อาการหนัก! พรีเมียร์ลีก ตั้งข้อหา เอฟเวอร์ตัน ละเมิดกฎการเงิน

อาการหนัก! พรีเมียร์ลีก ตั้งข้อหา เอฟเวอร์ตัน ละเมิดกฎการเงิน
พรีเมียร์ลีก แถลงการณ์ยืนยันมื่อวันศุกร์ที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมาว่าได้จัดการตั้งข้อหาสโมสรเอฟเวอร์ตัน จากกรณีที่ทัพ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ได้ละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืนของลีกในช่วงสิ้นสุดฤดูกาล 2021/2022

การสอบสวนกรณีนี้ใช้เวลา 10 เดือนโดยเริ่มในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2022 หลังจากที่ "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เบิร์นลี่ย์ สองทีมคู่แข่งหนีตกชั้น ได้เขียนจดหมายถึง พรีเมียร์ลีก โดยตั้งคำถามเรื่องที่ เอฟเวอร์ตัน ขาดทุนตลอด 3 ปีว่ามีการฝ่าฝืนกฎของลีกหรือไม่ 

มีรายงานว่า ทีมดังจากลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ ขาดทุนจำนวน 371.8 ล้านปอนด์ (ราว 15,615 ล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าจำนวน 105 ล้านปอนด์ (ราว 4,410 ล้านบาท) ตามกฎของพรีเมียร์ลีกที่ระบุว่าสโมสรสามารถขาดทุนได้ภายในช่วงระยะเวลา 3 ปี ที่สำคัญสโมสรต่างๆ ที่ถูกจับได้ว่าละเมิดกฎข้อบังคับมีสิทธิ์โดนปรับเงิน หรือตัดแต้ม

แถลงการณ์ของเอฟเวอร์ตัน ระบุว่า "เอฟเวอร์ตัน ผิดหวังที่ได้ยินการตัดสินของ พรีเมียร์ลีก ที่อ้างเกี่ยวกับข้อกล่าวหาการละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืนของลีก ต่อคณะกรรมการอิสระเพื่อให้ตรวจสอบเรื่องนี้ สโมสรขอโต้แย้งอย่างรุนแรงต่อข้อกล่าวหาเรื่องการไม่ปฏิบัติตามกฎ และเราได้ทำการร่วมมือกับทีมผู้เชี่ยวชาญอิสระที่มีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าเรายังคงปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับทางการเงินทั้งหมด"

"เอฟเวอร์ตัน พร้อมที่จะปกป้องสถานะของตัวเองต่อคณะกรรมการ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาสโมสรได้ให้ข้อมูลกับพรีเมียร์ลีกอย่างเปิดเผย และโปร่งใส รวมทั้งเลือกที่จะดำเนินการด้วยความสุจริตใจอย่างที่สุดมาโดยตลอด และสโมสรจะไม่แสดงความเห็นใดๆ เพิ่มเติมอีกแล้ว" แถลงการณ์ฉบับเดิม ระบุ

ขณะที่ แถลงการณ์ของ พรีเมียร์ลีก เผยว่า "ตามกฎของพรีเมียร์ลีก ข้อ ดับเบิ้ลยู 82.1 โดย พรีเมียร์ลีก ยืนยันได้ว่าวันนี้ (วันศุกร์ที่ 24 มี.ค.) ได้มีการกล่าวอ้างกรณีที่สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืนของลีก ต่อคณะกรรมการภายใต้กฎพรีเมียร์ลีก ข้อ ดับเบิ้ลยู 3.4"

"คณะกรรมการอิสระของพรีเมียร์ลีก และสมาชิกของแต่ละสโมสร โดยสมาชิกของคณะกรรมการจะได้รับการแต่งตั้งจากประธานคณะกรรมการอิสระของคณะกรรมการตัดสินของพรีเมียร์ลีก  ตามกฎของพรีเมียร์ลีก ข้อดับเบิ้ลยู 19, ดับเบิ้ลยู 20 และ ดับเบิ้ลยู 26" แถลงการณ์ ระบุ


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport