จ่าฝูงเปลี่ยนมือ! อาร์เซน่อล พ่ายคาบ้านนัดแรกหลังเจอทีเด็ดของ แมนฯ ซิตี้ บุกไปอัด 3-1 คว้าสามแต้มล้ำค่ามีเพิ่มเป็น 51 คะแนนเท่ากับไอ้ปืนใหญ่ แม้แข่งมากกว่าหนึ่งนัด แต่ลูกได้เสียดีกว่า แซงรั้งจ่าฝูงแทน พร้อมยืดสถิติชนะ "เดอะ กันเนอร์ส" 11 นัดติดในลีก
"บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระหว่างจ่าฝูง อาร์เซน่อล ที่ไม่ชนะมา 3 นัดติดทุกรายการ เปิด เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับมือแชมป์เก่าและรองจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ฟอร์มยอดเยี่ยม ชนะได้ถึง 4 จาก 5 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ
มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่ อาร์เซน่อล เกมนี้ต้องไร้ โธมัส ปาร์เตย์ ที่มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อทำให้ต้องส่ง จอร์จินโญ่ ห้องเครื่องตัวใหม่ซึ่งลงตัวจริงเป็นเกมแรก โดยที่แนวรุกฝากความหวังไว้ที่ บูคาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ โดยมี เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ รับบทหน้าเป้า
ส่วนทางฝั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ ได้ เออร์ลิง ฮาลันด์ ผ่านความฟิตยืนล่าตาข่าย โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง ริยาด มาห์เรซ และแจ็ค กรีลิช ซึ่งเกมนี้หาก "เรือใบสีฟ้า" บุกมาคว้าชัยได้ นอกจากจะเพิ่มสถิติชนะในลีก 11 เกมติดแล้วจะมี 51 คะแนนเท่าปืนใหญ่ แม้จะแข่งมากกว่าหนึ่งเกม แต่ลูกได้เสียจะดีกว่า ยึดจ่าฝูงแทน
เปิดฉากมาได้ สองนาทีแรก อาร์เซน่อล ได้ทักทายก่อนเลยหลัง เอ็นเคเทียห์ ซัดไปติดบล็อคก่อนเลยมาถึง กรานิต ชาคา ซ้ำเหินคานออกไป
นาที 12 จอร์จินโญ่ ตัดบอลได้ก่อนแทงเร็วให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ หลุดเข้าไปซัดในกรอบแต่ยังไปติดบล็อค รูเบน ดิอาส
อีก 4 นาทีต่อมา "ซิตี้" ได้เสียวเหมือนกันหลัง มาห์เรซ เปิดด้วยซ้ายไปเสาไกลให้ ฮาลันด์ ปาดเลียดมาหน้าประตู แต่ไม่มีแข้งเรือใบเข้าชาร์จก่อนโดน กาเบรียล มากัลเญส เคลียร์ออกมา
นาที 22 เดอะ กันเนอร์ส น่าจะได้ประตูขึ้นนำหลัง ซินเชนโก้ ครอสมาให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ขึ้นโขกหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 24 กลายเป็น "เรือใบสีฟ้า" เป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากความผิดพลาดของ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ที่พยายามจ่ายคืนหลังให้ แรมส์เดล แต่สั้นเกินไปโดน เควิน เดอ บรอยน์ ที่อ่านเกมขาดวิ่งมากระดกบอลข้ามหัวนายด่านปืนใหญ่เข้าไปอย่างสวยงาม
นาที 28 กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ลากขึ้นมาทางซ้ายก่อนตักมาหน้าประตูให้ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ สอดมาซัดใต้ลูกหลุดกรอบออกไป
นาที 39 อาร์เซน่อล มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ หลุดไปซัดบอลแต่ยังไม่ข้ามเส้น ทว่าผู้ตัดสินเป่าย้อนหลังมาให้จุดโทษหลัง เอแดร์ซอน โมราเอส ไปเข้าช้าฟาวล์ใส่ เอ็นเคเทียห์ ซึ่ง วีเออาร์ ยืนยันเช่นกันก่อนที่ บูคาโย่ ซาก้า ซึ่งเป็นมือสังหารซัดจุดโทษเข้าไปให้ ปืนใหญ่ ไล่ตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 42
ช่วงทดเจ็บ นาที 45+6 แมนซิตี้ เกือบแซงขึ้นนำอีกครั้งหลัง บอลฟรีคิกเปิดเข้ามาถึง โรดรี้ โขกลงพื้นก่อนกระดอนไปชนคาน ก่อนที่ แอรอน แรมส์เดล จะทุบบอลออกหลังไปหวุดหวิด
จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล เสมอกับ แมนฯ ซิตี้ 1-1
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 55 ปืนใหญ่ ได้ทุ่มเร็ว โอเดการ์ด ให้ ซาก้า หลุดถึงเส้นหลังก่อนจ่ายย้อนให้ จอร์จินโญ่ ครอสเร็วในกรอบ 6 หลาแต่บอลลึกถึง เอแดร์ซอน รับไว้ได้
นาที 56 แอนโธนี่ เทย์เลอร์ เป่าให้ "ซิตี้" ได้ลูกจุดโทษบ้างหลัง กาเบรียล มากัลเญส ไปดึง ฮาลันด์ ล้มลงในเขตโทษ ก่อนที่ วีเออาร์ จะเช็กว่า ฮาลันด์ มาจากตำแหน่งล้ำหน้าก่อนทำให้ แมนซิตี้ ชวดได้ลูกที่จุดโทษก่อนเป็นฝั่ง อาร์เซน่อล รอดตัวไปได้เตะขึ้นมาแทน
นาที 66 เจ้าบ้านได้เสียวบ้างหลัง โอเดการ์ด แทงสั้นให้ โทมิยาสุ ครอสเร็วไปหน้าประตูผ่าน เอ็นเคเทียห์ ไปอย่างน่าเสียดาย
อีกสองนาทีถัดมา แมนซิตี้ ได้ฟรีคิกก่อนเปิดมาให้ โรดรี้ โขกไปติดเซฟ แรมส์เดล บอลมาเข้าทาง อคานจี ซ้ำไปติดบล็อค จอร์จินโญ่ ที่เคลียร์จากบนเส้น
จากนั้น นาที 69 ปืนใหญ่ เล่นกันพลาดอีกเกือบเสียประตูหลัง ซินเชนโก้ ทำเสียบอล แบร์นาร์โด้ ตัดบอลได้ให้ ฮาลันด์ หนีจังหวะแรกแต่ยังยิงไปเข้าตัว แรมส์เดล
จนแล้วจนรอด แมนฯ ซิตี้ มาแซงขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 ในนาที 72 เป็นแนวรับปืนใหญ่ที่เสียกันง่ายโดนแทงบอลจังหวะเดียวให้ ฮาลันด์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปก่อนจ่ายให้ กุนโดกัน ตวัดเร็วให้ แจ็ค กรีลิช วิ่งมาซัดจังหวะเดียวผ่านมือ แรมส์เดล เข้าไปอย่างเฉียบขาด
จากนั้น นาที 82 แมนฯ ซิตี้ ฉีกนำห่างเป็น 3-1 เควิน เดอ บรอยน์ ไหลให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ ซัดหน้าประตูเข้าไปไม่เหลือเป็นประตูที่ 26 นำดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก
นาที 89 ปืนเกือบได้ลุ้นตีตื้นขึ้นมาหลัง บูกาโย่ ซาก้า ครอสเร็วมาให้ เอ็นเคเทียห์ โขกถากเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
จบเกม อาร์เซน่อล แพ้คาบ้านให้ แมนฯ ซิตี้ 1-3 ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" มีเพิ่ม 51 คะแนนเท่ากับไอ้ปืนใหญ่ แม้จะแข่งมากกว่าหนึ่งนัดแต่ลูกได้เสียดีกว่า แซงรั้งจ่าฝูงแทน พร้อมยืดสถิติชนะ "เดอะ กันเนอร์ส" 11 นัดติดในลีก
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล (4-3-3) : แอรอน แรมส์เดล - ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ (เบน ไวท์ น.83), วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - กรานิต ชาคา (ฟาบิโอ วิเอร่า น.83), จอร์จินโญ่, มาร์ติน โอเดการ์ด - บูคาโย่ ซาก้า, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (เลอันโดร ทรอสซาร์ น.76)
แมนฯ ซิตี้ (3-2-4-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอร์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เนธาน อาเก้ - โรดรี้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา - ริยาด มาห์เรซ (มานูเอล อาคานจี น.61), เควิน เดอ บรอยน์ (คาลวิน ฟิลลิปส์ น.87), อิลคาย กุนโดกัน, แจ็ค กรีลิช (ฟิล โฟเด้น น.77)- เออร์ลิง ฮาลันด์
ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์