หนึ่งในสิ่งที่ขึ้นชื่อของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็คือการที่เขาเป็นผู้จัดการทีมที่เคร่งครัดเรื่องระเบียบวินัยมากๆ ชนิดที่ว่าในอาชีพการคุมทีมของเขานั้นมีนักเตะน้อยสุดๆ ที่จะรอดพ้นจากการลงดาบของอดีตบรมกุนซือชาวสกอตต์ไปได้
ด้วยเหตุนี้ ช่วงแรกๆ ที่ เฟอร์กูสัน เข้าไปรับงานคุม แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น เขาเลยพยายามที่จะวางระเบียบกับทีมให้ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากตอนนั้น "ปีศาจแดง" มีผลงานที่เลวร้ายมากๆ จนแทบไม่เหลือออร่าของทีมที่ยิ่งใหญ่เลย
หนึ่งในปัญหาใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนนั้นคือนักเตะในทีมชุดใหญ่บางคนติดเหล้าหนักมากๆ ซึ่งครั้งหนึ่ง เฟอร์กูสัน ถึงขั้นเคยพยายามที่จะแก้ปัญหาด้วยการลงทุนเสนอจ่ายเงินเพื่อให้คนที่เขามองว่าเป็นตัวปัญหาแขวนสตั๊ดไปซะ ซึ่งนักเตะที่ว่าก็คือ พอล แม็คกรัธ
เกริ่นก่อนว่า แม็คกรัธ อยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ปี 1982 หรือก็คือตั้งแต่ก่อนหน้าที่ เฟอร์กูสัน จะเข้ามาคุมทีมเมื่อปี 1986 ซะอีก และเคยอยู่ในทีมชุดที่ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 1984-85 ด้วย
อย่างไรก็ตาม แม็คกรัธ ถือเป็นหนึ่งใน "ขาเมา" ของทีมยุคนั้น เวลาจบเกมแต่ละนัดมักจะมีคนเห็นเขาอยู่ในบาร์ร่วมกับ นอร์แมน ไวท์ไซด์ อยู่บ่อยๆ, มาซ้อมในสภาพที่เมาแอ๋ ไปจนกระทั่งเคยลงเล่นในสภาพที่ยังไม่สร่างเมาจนถึงขั้นเตะบอลพลาดในจังหวะที่ได้ลูกฟรีคิก เป็นต้น ซึ่งถึงแม้ในยุคของ รอน แอ็ตกินสัน เขาจะไม่โดนตำหนิมากนัก แต่นั่นไม่ใช่ในยุคของ เฟอร์กูสัน
"วันหนึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เดินเข้ามาในห้องแล้วจู่ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า -เราอยากให้นายเลิกเตะบอลว่ะ- ง่ายๆ แค่นั้นเลย เขาบอกด้วยว่าทีมพร้อมที่จะจ่ายเงินให้ผม 100,000 ปอนด์ เพื่อแลกกับการให้ผมแขวนสตั๊ดไปซะแล้วก็กลับ ไอร์แลนด์ ไปเลย" แม็คกรัธ เปิดใจถึงเรื่องนั้นกับ เดอะ เทเลกราฟ สื่อของอังกฤษ
สำหรับ 100,000 ปอนด์ ในช่วงที่ แม็คกรัธ เล่นอยู่นั้น หากเทียบกับค่าเงินในสมัยนี้ก็อยู่ที่ 242,208 ปอนด์ หรือประมาณ 10.17 ล้านบาท ซึ่งตอนแรก แม็คกรัธ ก็เคยพิจารณาที่จะรับข้อเสนอนั้นแบบจริงจังด้วย แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ
"ตอนนั้นผมคิดที่จะรับเงินอยู่นะ เพราะว่า 100,000 ปอนด์ ในสมัยนั้นมันถือว่าเป็นเงินที่เยอะพอตัว แต่ผมคุยกับ เควิน โมแรน และ ไบรอัน ร็อบสัน ก่อนที่จะบอกว่าผมอยากเล่นฟุตบอลต่อ เพราะผมเชื่อว่าผมยังทำบางอย่างได้ในโลกฟุตบอล"
สำหรับคนที่อาจจะสงสัย ตอนนั้น แม็คกรัธ มีอายุ 29 ปี ซึ่งถือเป็นช่วงที่ยังพอเล่นฟุตบอลไหวอยู่ ซึ่ง กอร์ดอน เทย์เลอร์ หัวเรือใหญ่ของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ในตอนนั้นก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วย "กอร์ดอน เทย์เลอร์ ที่ตอนนั้นอยู่กับ พีเอฟเอ ติดต่อหา เซอร์ อเล็กซ์ แล้วพูดเลยว่า -พอล จะเล่นต่อไป คุณจะปรับเงินเขาก็ได้ จะทำอะไรกับเขาตามที่คุณต้องการก็ตามใจ แต่เขาจะเล่นฟุตบอลต่อไป ถ้าไม่ใช่กับที่นี่ก็จะเป็นกับทีมอื่น"
ที่จริง แม็คกรัธ ก็ยอมรับว่าสมัยนั้นตัวเองวินัยแย่จริงๆ เพียงแต่เขาก็ยังต้องการเล่นฟุตบอลต่อ ซึ่งสุดท้าย เกรแฮม เทย์เลอร์ ผู้จัดการทีม แอสตัน วิลล่า ในตอนนั้นก็ยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยการดึงเขาไปร่วมทัพในปี 1989 โดยเขาได้เล่นให้ที่นั่นยาวตั้งแต่ปี 1989 ไปจนถึงปี 1996
"ที่จริงมันก็ไม่ได้น่าตกใจหรอกนะที่เขาทำอย่างนั้น เพราะสมัยก่อนเราทำตัวแย่กันนิดหน่อยจริงๆ เราอาจจะเฮฮากันนิดหน่อยแต่บางครั้งเราก็ทำกันเลยเถิด ดังนั้นเขาเลยอยากกำจัดผมออกจากสโมสร"
"กระทั่งวันหนึ่ง ตอนที่ ไบรอัน ร็อบสัน จัดปาร์ตี้บาร์บีคิวที่บ้านของเขาน่ะ จู่ๆ เกรแฮม เทย์เลอร์ ก็โทรศัพท์เข้ามาหาแล้วถามว่า -นายจะมาที่ แอสตัน วิลล่า ได้ไหม ?- ซึ่งผมก็คว้าโอกาสนั้นเอาไว้ทันที ผมคิดกับตัวเองเลยว่า -พระเจ้าช่วย ฉันจะได้เล่นที่นั่นทุกสัปดาห์เลย-"
ทั้งนี้ ในฤดูกาล 1992-93 แม็คกรัธ เกือบทำให้ เฟอร์กูสัน ต้องชอกช้ำด้วย เพราะ วิลล่า ขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้สูสีในระดับหนึ่ง ก่อนที่สุดท้าย วิลล่า จะเป็นรองแชมป์ในสภาพที่แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 10 แต้ม
"ถ้าตอนนั้นผมเล่นแบบจริงจังมากกว่าเดิมสักนิดในหลายเกมแล้วล่ะก็ เราก็อาจจะได้แชมป์ลีกไปเลยก็ได้ ดังนั้นผมเลยมักจะคิดกับตัวเองอยู่เสมอว่าผมน่าจะประพฤติตัวให้ดีกว่าเดิมสักนิดในบางครั้ง"
- เด็กเกร็ดบอล -