ช้างตกต้นไม้แล้ว! สิ่งที่อยากบอกหลัง อาร์เซน่อล แพ้ แมนซิตี้ ร่วงจ่าฝูง

ช้างตกต้นไม้แล้ว! สิ่งที่อยากบอกหลัง อาร์เซน่อล แพ้ แมนซิตี้ ร่วงจ่าฝูง
ศึกอภิมหายุทธระหว่าง อาร์เซน่อล กับ แมนฯ ซิตี้ ที่เสมอหนึ่งนัดชิงชนะเลิศพรีเมียร์ลีก เกมแรกของฤดูกาลชัยชนะตกเป็นของทีมสีฟ้าแห่งแมนเชสเตอร์ที่บุกอัด 'เดอะ กันเนอร์ส' ถึงถิ่น และอย่างอุกอาจ

และนี่คือสิ่งที่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมอยากจะบอก

1.ก่อนอื่นอยากให้ดูการจัดตัวผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม

มิเกล อาร์เตต้า เปลี่ยนแปลงทีมจากชุดลงใช้เป็นประจำแค่ 2 ตำแหน่ง

นักเตะญี่ปุ่นอย่าง ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ได้ลงเล่นเป็นแบ็คขวาแทน เบน ไวท์ ขณะที่ โธมัส ปาเตย์ มีอาการบาดเจ็บจนต้องส่ง จอร์จินโญ่ ลงแทนในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง

นอกนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ส่วน แมนฯ ซิตี้ นั้นมาแปลก

ผังในการถ่ายทอดสด ขึ้นว่าเป็นระบบ 3-4-2-1

ปราการหลัง 3 ตัว รูเบน ดิอาส คือศูนย์กลาง ขนาบข้างด้วย ไคล์ วอล์คเกอร์ และเนธาน อาเก้

มิดฟิลด์ตัวกลาง 2 คน โรดรี้ กับ แบร์นาโด้ ซิลวา ตัวริมเส้น 2 ข้าง ริยาด มาห์เรซ กับ แจ็ค กรีลิช

เควิน เดอ บรอยน์ กับ อิลคาย กุนโดกัน เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกสนับสนุนหัวหอกตัวเป้าอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

แต่เมื่อเห็นการยืนตำแหน่งในสนาม มันกลับซับซ้อน และซ่อนเงื่อนมากกว่านั้น

2.ตำแหน่งของผู้เล่น แมนฯ ซิตี้ น่าจะเรียกว่าสูตร 3-2-2-3 หรือ WM ซะมากกว่า คือมีเซ็นเตอร์ 3 ตัว มิดฟิลด์ตัวรับ 2 คน ตัวรุก 2 คน และกองหน้า 3 คน เหมือนตัวอักษรภาษาอังกฤษ WM วางแนวตั้ง

แต่มันซับซ้อนกว่านั้นตรงที่ แบร์นาโด้ ซิลวา กับ โรดรี้ เหมือนผู้เล่นตัวพิเศษ

เวลาตั้งรับ แบร์นาโด้ จะถอยลงไปเป็นแบ็คซ้าย ขณะที่ โรดรี้ จะถอยลงต่ำเหมือนเป็นกองหลังอีกคนตามจังหวะ

เวลาตั้งเกมรุก แบร์นาโด้ ซิลวา ก็จะขยับเข้าไปพักบอลพลางคุมจังหวะตรงกลาง

แมนฯ ซิตี้ จึงเล่นเหมือนมี 2 ระบบในเกมเดียวกัน อาศัยการหมุนเวียนของผู้เล่นในแต่ละตำแหน่งไปตามสถานการณ์ 

3.พลพรรคปืนโตเริ่มต้นเกมได้คึกคักกว่านะครับ หลังทำแต้มหล่นมา 2 นัดติดต่อกัน แถมพ่ายแพ้คู่แข่งอย่าง แมนฯ ซิตี้ มาตลอด

หากยัดเยียดความปราชัยให้ผู้เยือนได้สำเร็จ โอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกยิ่งมีสูงมาก พวกเขาจึงดูจะตั้งอกตั้งใจกันเป็นพิเศษ โดยมีเสียงเชียร์จากชาวเผ่า 

กูนเนอร์ส หนุนหลังพลางเร่งเร้า

ทั้งคู่เล่นฟุตบอลด้วยสไตล์ที่คล้ายๆ กันคือเน้นเกมรุกด้วยการครองบอลอย่างมากด้วยทีมเวิร์ค 

ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ครองบอลบุกได้มากกว่า รวมถึงหาจังหวะจบได้มากกว่า ซึ่งนานๆ ถึงจะเห็น แมนฯ ซิตี้ ครองบอลเป็นรองคู่แข่งนะครับ

เวลา แมนฯ ซิตี้ ครองบอลก็จะพุ่งเข้าใส่ด้วยความหื่นกระหาย

แต่เพราะความผิดพลาดส่วนบุคคลของนักเตะชาวอาทิตย์อุทัยทำให้ทีมสีฟ้าขึ้นนำก่อน

จังหวะนั้น โทมิยาสุ จ่ายคืนหลังให้นายทวารในแนวตรงขนานเส้นข้างก็ได้นะครับ หรือจะเตะทิ้งออกข้างเอาปลอดภัยไว้ก่อนก็ได้

แต่กลับจ่ายคืนหลังแบบกั๊กๆ จนถูก 'เคดีบี' โฉบไปยิง

ประตูตีเสมอของ อาร์เซน่อล มาจากจุดโทษในจังหวะที่ เอ๊ดดี้ เอ็นเคเทียร์ กับ เอแดร์ซ่อน พุ่งเข้าปะทะกัน ซึ่งมองแบบเป็นกลาง ท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมว่า...ไม่น่าได้นะครับ

เอ็นเคเทียร์ ถึงบอลก่อนพลางตวัดยิงไปแล้ว ขณะที่นายทวารของ แมนฯ ซิตี้ พุ่งออกมาปิดมุมตามสัญชาติญาณ โดยไม่ได้เจตนาทำฟาวล์

แต่เอาเถอะ เพราะมาตรฐานการตัดสินของตุลาการสนามของอังกฤษค่อนข้างบัดซบ และไม่มีอะไรแน่นอนอยู่แล้ว

คิดง่ายๆ เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันอาจถูกตีความจากผู้ตัดสินที่แตกต่างกัน

อาร์เซน่อล ได้จุดโทษแบบนี้ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ

4.ครึ่งแรก อาร์เซน่อล เหนือกว่านิดๆ นะครับ ด้วยครองบอลบุกมากกว่า จังหวะเข้าทำก็มากกว่า ประตูที่เสียก็มาจากความผิดพลาดของผู้เล่นคนเดียว

แต่พอลงเล่นในครึ่งหลัง เกมของทีมปืนโตกลับไม่เหมือนเดิมซะอย่างนั้น

เฉพาะอย่างยิ่ง หลังจาก แมนฯ ซิตี้ ถอด ริยาด มาห์เรซ ออกจากสนาม โดยส่ง มานูเอล อาคันยี่ ลงไปเล่นเป็นปราการหลังแล้วถ่าง เนธาน อาเก้ ออกไปเป็นแบ็คซ้าย

แบร์นาโด้ ซิลวา ขึ้นไปเล่นเป็น 'หน้าขวา' ในระบบ 4-3-3

เมื่อถูก แมนฯ ซิตี้ บีบสูง และเพรสซิ่งเข้าใส่หนักขึ้น และหนักขึ้น ดูเหมือน อาร์เซน่อล จะมีปัญหา 

จังหวะเข้าทำหายไปเลยจนแทบจะหาโอกาสทำลายตาข่ายไม่ได้ ก่อนที่จะพลาดเองอีกจนได้

คราวนี้เป็นเซ็นเตอร์แบ็คอย่าง กาเบรียล ที่จ่ายบอลพลาดอันนำมาซึ่งการสังเวยประตูอีกแล้ว

ต่อเมื่อโดนดอกที่ 3 จากไอ้เด็กยักษ์สายพันธุ์ไวกิ้ง มันก็จบแล้วครับนาย 

อาร์เซน่อล พ่ายแพ้ แมนฯ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีกเป็นเกมที่ 11 ติดต่อกัน แถมความพ่ายแพ้ครั้งนี้ส่งผลเสียหายใหญ่หลวง เพราะถึงขั้นกระเด็นตกต้นไม้เลยทีเดียว

5.ถามว่ากุญแจสำคัญที่ตัดสินเกมนี้อยู่ที่ไหน ???

ขอตอบว่าน่าจะอยู่ที่ประสบการณ์ของผู้เล่นที่แตกต่างกันครับ

ความเด็กของ อาร์เซน่อล ออกอาการมาตั้งแต่เกมพ่าย เอฟเวอร์ตัน แล้วครับ

เด็กได้สดก็จริง แต่ขาดความนิ่ง เฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่กดดันแบบนี้ ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ มีความเจนจัดในสถานการณ์เดียวกันมากกว่า

ผู้เล่นทีมปืนโตทำพลาดแบบไม่น่าพลาด 2 ครั้ง ถูกลงโทษสถานหนักถึงขั้นเสียประตูทั้ง 2 ครั้ง

กองหน้าวัย 23 ขวบ อย่าง เอ๊ดดี้ เอ็นเคเทียร์ มีโอกาสทองถึง 3 ครั้ง พลาดทั้ง 3 ครั้ง ผิดกับ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่ขอโอกาสแค่ทีเดียวเปลี่ยนเป็นการตุงตาข่ายได้เลย

แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า แม้น อาร์เซน่อล จะแข่งน้อยกว่าอยู่ 1 นัด แต่บางทีนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของฤดูกาล

ช้างตกต้นไม้แล้วปีนกลับขึ้นไปยากนะครับ

บอ.บู๋


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : บอ.บู๋
บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport