ถ้าเราเป็นเขา.. เราก็อาจจะเสียน้ำตาเหมือนกัน
ในรายการ When Stevie met Salah ทาง LFC TV สตีเว่น เจอร์ราร์ด พูดถึงน้ำตาของ เซอร์เคนนี่ ดัลกลิช ระหว่างชมเกมนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยกันที่มาดริด เมื่อปี 2019
เจอร์ราร์ดบอกกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คู่สนทนาว่านายทำให้ราชาร้องไห้นะรู้มั้ย
น้ำตาของดัลกลิชเกิดขึ้นตอนที่ซาลาห์ยิงจุดโทษให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ตั้งแต่ต้นเกม ก่อนที่สุดท้ายทีมหงส์แดงจะคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่หกไปครองได้สำเร็จด้วยชัยชนะ 2-0
เจอร์ราร์ด กับ ดัลกลิช ได้รับเชิญจากสโมสรให้ไปดูเกมที่สนามในวันนั้นในฐานะแฟนบอล เราคงไม่ต้องอธิบายอะไรอีกในความเป็นลิเวอร์พูลของทั้งคู่นะครับ พวกเขาทั้งสองคนคือนักฟุตบอลที่อยู่ในทำเนียบดีที่สุดตลอดกาลของสโมสร และแน่นอน.. เป็นขวัญใจของเดอะค็อปตลอดไปด้วย
อะไรก็ตามที่เคนนี่และสตีวี่มีความสุข แฟนบอลก็จะมีความสุขตามไปกับพวกเขา
คำพูดของเจอร์ราร์ดนั้นสั้นๆ แต่มีความหมายลึกซึ้ง ถ้าเราเป็นดัลกลิช น้ำตาเราก็อาจจะไหลออกมาเองได้เหมือนกันเมื่อเห็นนักเตะรุ่นหลานกำลังจะนำแชมป์ยุโรปมาให้สโมสรอีกสมัย
ดัลกลิชคือคนที่ผ่านช่วงเวลาทั้งรุ่งโรจน์ที่สุดและมืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร เมื่อเป็นนักฟุตบอลเขาพาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่นหนึ่ง 6 สมัย แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย และแชมป์ยุโรปอีก 3 สมัย เมื่อขึ้นมาคุมทีมเขาก็ยังนำทีมเป็นแชมป์ลีกสูงสุดอีก 3 สมัย (ฤดูกาล 1985/86 ได้ทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้จัดการทีม) แชมป์เอฟเอ คัพอีก 2 ครั้ง
สีสันอันจัดจ้านของสโมสรช่วงปลายทศวรรษ 1970 จนถึงสิ้นสุดทศวรรษ 1990 เขามีส่วนร่วมกับมันทั้งสิ้น
แน่นอนมันรวมถึงวันอันมืดหม่นในโศกนาฏกรรมที่เฮย์เซล สเตเดี้ยม ในปี 1985 และ ฮิลล์สโบโร่ เมื่อปี 1989 รวมถึงความเจ็บปวดรวดร้าวที่สุดถูกอาร์เซน่อลปาดคว้าแชมป์ที่แอนฟิลด์ในวินาทีสุดท้ายของเกมนัดปิดฤดูกาล 1988/89 ด้วย
ในเหตุการณ์ที่ฮิลล์สโบโร่ ดัลกลิชต้องเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวผู้สูญเสีย ไปร่วมงานศพบางครั้ง 4 งานในวันเดียว เขาตั้งใจไปด้วยตัวเอง ไปเพื่อปลอบใจพ่อแม่ที่ต้องเสียลูก ไปเพื่ออยู่เคียงข้างน้องที่ต้องเสียพี่ ไปเพื่อให้กำลังใจสาวน้อยที่ต้องเสียคนรัก ความโศกเศร้าหดหู่บั่นทอนจิตใจเขามากจริงๆ
ถ้าจะถามว่าใครที่เฝ้ารอแชมป์ลีกสูงสุดอีกสักครั้งของลิเวอร์พูลด้วยความทรมานที่สุดในช่วงเวลา 30 ปีแห่งการรอคอย เซอร์เคนนี่ ดัลกลิชเป็นหนึ่งในนั้น เขาคงจะตั้งหน้าตั้งตารอมันอย่างใจจดใจจ่อในทุกๆ ปีเพียงเพื่อได้เห็นมันพังทลายลงครั้งแล้วครั้งเล่า
เมื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมสิ้นสุดการรอคอยได้จริงๆ เมื่อปี 2020 ดัลกลิชก็คงรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก
จากนี้ไปก็วางใจได้แล้ว..
เพราะการรอคอยอันยาวนานเริ่มต้นที่เขา หลังจากวางมือกะทันหันในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1991 ใครจะไปคิดว่าลิเวอร์พูลจะไม่ได้แชมป์ลีกสูงสุดอีกเลยต่อไปอีก 3 ทศวรรษ
กระทั่งเขาเองก็คงไม่คิด
การเลือกคิงเคนนี่มาเป็นคนมอบเหรียญรางวัลและถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่น 2019/20 จึงเป็นการเลือกที่สมบูรณ์แบบที่สุดชนิดไร้ที่ติ ไม่มีใครปฏิเสธหรือตั้งคำถามเลย
แต่กว่าจะถึงวันนั้น ดัลกลิชต้องผ่านความผิดหวังมามากมายเหลือเกิน แม้กระทั่งในฤดูกาลที่มีความหวังที่สุดก็ยังผิดหวัง ทำไม่ได้ ไปไม่ถึงดวงดาว
คำพูดของเจอร์ราร์ดนั้นเรียบง่าย เหมือนเพื่อนคุยกับเพื่อน พี่คุยกับน้อง "นายทำให้ราชาร้องไห้นะรู้มั้ย"
ลองจินตนาการดูถึงวันนั้น ดัลกลิชในวัย 68 ปีเดินทางไปดูเกมนัดชิงเจ้ายุโรปที่สนามเมโตรโปลิตาโน่ การรอคอยในลีกยังคงนับต่อไปเข้าสู่ปีที่ 30 หลังฤดูกาลอันบ้าคลั่งของพรีเมียร์ลีกได้บทสรุปไปสามสัปดาห์ก่อนหน้า
จะต้องรอไปอีกนานแค่ไหนกันนะ กระทั่งทำได้ 97 คะแนนก็ยังไม่ได้แชมป์.. เรายังต้องทำขนาดไหนอีกหรือ
ภาพที่มองเห็นตรงหน้าคือทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดชุดหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสโมสรอย่างไม่ต้องสงสัย ทีมงานเยี่ยม ผู้จัดการทีมยอด ทัพนักเตะชั้นเลิศที่มัดกันแน่นด้วยสปิริตกลมเกลียว
ในสายตาของคนที่อยู่กับฟุตบอลมาทั้งชีวิต นี่คือทีมที่เต็มไปด้วยพลังและศักยภาพ ขอเพียงมุ่งมั่นไม่ย่อท้อและเดินหน้าต่อไป พวกเขามีโอกาสกวาดทุกความสำเร็จมาไว้ในครอบครอง
กับคนที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ลิเวอร์พูล ถ้าเราเป็นเขา เราจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเข้าไปนั่งชมเกมนัดนั้น ไปอยู่ในสนาม ไปอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเสียงเชียร์อลังการ เสียงเพลงที่คุ้นเคย สัมผัสชัดเจนได้ถึงความหวังอันอบอวล
ในความพยายามจนเลือดตาแทบกระเด็นแต่ก็ยังเป็นแค่พระรองในลีก ลิเวอร์พูลชุดนั้นสมควรได้รับอะไรตอบแทนที่เป็นรูปธรรม ควรได้ยิ้มหัวเราะกันอย่างเต็มเสียงบ้าง
ถ้าจะมีใครที่มีความปรารถนาแรงกล้าอย่างที่สุด เซอร์เคนนี่ ดัลกลิช เป็นหนึ่งในนั้น และพลันที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย ความปีติในอารมณ์หลายหลากที่อัดอั้นอยู่นานจึงทะลักออกมา
อย่าว่าแต่ดัลกลิชเลยครับ เราแฟนบอลเองก็มีหลายคนที่กลั้นน้ำตาไม่อยู่ในวินาทีนั้นแม้เพิ่งจะเป็นช่วงต้นเกมก็เถอะ เพราะเราล้วนเป็นพยานเห็นการต่อสู้ยิบตาของพวกเขามาตลอดฤดูกาล เห็นความฝันที่อยู่เพียงแค่เอื้อมต้องหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา จึงมีความต้องการอย่างยิ่งให้พวกเขาทั้งหมดได้รับรางวัลตอบแทนบ้าง
ผมเองก็เพิ่งได้รู้จากคำพูดของเจอร์ราร์ดในครั้งนี้ว่าคิงเคนนี่ร้องไห้หลังลิเวอร์พูลขึ้นนำสเปอร์สในวันนั้น
น้ำตาของเซอร์เคนนี่ ดัลกลิช..
มันช่างสมเหตุสมผล น้ำตาจากคนที่รักสโมสรอย่างลึกซึ้งและมีความผูกพันยาวนาน ยินดีที่ได้รับรู้เรื่องราวนี้ครับ มันอาจจะเป็นเพียงประโยคสั้นๆ ก็จริงแต่ความหมายกินใจเหลือเกิน
ตังกุย