เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ลิเวอร์พูล เตรียมนำลูกทีมบุกถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค ดวล นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ โดยข่าวดีที่ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" ยิ้มได้ก็คือโอกาสได้เห็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กลับมาลงคุมแนวรับของทีม หลัง ดาวเตะชาวดัตช์ กลับมาลงฝึกซ้อมได้แล้ว ขณะเดียวกัน "หงส์แดง" ต้องระมัดระวังให้ดีๆ เพราะสถิติในบ้านของ "สาลิกาดง" สุดยอดเนื่องจากพวกเขายังไม่แพ้ใครในรังตัวเองซีซั่นนี้ ดังนั้น คล็อปป์ แอนด์ โค. ต้องวางหมากให้รัดกุมถ้าอยากกลับบ้านพร้อมกับสามคะแนน และได้ลุ้นท็อปโฟร์อีกครั้ง
1. ฟาน ไดค์ มีลุ้นลงเล่นตัวจริง
ต้องบอกเลยว่านี่คือข่าวดีสำหรับแฟนบอล "หงส์แดง" หลัง คล็อปป์ ยืนยันว่า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กลับมาฟิตสมบูรณ์ และลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะได้ลงสนามในแมตช์เยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
ช่วงที่ผ่านมา "เดอะ เร้ดส์" ตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่โดยเฉพาะเกมรับที่ผิดพลาดแบบเกมเว้นเกม เพราะ โจ โกเมซ กับ โฌเอล มาติช ไม่สามารถสร้างความไว้วางใจในแผงแบ็กโฟร์ได้เลย และบางครั้งก็ทั้งคู่ก็มักจะผลัดกันผิดพลาดอยู่เป็นประจำ
ฉะนั้นการที่ ฟาน ไดค์ กลับมาลงฝึกซ้อมได้แล้ว และดูเหมือนว่าสภาพร่างกายของเขาน่าจะฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามในเกมเยือนถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค น่าจะทำให้แนวรับของ ลิเวอร์พูล กลับมาแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม
2. ดิอาซ ร่วมซ้อมเบาๆ
ช่วงที่ผ่านมาเกมรุกทางฝั่งซ้ายของ ลิเวอร์พูล ไม่ค่อยอันตรายเนื่องจากการขาดหายไปของ หลุยส์ ดิอาซ แม้จะได้ โคดี้ กัคโป มาร่วมทัพในช่วงเดือนมกราคม แต่ผลงานของทีมก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก
การที่ "หงส์แดง" ไม่มี ดิอาซ ถือเป็นหนึ่งในความเสียหายอย่างยิ่งของทีม เพราะจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความอันตรายทางฝั่งซ้ายแทบไม่มีเลย ที่สำคัญแนวรุก 3 ประสานก็ไม่สามารถขู่เกมรับคู่แข่งได้เหมือนกับที่เคยทำสมัยที่ทีมมี โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
สำหรับการได้เห็น ดิอาซ กลับมาลงซ้อมวิ่งเบาๆ ที่สนามเคิร์กบี้ ซึ่งเป็นโปรแกรมแรกในการฟื้นฟูสภาพความฟิตนับตั้งแต่ผ่าตัดหัวเข่า ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับทีมในช่วงที่เหลืออยู่ของซีซั่นนี้
ยิ่งไปกว่าทั้ง กัคโป และ ดาร์วิน นูนเญซ คงต้องกระตุ้นศักยภาพของตัวเองมากยิ่งขึ้น เพราะพวกเขาเตรียมต้องแข่งขันแย่งตำแหน่งตัวจริง เนื่องจากตอนนี้ ดีโอโก้ โชต้า ก็กลับมาแล้ว และถ้า ดิอาซ ฟิตสมบูรณ์ บอกเลยว่าหากทั้งคู่ยังแสดงผลงานไม่ออกก็มีสิทธิ์ได้นั่งตบยุงที่ม้านั่งสำรองแหงๆ
3. นิวคาสเซิ่ลแข็งแกร่งในบ้าน
คล็อปป์ แอนด์ โค. ต้องเจอกับงานสุดหินแน่นอน เพราะในฤดูกาลนี้ "เดอะ แม็กพายส์" แข็งแกร่งมากๆ กับการเล่นในถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค เพราะพวกเขาสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นเลยในฤดูกาลนี้
ทีมของกุนซือเอ็ดดี้ ฮาว ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในถิ่นตัวเอง โดยแมตช์ล่าสุดที่พวกเขาพ่ายคาบ้านก็คือเกมแพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 เมื่อวันที่ 30 เมษายนปีที่แล้ว หรือเมื่อช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมา ฉะนั้นนี่คือจุดแข็งที่ "เดอะ เร้ดส์" ต้องหาทางที่จะกำแพงเหล็กของเจ้าบ้านให้ได้
ที่สำคัญนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2022/2023 นิวคาสเซิ่ล ไม่แพ้ใครในลีก 17 เกมติดต่อกัน โดยเกมสุดท้ายที่พวกเขาพ่ายก็คือแมตช์ที่บุกไปโดน ลิเวอร์พูล เฉือน 2-1 ช่วงต้นซีซั่นนี้ ซึ่ง "สาลิกาดง" โดยยิงประตูในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายซะด้วย
4. เจ้าบ้านรับแกร่ง, สวนกลับเด่น
นอกจากการเล่นในบ้านที่เหนียวแน่นแล้ว อีกสิ่งที่หลายๆ คนมักจะชื่นชอบ นิวคาสเซิ่ล ก็คือพวกเขามีเกมรับที่แข็งแกร่งมากๆ และการเล่นสวนกลับที่รวดเร็วซึ่งนำไปสู่การเจาะตาข่ายคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่อง
จุดเด่นของ นิวคาสเซิ่ล เป็นสิ่งที่ คล็อปป์ ต้องระมัดระวังให้ดีๆ เพราะตอนนี้แนวรับของ "หงส์แดง" ค่อนข้างเปราะบาง แม้จะมีรายงานว่า ฟาน ไดค์ อาจจะได้ลงเล่นก็ตาม แต่ตอนนี้ ดาวเตะชาวดัตช์ ก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่แข็งแกร่งเหมือนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ฉะนั้นสิ่งสำคัญก็คือแดนกลางของทีมเยือนจะต้องพยายามตัดเกมไม่ให้แผงมิดฟิลด์นิวคาสเซิ่ลมีโอกาสปั่นเกม รวมทั้งการที่ทีมต้องเล่นด้วยความละเอียด เพราะหากเสียบอลในจังหวะเล่นเกมบุก อาจจะโดนลงโทษด้วยการสวนกลับก็ได้
5.ลุ้นท็อปโฟร์จะอยู่หรือไป
สถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล เริ่มค่อยๆ คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นหลังจากที่ผู้เล่นตัวหลักค่อยๆ ทยอยหายเจ็บกลับมาช่วยทีม ซึ่งแน่นอนว่านี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับ คล็อปป์ เพราะมันทำให้เขามีออปชั่นในการจัดทีมได้มากขึ้น
ผลงานล่าสุดของ "หงส์แดง" ก็คือการทุบ เอฟเวอร์ตัน ในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ แน่นอนว่าการคว้าสามคะแนนทำให้ตอนนี้ทีมเริ่มมีโอกาสกลับมาคิดเรื่องการลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์อีกครั้ง หลังพวกเขาฟอร์มสะดุดจนแทบหมดโอกาสไปแล้ว
ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ตามหลัง นิวคาสเซิ่ล ทีมอันดับ 4 อยู่ 9 คะแนนและถ้าเกมนี้สามารถบุกปราบ "สาลิกาดง" ได้จะทำให้ลดช่องว่างเหลือ 6 แต้มที่ทำให้พวกเขาได้เปรียบก็คือ "เดอะ เร้ดส์" ยังมีเกมอยู่ในมืออีก 1 แมตช์ ฉะนั้นเกมที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค จึงมีความสำคัญมากๆ เพราะถ้าพวกเขาอยากได้ท็อปโฟร์ก็ต้องคว้าชัยชนะให้ได้
ทอมเม้ง