ผมเขียนลงสตาร์ซอคเก้อร์อย่างละเอียดวางแผงพรุ่งนี้ ขอแบบย่อๆพอเข้าใจง่ายๆลงให้อ่านก่อน หลังข่าวใหญ่ระดับโลกการกีฬาเมื่อ พรีเมียร์ลีกตั้งข้อกล่าวหา "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฝ่าฝืนกฏงบการเงิน 115 ครั้งกับ 5 กลุ่มความผิด ระหว่างปี 2009-2022 (14 ฤดูกาล) หากไต่สวนแล้วผิดจริงบทลงโทษที่ตามมารับประกันว่า "อ่วม" อย่างแน่นอน
ตอนนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกสนานเล่นเอา "วิกฤตหงส์แดง" กลายเป็นข่าวย่อยไปเลย
เกิดอะไรขึ้นบ้างในการฝ่าฝืนงบการเงิน 115ครั้ง
เอาแบบย่อๆ พอเข้าใจ อ่านแล้วไม่ต้องตีความ
การสืบสวนของพรีเมียร์ลีก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดนตั้งข้อกล่าวหา
ย้อนไป ก.พ. 2020 สหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือว่ายูฟา ไต่สวนการละเมิด "งบการเงิน" Financial Fair Play (FFP) กรณีตกแต่งบัญชีเพื่อให้อยู่ตัวเลขที่ยูฟา กำหนด โดยไม่ได้ใช้เรื่องการทำธุรกิจจริงๆ แต่เป็นเงินเจ้าของทีมผ่านผู้สนับสนุนที่เจ้าของทีมเป็น "เจ้าของ" มาใช้จ่าย
หาได้เกิดจากผลประกอบการที่แท้จริงแต่ละซีซั่น
หลักฐานครั้งนั้นมัดตัว เรือใบสีฟ้า หนาแน่น เพียงแต่ว่า....มันเป็นหลักฐานที่ถูกแฮกเก้อร์ มาจากนักแฮ้กชาวโปรตุกีส รุย ปินโต ซึ่งในทางกฏหมายมันเป็นโมฆะ เพราะหลักฐานมาจากการขโมยข้อมูล
การอุทธรณ์ศาลกีฬาโลก CAS ครั้งนั้น แมนฯซิตี้ พ้นผิด
ประเด็นข่าวล่าสุดจากการสืบสวนข้อมูลของพรีเมียร์ลีกของคณะกรรมการอิสระพรีเมียร์ลีก (The independent commission) สืบสวนค้นหาหลักฐานข้อมูลระหว่างปี 2009-2022 โดยเริ่มต้นสอบสวนเมื่อ ธันวาคม ปี 2018 จนถึงปี 2022 อย่างเงียบๆ ด้วยเพราะตามกฏของพรีเมียร์ลีกระบุไว้เช่นนั้น เรื่องจึงไม่เป็นข่าวในหน้าสื่อ
คณะกรรมการสืบสวนกับทางสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ที่ใช้เวลานานเสียเวลาไปเป็นปี เพราะแมนฯซิตี้ ยื่นอุทธรณ์หลายครั้ง
ก่อนพบว่า..ฝ่าฝืนงบการเงิน2009-2018 และไม่ให้ความร่วมมือในการยื่นเอกสารจากปี 2018-2022
1 ทีมแมนฯซิตี้ บ่ายเบี่ยงและปฏิเสธการให้ข้อมูลคณะกรรมการในเรื่อง "งบการเงิน", รายรับ,เงินรายได้จากผู้สนับสนุนทีม, ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการทีม ในบางฤดูกาล
2 ผู้สนับสนุน "ปลอม" หรือ fake sponsorship ที่หมายถึงรายได้จากผู้สนับสนุนทีมมาจาก "เงิน" เจ้าของทีมผ่านบริษัทที่ "เจ้าของ" คือชีค มานซูร์ เป็นเจ้าของ
สรุปง่ายๆ เอาเงินกระเป๋าซ้ายมาจ่ายให้กระเป๋าขวา ซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ ผู้สนับสนุนทีมแบรนด์สินค้าอื่นๆทั่วไป
3ปกปิดเรื่องเงินตอบแทน, ค่าสวัสดิการทั้งหมด (remuneration) ของ โรแบร์โต มานชินี ระหว่างซีซั่น 2009-10 ถึง 2012-13 และเงินตอบแทน รวมทั้งสวัสดิการต่างๆของนักเตะซีซั่น สองฤดูกาล 2010-11 และ 2015-16
4 ฝ่าฝืนและละเมิดงบการเงินยูฟา
5 ละเมิดงบการเงินพรีเมียร์ลีกเรื่อง "ผลกำไร"
จากการสืบตลอดสี่ปี (2018-2022) ทางคณะกรรมการอิสระของพรีเมียร์ลีกจะโฟกัสไปที่ 2 เรื่องหลักๆที่มีการละเมิด งบการเงินพรีเมียร์ลีก 115ครั้ง
1 ผู้สนับสนุน "ปลอม"
อย่างที่ทราบกันดีเงินกระเป๋าซ้ายของ ชีค มานซูร์ จากสายการบิน เอติฮัด และ บริษัทสื่อสารโทรคมนาคม Etisalat มาเป็นผู้สนับสนุนแมนฯซิตี้ อีกหนึ่งบริษัท ฟุตบอลจำกัดของท่านชีค
2 ค่าสวัสดิการและเงินตอบแทนของ โรแบร์โต้ มานชินี ตั้งแต่ปี 2009-2013
เรื่องนี้น่าสนใจเพราะ มานชินี ทำสัญญาครั้งแรกกับแมนฯซิตี ผ่านบริษัทของเขาที่อิตาลี IIS (Italy International Service) โดยสัญญาค่าจ้างของเขา 1.45 ล้านปอนด์ หลังหักภาษี แต่เงินไหลเข้าบริษัทของเขา 1.75 ล้านปอนด์ โดยบริษัท Abu Dhabi United Group หรือ ADUG ซึ่ง ชีค มานซูร์ เจ้าของแมนฯซิตี้ เป็นเจ้าของบริษัทนี้อีกต่างหาก มานชินี ทำหน้าที่จากการเป็นที่ปรึกษาด้านฟุตบอลให้ "อัล จาซีรา" มีสัญญาระบุทำงานปีละ 4 วัน
หลังจาก4 ปี ทีมกฏหมายของพรีเมียร์ลีกและสำนักงานกฏหมาย Bird and Bird ส่งเรื่องให้บอร์ดบริหารพรีเมียร์ลีก ซึ่งดำเนินการตั้งข้อกล่าวหา ตามที่เป็นข่าวโดยไม่มีการเตือน!!!
ทีมไต่สวนพิจารณาความ
คณะกรรมการอิสระพรีเมียร์ลีกนำโดย เมอร์เรย์ โรเซน เคซี (เป็นสมาชิกทีมอาร์เซนอลด้วย) ซึ่งจะแต่งตั้งคณะกรรมร่วมกันพิจารณาไต่สวนคดีของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 คน โรเซน อาจเลือกตัวเองเป็นคณะกรรมการพิจารณาด้วยก็ได้แต่เชื่อว่าเขาไม่น่าจแต่งตั้งตัวเองเป็นหนึ่งในสาม โดยจะเป็นประธานการไต่สวนครั้งนี้ก็เพียงพอแล้ว โดยตามกฏพรีเมียร์ลีกข้อ W.82 การพิจารณาความครั้งนี้ต้องเป็นความลับไม่เปิดเผยต่อสาธารณะชน
ตามกฏพรีเมียร์ลีกแล้ว แมนฯซิตี้ จะไม่มีการยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก CAS แต่สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอิสระทั้งสามท่านได้
แมนฯซิตี้ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการภายใน 23 ก.พ.
คณะกรรมการจะเริ่มพิจารณาความกลางเดือนมีนาคม
บทลงโทษ
ตามกฏพรีเมียร์ลีก w.52 บทลงโทษของการฝ่าฝืนและละเมิดงบการเงินพรีเมียร์ลีก จะต้องโทษดังนี้
1 ปรับเงิน
2 ตัดแต้ม
3 ปรับตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก
4 ริบแชมป์
แมนฯซิตี้ จะรอดมั้ย?
คดีนี้...แม้ยังไม่สามารถคาดการณ์ ฟันธง ได้แน่ชัด แต่ลึกๆแล้วเชื่อกันว่า พรีเมียร์ลีก ต้องการเชือดไก่ให้ลิงดู ถึงตามตรวจสอบมาตลอด 14 ปี เมื่อพบหลักฐานการบริหารทีมอย่างไม่โปร่งใสตามกฏงบการเงิน
แมนฯซิตี้ อาจเคยรอดจากยูฟา เพราะมีตัวช่วยคือศาลกีฬาโลกแต่เที่ยวนี้ ตามกฏพรีเมียร์ลีกนั้นไม่อนุญาตให้สโมสรสมาชิกนำเรื่องไปยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก CAS ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมพิจารณาไต่สวนอิสระพรีเมียร์ลีกที่แต่งตั้งกันขึ้นมา
แล้วถ้าผิดจริงจะลงโทษยังไงดี
การพิจารณาข้อกล่าวหาละเมิดและฝ่าฝืน 115 ครั้ง แล้วพบว่าผิดจริงคุณจะลงโทษอย่างไร ให้มันเหมาะสมกับ "โทษ" ครั้งนี้
โทษอย่างหนักหน่วงสุดคือ "ริบแชมป์" พร้อมปรับเงินก้อนหนึ่ง คงไม่มีมาตัดแต้มหรือปรับตกชั้นอะไร ซึ่งนั่นจะสร้างความวุ่นวายตามมา เพราะมีผลกระทบต่อทีมอื่นๆและตัวลีกเอง
แฟนแมนฯยูฯ แฟน ลิเวอร์พูล อย่าพึ่งตื่นตูมกับการโดนริบแชมป์ของเรือใบ รอผลการพิจารณาความว่าออกมาผิดซะก่อน แล้วค่อยมาตามดูบทลงโทษ ว่า “แรง” ถึงขั้นไหน
ถ้าถามผม…
ผมเชื่อว่า แมนฯซิตี้ ไม่รอด
เพียงแต่บทลงโทษนี่แหละน่าสนใจว่าจะโดนหนักมากน้อยขนาดไหน เพราะในมุมกีฬา มันยังมีบางเรื่องที่ละเอียดอ่อนอยู่นะครับ
JACKIE