ได้เวลาพลิกสถานการณ์! 5 สิ่งที่เห็นจากการซ้อมของ ลิเวอร์พูล ก่อนดวล เอฟเวอร์ตัน

นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2022/2023 "หงส์แดง" ทำผลงานได้น่าผิดหวังมากๆ เพราะฟอร์มของพวกเขาย่ำแย่จนหน้าตกใจ เนื่องจากฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขามีลุ้นถึง 4 แชมป์ (แต่ได้แค่ เอฟเอ คัพ กับ คาราบาว คัพ) แต่ทุกอย่างกลายเป็นสูญสิ้นในซีซั่นนี้

ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่ต้นปี 2023 ลิเวอร์พูล สะกดคำว่าชัยชนะในพรีเมียร์ลีก ไม่ได้เลย โดยส่วนหนึ่งที่พวกเขาเป็นแบบนี้นั่นเป็นเพราะผู้เล่นตัวหลักโดนโรคเดี้ยงเล่นงาน แต่ดูเหมือนสิ่งเหล่านั้นจะค่อยๆ ดีขึ้น จากการฝึกซ้อมล่าสุดที่เห็นนักเตะสำคัญๆ กลับมาช่วยทีม

ก่อนที่จะต้องทำศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ ปะทะ เอฟเวอร์ตัน ที่สนามแอนฟิลด์ วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายจากการฝึกซ้อมครั้งล่าสุดของสโมสร โดยจะเป็นเรื่องใดบ้างไปชม (อ่าน) กันเลยดีกว่า 

1. โชต้า  กลับมาร่วมฝึกซ้อม

ประเด็นแรกที่น่ายินดีมากๆ ก็คือ ดีโอโก้ โชต้า กลับมาลงสนามซ้อมได้แล้ว หลังจากที่ต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บไปนานหลายเดือน โดยสตาร์ทีมชาติโปรตุเกส พลาดช่วยสโมสรช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา และตอนนี้เขากลับมาแล้วพร้อมทั้งได้ร่วมซ้อมกับทีมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

งานนี้มีความเป็นไปได้เช่นกันที่ คล็อปป์ อาจจะมีชื่อของ โชต้า ซึ่งได้รับบาดเจ็บน่องจากเกมเฉือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา อยู่ในทีมสำหรับแมตช์ปะทะ "ทอฟฟีสีน้ำเงิน" 

การหวนกลับสู่ทีมของ โชต้า ถือเป็นข่าวดีมากๆ สำหรับ คล็อปป์ เพราะนั่นทำให้เขามีออปชั่นในการจัดแนวรุก หลังช่วงที่ผ่านมา "เดอะ เร้ดส์" มีปัญหาอย่างหนักในการทำประตู โดยเฉพาะ ดาร์วิน นูนเญซ กับ โคดี้ กัคโป ที่ฟอร์มฝืดเหลือเกิน 

แน่นอนว่า คล็อปป์ คงรู้สึกโล่งใจที่เห็น โชต้า กลับมาฝึกซ้อม เพราะนั่นถือเป็นข่าวดีอย่างมาก เพราะการที่ทีมยังขาด หลุยส์ ดิอาซ ปีกจอมพลิ้วอีกหลายเดือน การได้ สตาร์ชาวโปรตุกีส กลับมาลงสนามถือเป็นข่าวสำหรับต้นสังกัด แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับคู่แข่ง !! 

2. ฟีร์มีโน่ ใกล้หวนคืนทัพ

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ มีส่วนในการร่วมซ้อมที่แอ็กซ่า เทรนนิ่ง เซนเตอร์ โดยเขาได้สวมในสนามแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเจ้าตัวกำลังกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากอาการเจ็บน่อง ซึ่งส่งผลให้เขาพลาดลงสนามในช่วง 10 เกมที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตามยังไม่มีความแน่ชัดว่าตอนนี้ สตาร์ชาวบราซิเลียน จะสามารถลงสนามรับมือทีมของกุนซือฌอน ไดซ์ ได้หรือไม่ แต่การได้เห็นภาพที่เขากำลังพูดคุยกับดร.แอนเดรียส ชลุมแบร์เกอร์ หัวหน้าฝ่ายฟื้นฟู และประสิทธิภาพ ในช่วงที่วอร์มร่างกาย

กระนั้นด้วยการที่ "บ็อบบี้" ไม่ได้ลงสนามมานาน นั่นคงทำให้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ต้องขบคิดให้ดี เพราะการที่รีบร้อนส่งเขาลงสนามเร็วเกินไป อาจจะนำมาสู่ผลเสียมากกว่าผลดี 

3. ยินดีต้อนรับ เมโล่

อาร์ตูร์ เมโล่ มีภาพที่ร่วมฝึกซ้อมครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับการผ่าตัดต้นขาเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา โดยนักเตะเซ็นสัญญาย้ายมาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์จาก ยูเวนตุส แบบยืมตัวช่วงเดดไลน์ตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์ และได้ลงสนามเพียง 13 นาทีจากนั้นก็ต้องแวะไปนอนเล่นบนเตียงโรงพยาบาล 

กองกลางชาวบราซิเลียน ซึ่งได้ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ในแมตช์ที่ "เดอะ เร้ดส์" ปะทะ นาโปลี เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน แถมฟอร์มการเล่นก็ไม่น่าประทับใจ จากนั้นก็มาโดนอาการเดี้ยงเล่นงาน จะมีโอกาสได้โชว์เพลงแข้งที่แท้จริงให้สาวก "เดอะ ค็อป" ได้เห็นในเร็วๆ นี้

จะว่าไปแล้วนี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของ เมโล่ ที่จะได้แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักเตะที่มีคุณภาพ และคู่ควรสวมชุด "หงส์แดง" ฉะนั้นถ้าเขาได้รับโอกาสลงสนามก็คงต้องพยายามงัดฟอร์มเก่งออกมาให้มากที่สุด เพราะมันจะเป็นบทพิสูจน์ว่าการยืมตัวครั้งนี้ไม่สูญเปล่า 

4. ฟาน ไดค์ มาเต็มสูบ

หนึ่งในขุมกำลังที่มีความสำคัญกับทีมอย่างมากก็คือ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แม้ว่าต้นซีซั่นนี้เจ้าตัวอาจจะไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงก็ตาม แต่การขาดหัวใจในเกมรับชาวดัตช์ส่งผลกระทบต่อความเหนียวแน่นในกองหลังอย่างแท้จริง

ฟาน ไดค์ มีปัญหาบาดเจ็บทำให้เขาไม่ได้ช่วยทีมหลายเกม แต่ตอนนี้มีภาพที่เจ้าตัวได้ลงสนามร่วมกับเพื่อนร่วมสังกัดแล้ว และแน่นอนว่านี่คือข่าวดีสำหรับสาวก "หงส์แดง" เพราะพวกเขาจะได้ยอดกองหลังมาช่วยคุมเกมรับที่กำลังรั่วสุดๆ ในช่วงที่ผ่านมา

กระนั้นในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน มันอาจดูเหมือนเร็วเกินไปสำหรับ ปราการหลังกัปตันทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เพราะเจ้าตัวยังคงต้องฟื้นฟูร่างกายจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขาช่วงครึ่งแรกในแมตช์แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 

5. ติอาโก้ เจ็บจนได้

อุตส่าห์มีข่าวดีออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็ต้องมาเจอข่าวร้ายในเรื่องเดิมๆ อีกแล้ว เพราะ ติอาโก้ อัลกันทาร่า ได้รับบาดเจ็บที่สะโพกส่งผลให้ยังไม่สามารถลงซ้อมได้ และมีโอกาสที่จะพลาดลงช่วยทีมรับมือคู่อริร่วมเมือง

หาก "หงส์แดง" ขาด ติอาโก้ ในแมตช์สำคัญย่อมส่งผลต่อการคุมจังหวะเกมในแดนกลาง เพราะแข้งชาวสแปนิชมีส่วนอย่างยิ่งในการช่วยปั้นเกมให้กับทีม ฉะนั้น คล็อปป์ คงต้องเตรียมความพร้อมที่จะหาแข้งมาทดแทนตำแหน่งของเจ้าตัว

ทอมเม้ง