ถึงขณะนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับสามของ พรีเมียร์ลีก มีแต้มตามหลัง อาร์เซน่อล ทีมจ่าฝูงห้าแต้ม แต่ลงเล่นมากกว่าหนึ่งนัด และตามหลัง แมนฯ ซิตี้ ทีมรองจ่าฝูงสามแต้มโดยลงเล่นเท่ากัน
กระนั้นก็ดี ดูเหมือนแฟนบอล ผีแดง ในเมืองไทยจะต่างไปจากอังกฤษที่ไม่เชื่อว่าทีมรักจะได้ลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้แม้ว่า เอริค เทน ฮาก จะพาทีมกำชัยได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากจะไล่ตามทีม ปืนใหญ่ และ เรือใบสีฟ้า อย่างไม่ลดละแล้ว ผีแดง ยังเป็นทีมเดียวในลีกอิงลิชที่มีลุ้นซิวแชมป์ในซีซั่นนี้ครบทั้งสี่รายการด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คาราบาวคัพ ที่พวกเขาจะเล่นเกมชิงชนะเลิศกับ นิวคาสเซิ่ล ในวันอาทิตย์นี้
อย่างไรก็ดี แน่นอนว่าเป้าหมายสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด หนีไม่พ้นการคว้าอันดับท็อปโฟร์ซึ่งดูแล้วทีมจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไม่น่าจะพลาด
นอกจาก พรีเมียร์ลีก และ คาราบาวคัพ แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด จะชี้ชะตากับ บาร์เซโลน่า ในเกม ยูโรปาลีก รอบเพลย์ออฟนัดสองวันพฤหัสบดีนี้ และมีคิวฟาดเกือกกับ เวสต์แฮม ในศึก เอฟเอคัพ รอบห้า
แต่ที่แน่ๆ เพื่อชี้ให้เห็นว่า ผีแดง มีลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับเขาหรือเปล่า เราจะไปดูโปรแกรมอีกหกนัดต่อไปของพวกเขาเมื่อเทียบกับทีมคู่แข่งในกลุ่มท็อปไฟฟ์
- แมนฯ ยูไนเต็ด (อันดับ 3 ,49 แต้ม)
ลิเวอร์พูล (เยือน) 5 มี.ค.
เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า) 11 มี.ค.
ไบรท์ตัน (เยือน) 19 มี.ค.
นิวคาสเซิ่ล (เยือน) 1 เม.ย.
เอฟเวอร์ตัน (เหย้า) 8 เม.ย.
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เยือน) 15 เม.ย.
-แนวโน้ม : แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเยือน แอนฟิลด์ ซีซั่นก่อน และแพ้ยับ 4-0 แต่ทีมชุดนี้มีฟอร์มที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง และหลังจากดวลกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ยังลูกผีลูกคน แมนฯ ยูไนเต็ด จะเจองานหนักสองเกมกับ ไบรท์ตัน ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้ดี และ นิวคาสเซิ่ล ทีมในกลุ่มบนของตารางเช่นกันก่อนจะมีลุ้นคว้าหกแต้มเต็มจาก เอฟเวอร์ตัน และ ฟอเรสต์ ได้
ถึงขณะนี้ เทน ฮาก ยืนยันว่ายังไม่คิดมองไปถึงการลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก แต่หาก อาร์เซน่อล แผ่วปลายก็อาจมีความพลิกผันเกิดขึ้นได้ แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด เองก็ต้องบริหารทีมให้ดีด้วยเช่นกันเนื่องจากต้องทำศึกหนักทั้งสี่ด้านซึ่งถือเป็นเรื่องยากที่จะสร้างผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา แต่ดูแววแล้วโอกาสจบอันดับท็อปโฟร์ไม่น่าจะไกลเกินเอื้อม
-อาร์เซน่อล (อันดับ 1, 54 แต้ม)
เลสเตอร์ (เยือน) 25 ก.พ.
เอฟเวอร์ตัน (เหย้า) 1 มี.ค.
บอร์นมัธ (เหย้า) 4 มี.ค.
ฟูแล่ม (เยือน) 12 มี.ค.
คริสตัล พาเลซ (เหย้า) 19 มี.ค.
ลีดส์ (เหย้า) 1 เม.ย.
- แมนฯ ซิตี้ (อันดับ 2, 52 แต้ม)
บอร์นมัธ (เยือน) 25 ก.พ.
นิวคาสเซิ่ล (เหย้า) 4 มี.ค.
คริสตัล พาเลซ (เยือน) 11 มี.ค.
เวสต์แฮม (เหย้า) 19 มี.ค.
ลิเวอร์พูล (เหย้า) 1 เม.ย.
เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน) 8 เม.ย.
- สเปอร์ส (อันดับ 4, 42 แต้ม)
เชลซี (เหย้า) 26 ก.พ.
วูล์ฟส์ (เยือน) 4 มี.ค.
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เหย้า) 11 มี.ค.
เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน) 18 มี.ค.
เอฟเวอร์ตัน (เยือน) 1 เม.ย.
ไบรท์ตัน (เหย้า) 8 เม.ย.
- นิวคาสเซิ่ล (อันดับ 5, 41 แต้ม)
แมนฯ ซิตี้ (เยือน) 4 มี.ค.
วูล์ฟส์ (เหย้า) 12 มี.ค.
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เยือน) 17 มี.ค.
แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า) 1 เม.ย.
เบรนท์ฟอร์ด (เยือน) 8 เม.ย.
แอสตัน วิลล่า (เยือน) 15 เม.ย.