ผู้รักษาประตูเตรียมพบกับความกดดันในการทำหน้าที่มากยิ่งขึ้น หลังจากคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ
แน่นอนว่ากฎเหล่านี้ย่อมส่งผลดีกับนักเตะที่รับหน้าที่ตะบันลูกโทษ เพราะพวกเขาจะไม่ต้องเจอแรงกดดันที่อาจจะทำให้เสียสมาธิ แต่ในทางตรงกันข้ามสถานการณ์ทั้งหมดจะถาโถไปที่ผู้รักษาประตูมากยิ่งขึ้น
สำหรับกฎใหม่นี้ดูเหมือนจะได้รับแรงกระตุ้นเพิ่มเติมจากพฤติกรรมของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ นายทวารทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ปั่นป่วนประสาทผู้เล่นทีมชาติฝรั่งเศสระหว่างดวลจุดโทษในรอบชิงชนะเลิศ ก่อนที่ทัพ "ฟ้าขาว" จะคว้าแชมป์โลกมาครอบครองได้สำเร็จ
อาจจะโดนโยนบาปเพื่อหาแพะมาลงโทษจากการออกกฎใหม่ของ "ไอเอฟเอบี" ก็ตาม แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า โกล "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า เป็นหนึ่งในประเด็นที่ทำให้คณะกรรมการองค์ลูกหนังฟีฟ่า มีความชอบธรรมที่จะนำกฎนี้มาใช้อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
กฎนี้คนยิงสบายคนเซฟเครียดเพราะอย่างลืมว่าผู้เล่นที่รับหน้าที่สังหารจุดโทษยังสามารถป่วนประสาทโกลด้วยการหลอกยิงได้ แต่ในขณะที่นายทวารทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากรอคอยคู่แข่งตะบันลูกหนังเข้ามาหา และก็ต้องคาดเดาว่าพวกเขาจะยิงไปในทิศทางไหนเท่านั้น
แถลงการณ์ของ "ไอเอฟเอบี" ระบุว่า "ผู้รักษาประตูฝ่ายป้องกันจะต้องอยู่บนเส้นประตูตอนที่เผชิญหน้ากับคนยิง ห้ามสัมผัสเสา, คาน หรือตาข่ายประตู จนกว่าบอลจะถูกเตะออกมา"
"ผู้รักษาประตูต้องไม่แสดงพฤติกรรมในลักษณะที่ไม่แสดงความเคารพต่อเกมการแข่งขัน และคู่แข่ง เช่น ทำให้ผู้เตะจุดโทษเสียสมาธิอย่างไม่ยุติธรรมเป็นต้น" แถลงการณ์ ฉบับเดิม ระบุ
สรุป 4 ข้อสำหรับกฎใหม่ที่ผู้รักษาประตูห้ามทำขณะยิงจุดโทษ
1. ผู้รักษาประตูห้ามสัมผัสเสา, คาน และตาข่ายประตู ก่อนยิงจุดโทษ
2. ผู้รักษาประตูห้ามใช้แท็คติกถ่วงเวลาก่อนยิงจุดโทษ
3. ผู้รักษาประตูห้ามรบกวนสมาธิของผู้ที่ยิงจุดโทษในทุกๆ กรณี
4. ผู้รักษาประตูห้ามแสดงพฤติกรรมที่ไม่ให้เกียรติคู่แข่ง
ทอมเม้ง