส เคยเป็นฮีโร่ให้กับทีมในไอร์แลนด์ ในช่วงถูกปล่อยให้ เซนต์ แพทริคส์ แอธเลติก ยืมไปใช้งาน และเวลาต่อมานายด่านสาธารณรัฐเช็ค ย้ายไป น็อตต์ส เคาน์ตี้ และปัจจุบันกับ สต๊อคพอร์ท เคาน์ตี้
ด้วยวัย 21 ปีอาจยังพอมีเวลาให้เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เช่นเดียวกับ มาร์เซโล่ ปิตาลูก้า ผู้รักษาประตูชาวบราซิเลี่ยน ที่อยู่กับ แม็คเคิลฟิลด์
แต่ในรายของ ปิตาลูก้า มีแนวโน้มที่จะได้ขึ้นมาเป็นทางเลือกบนม้านั่งสำรองทีมชุดใหญ่มากกว่า หากเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเมื่อ ควีวิน เคลเลเฮอร์ หรือ อาเดรียน ย้ายออกจากทีมไป
HOSSALONSO