มองได้2มุม! สิ่งที่อยากบอกหลัง แมนยู 10 คนเจ๊าบ๊วยไร้สกอร์

จากสิ่งที่บังเกิดขึ้นบนฟลอร์หญ้า มองได้ 2 มุมนะครับ

มุมหนึ่ง ถือว่าน่าเสียดาย เพราะมันเป็นเกมที่ต้อง 3 แต้ม เพียงสถานเดียวเท่านั้น แต่อีกมุมหนึ่ง 'ปีศาจแดง' ต้องเล่นแค่ 10 คน ตั้งแต่นาทีที่ 35 รอดพ้นจากความปราชัย และได้มา 1 แต้ม ก็ถือว่าน่าพอใจ

1. เกมนี้ เอริค เทน ฮาก จัดตัวผู้เล่นแบบ...เอาตาย

คือใช้มิดฟิลด์ตัวรับแค่คนเดียวอย่าง กาเซมิโร่ แล้วโหลดตัวรุกอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส กับ เจดอน ซานโช่ เข้าไปแทนมิดฟิลด์ตัวกลางอย่าง เฟร็ด

ระบบการเล่นคล้ายๆ สูตร 4-1-4-1

กองหน้าตัวรับอย่าง เวาท์ เวกฮอร์สต์ เป็นหัวหอกตัวเป้า ขนาบข้างด้วย อันโตนี่ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด

เหตุผลคือต้องการชัยชนะในพรีเมียร์ลีกแบบยิงเยอะๆ หลังติดลบไป 7 ประตู ในศึกแดงเดือด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะเดียวกันมันก็เป็นดาบ 2 คม 

เพราะเมื่อคุณเพิ่มพลังในการรุก สิ่งที่อ่อนลงไปคือเกมรับที่ไม่มีใครช่วย 'กาเซ' ในการเบรคเกมแดนกลางของคู่แข่ง

2. พูดถึงเรื่องรูปเกม

ทีมบ๊วยอย่าง 'นักบุญ' วางแผนและทำได้ดีมากนะครับ

พวกเขาขึ้นมาบีบสูงพลางบดบี้เข้าหาเร็วทันทีจน แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเกมกันไม่ถนัด กว่าจะตั้งตัวได้ก็ผ่านไป 15 นาทีแล้ว

นอกจากนี้ทีมเยือนยังหาจังหวะตอบโต้ได้เป็นระยะ

อาการของเจ้าบ้านเริ่มดีขึ้นตามลำดับก็จริง ทว่าผ่านครึ่งชั่วโมงก็เห็นแล้วว่าเกมนี้ไม่ง่ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะกินบ๊วย

กระทั่ง กาเซมิโร่ ถูกใบแดงตะเพิดออกจากสนาม !!!

3. จังหวะนั้น ตอนแรกผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ให้แค่ใบเหลือง ก่อนท่านตุลาการหัวหน้าห้อง VAR อย่าง อังเดร มาร์ริเนอร์ (เจ้าเก่า) จะทักท้วงว่ามันอาจรุนแรงกว่านั้น

อืมมมมมมมมม...นะ

จากภาพช้าแสดงให้เห็นชัดเจนว่า กาเซมิโร่ เจตนาเล่นที่บอลอย่างแน่นอน แถมยังเสียบโดนลูกฟุตบอลก่อนอีกต่างหาก

โชคไม่ดีที่จังหวะปั๊มบอล ตีนมันแฉลบลูกเลยขึ้นไปประทับหน้าแข้งของคู่แข่ง

หากดูในมุมมองของ 'เด็กผี' ผมว่าไม่ถึงใบแดง เพราะคุณพี่เกษมเขาไม่ได้ตั้งใจทำฟาวล์ แถมยังโดนบอลก่อนด้วย

แต่ในมุมมองของผู้สื่อข่าว และคอลัมนิสต์ลูกหนังที่ต้องมีความเป็นกลาง

ถามว่าผู้ตัดสินเปลี่ยนใบเหลืองเป็นใบแดงได้ไหม ???

คำตอบของผมคือ...ได้

เนื่องเพราะมันเป็นการเล่นที่อันตราย

พูดง่ายๆ ว่า กาเซมิโร่ ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นก็ได้

แม้ใจหนึ่งจะไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน มิหนำยังเกิดอาการอยากกระโดดเตะหน้าคนพอๆ กับอยากเอานกหวีดยัดเข้าไปใน Rule Darkz ของผู้ตัดสินท่านนี้ยิ่งนัก แต่ก็พอเข้าใจได้ ถ้าพี่แกจะควักใบแดงออกมา

ฉะนั้น กาเซมิโร่ ต้องโทษตัวเองที่ไม่ระมัดระวังด้วย

ปัญหาคือมาตรฐานของผู้ตัดสินอังกฤษมันบัดซบตบชัก เพราะในกรณีเดียวกันบางครั้งก็เป็นใบแดง บางครั้งก็ไม่เป็นใบอะไรเลย...ซะอย่างนั้น

สรุปคือขึ้นอยู่กับการ 'ตีความ' ของผู้ตัดสินแต่ละท่านที่แตกต่างกันออกไป ไม่มีมาตรฐาน

ว่าแล้วก็เอาที่สบายใจเลยครับท่าน

4. หลังจากเหลือผู้เล่น 10 คนในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก นักเตะพันธุ์อสูรจึงต้องแสดงความทุ่มเทออกมามากขึ้น เช่นเดียวกับช่วยกันเล่นมากขึ้น

นอกจากเกมของปีศาจแดงจะไม่เป็นรอง มิเท่านั้นยังเกือบทำประตูนำได้ด้วยซ้ำ

กระทั่งจบครึ่งแรก แล้วออกมาเซิ้งกันใหม่ในครึ่งหลัง

ผู้ชมทางบ้านก็พบว่า เอริค เทน ฮาก ปรับแผนการเล่นให้เหมาะกับผู้เล่นที่น้อยกว่า ด้วยการเน้นเกมรับพลางหาจังหวะตอบโต้อย่างฉาบฉวย

ระบบ 4-4-1 สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส คือมิดฟิลด์ตัวกลาง ขนาบข้างด้วย อันโตนี่ กับ เจดอน ซานโช่ โดยทิ้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นหัวหอกตัวเดียว

แมนฯ ยูไนเต็ด ถอยมาตั้งด่าน 2 ชั้น เพื่อคุมพื้นที่ แล้วอนุญาตให้ทีมเยือนครองบอลบุกใส่ ก่อนหาจังหวะสวนกลับ เรียกว่าเป็นการเล่นแบบปลอดภัยไว้ก่อน 

เป้าหมายหลักคือรักษาสกอร์ ด้วยตัวผู้เล่นที่น้อยกว่า หากได้ 1 แต้ม ก็ไม่น่าเกลียด หากชิงจังหวะกะซวกตาข่ายขึ้นนำ และได้รับชัยชนะก็ถือเป็นโบนัส

ฝ่าย เซาธ์แฮมป์ตัน ที่มีผู้เล่นมากกว่าก็ไม่กล้าบุกแบบผลีผลามมากนัก ด้วยมองว่าการควักผลเสมอกลับออกมาจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเช่นกัน

5. ผลเสมอจึงถือว่ายุติธรรมสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย

แต่ที่เสียหายกว่าคือ แมนฯ ยูไนเต็ด 

ไม่เพียงแต่จะอดได้ 3 แต้ม กาเซมิโร่ ยังต้องติดโทษแบนถึง 4 นัด และผมคิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด คงไม่เสี่ยงอุทธรณ์ แม้พวกเขาจะไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินก็ตาม

ว่าแล้วก็ขอบคุณทีมงานผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ กับ อังเดร มาร์ริเนอร์ (VAR) มา ณ ที่นี้ด้วย

มาเธอร์ฟัคเก้อร์ !!!

บอ.บู๋