เรือใบเอาจนได้! แมนฯ ซิตี้ บุกอยู่นานสองนาน ก่อนจะมาได้จุดโทษและเป็น ฮาลันด์ ที่กดเม็ดที่ 28 ในลีกเฉือนเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 มีเพิ่มเป็น 61 คะแนน รั้งที่สองจี้จ่าฝูง อาร์เซน่อล 2 คะแนนแต่แข่งมากกว่า ส่วน พาเลซ ไม่ชนะ 11 นัดติดทุกถ้วย ยึดที่ 12 ของตาราง
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา คริสตัล พาเลซ อันดับ 12 เปิด เซลเฮิร์สท์ พาร์ค รับการมาเยือนของรองจ่าฝูง แมนฯ ซิตี้
ปาทริค วิเอร่า นายใหญ่ "ดิ อีเกิ้ลส์" พาทีมไม่ชนะ 10 นัดติดทุกรายการแล้ว นัดนี้จัดแนวรุกทั้ง ไมเคิ่ล โอลิเซ่, วิลฟรีด ซาฮา และ จอร์แดน อายิว ลุ้นสามแต้ม
ด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เกมนี้ต้องเน้นสามแต้มอย่างเดียวเพื่อไล่จี้กดดัน "ปืนใหญ่" ให้เหลือแค่สองแต้ม นัดนี้พัก เควิน เดอ บรอยน์ ไว้ข้างสนาม อัลคาย กุนโดกัน ปั้นเกม หลังสามแนวรุกทั้ง ฟิล โฟเด้น, เออร์ลิง ฮาลันด์ และแจ็ค กรีลิช
เปิดฉากครึ่งแรกมา "เรือใบสีฟ้า" โหมกดดันอย่างหนัก นาทีที่ 3 เกือบได้ลุ้นขึ้นนำหลัง แซมบี โลคองก้า สกัดบอลมาเข้าทาง โรดรี้ วอลเลย์ตูมเดียวก่อนไปติดเซฟ บิเซนเต้ ไกวต้า
แมนซิตี้ ค่อนข้างเหนือกว่าคุมเกมรุกได้หมด แต่โอกาสจะแจ้งยังไม่มี นาที 26 มานูเอล อาคานจี ลองยิงไกลแต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกไป
อีกสองนาทีถัดมา ลูกทีมของ เป๊ป ทิ้งโอกาสทอง เมื่อ แบร์นาร์โด้ จ่ายให้ อาเก้ เติมถึงเส้นหลังก่อนปาดมาหน้าประตูให้ ฮาลันด์ ซัดไม่จับเหินคานไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 30 ฮาลันด์ กึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู บิเซนเต้ ไกวต้ ออกมาชกบอลแต่ยังมาเข้าทาง เออร์ลิง ฮาลันด์ ซัดผ่านหน้าประตูไปอีก
จบครึ่งแรก ยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอแบบไร้สกอร์ 0-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น นาที 55 ซิตี้ ได้ลุ้นจากฟรีคิกหน้ากรอบ หลัง กลีลิช โดน มิลิโวเยวิช ทำฟาวล์เกือบถึงเส้น 18 หลา ก่อนที่ ฟิล โฟเด้น จะซัดผ่านกำแพงไปแล้วแต่ยังติดเซฟของ ไกวต้า ที่พุ่งปัดหวุดหวิด และเป็นโอกาสสุดท้ายของ โฟเด้น ก่อนที่จะโดนเปลี่ยนตัวออก และส่ง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ลงมาเล่นแทนใน นาทีที่ 58
นาที 60 อัลวาเรซ ที่เพิ่งลงมาสัมผัสแรกเกือบพังประตูให้ทีมได้ทันทีหลังรับลูกจ่ายของ แบร์นาร์โด้ ก่อนซัดเหินคานไปอย่างน่าผิดหวัง
ทัพเรือใบ ยังเดินหน้าลุยแหลก นาที 69 ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ได้โอกาสยิงอีกครั้ง คราวนี้ซัดนอกกรอบบ้างแต่บอลยังพุ่งไปเข้ามือ บิเซนเต้ ไกวต้า ที่ล้มรับไว้ได้
นาที 77 แมนฯ ซิตี้ มาได้ลูกที่จุดโทษจากจังหวะที่กรีลิช เล่นคอนเนอร์สั้นให้ กุนโดกัน ก่อนที่ ไมเคิ่ล โอลิเซ่ จะวิ่งมาอัดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยจนกุนโดกันล้มลงไป ก่อนที่ เออร์ลิง ฮาลันด์ จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ เรือใบสีฟ้า ขึ้นนำ 1-0 และเป็นประตูที่ 28 ของสตาร์ทีมชาตินอร์เวย์ในซีซั่นนี้
นาที 83 ฮาลันด์ เกือบบวกเม็ดที่สองของตัวเองในเกมนี้ หลังขึ้นโขกหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 คว้าสามแต้มล้ำค่ามีเพิ่มเป็น 61 คะแนน รั้งที่สองจี้จ่าฝูง อาร์เซน่อล 2 คะแนนแต่แข่งมากกว่า ส่วน พาเลซ ไม่ชนะ 11 นัดติดทุกถ้วย ยึดที่ 12 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
คริสตัล พาเลซ (4-2-3-1) : บิเซนเต้ ไกวต้า - เนธาเนียล ไคลน์ (โจเอล วอร์ด น.71), โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, มาร์ค เกฮี, ไทริค มิตเชลล์ - ลูก้า มิลิโวเยวิช (นาอุยรู อฮามาด้า น.61), แซมบี โลคองก้า - เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ (เอเบเรชี่ เอเซ่ น.80), ไมเคิ่ล โอลิเซ่, วิลฟรีด ซาฮา - จอร์แดน อายิว (อ็อดซอน เอดูอาร์ น.80)
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน (GK) - จอห์น สโตนส์ (ไคล์ วอล์คเกอร์ น.89), มานูเอล อาคานจี, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้ - โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน, แบร์นาร์โด้ ซิลวา (เควิน เดอ บรอยน์ น.78) - ฟิล โฟเด้น (ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ น.58) , เออร์ลิ่ง ฮาลันด์, แจ็ค กรีลิช