11 นักเตะชั้นยอดที่ย้ายมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ช่วงเดือนมกราคม

11 นักเตะชั้นยอดที่ย้ายมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ช่วงเดือนมกราคม
ตลาดนักเตะรอบ 2 เดือนมกราคมเพิ่งจะปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันอังคารที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา โดยสโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทุ่มเงินรวมแล้วกว่า 815 ล้านปอนด์ (ราว 34,230 ล้านบาท) ในการเสริมทัพช่วงฤดูหนาวนี้

เชลซี เป็นทีมที่ควักกระเป๋าจ่ายเงินเพื่อมเสริมแกร่งมากที่สุดโดย "เสี่ยท็อดด์" ท็อดด์ โบห์ลี่ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ยินดีที่จะทุ่มไม่อั้นกว่า 326 ล้านปอนด์ (ราว 13,692 ล้านบาท) เพื่อคว้า 8 แข้งมาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ 

สำหรับหนึ่งในแปดผู้เล่นที่ เชลซี คว้ามาร่วมทัพก็คือ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ มิดฟิลด์ดาวโรจน์ที่เพิ่งจะช่วย อาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ มาได้หมาดๆ เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา 

ขณะที่ อาร์เซน่อล จ่าฝูงลีก เสริมแกร่งด้วยการคว้า จอร์จินโญ่ กองกลางทีมชาติอิตาลี มาจาก เชลซี สโมสรคู่อริร่วมกรุงลอนดอน ซึ่งเขาเคยเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญนำ "สิงโตน้ำเงินคราม" คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ซูเปอร์ คัพ และ คลับ เวิลด์ คัพ มาแล้ว


สำหรับหนึ่งในผู้เล่นที่ต้องบอกว่าเซอร์ไพรส์มากๆ ในการย้ายมาเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี นั่นก็คือ เกย์ลอร์ นาวาส นายทวารมากประสบการณ์ที่ผ่านการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยกับ เรอัล มาดริด ที่ย้ายมาเฝ้าเสาให้กับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 

แน่นอนว่าตลาดพ่อค้าแข้งฤดูหนาวในอังกฤษถือว่าคึกคักมากๆ และงานนี้มีการจัด 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดที่ย้ายมาโชว์ผลงาน และหาประสบการณ์ใหม่บนเกาะอังกฤษ โดยจะมีใครกันบ้างลองไปพิจารณากันเลย

เกย์เลอร์ นาวาส - น็อตติงแฮม ฟอเรสต์

นายด่านมากประสบการณ์วัย 36 ปี ย้ายจากปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาเล่นแบบยืมตัวกับทัพ "เจ้าป่า" โดยเขาผ่านความสำเร็จมาแล้วมากมายโดยเฉพาะการได้แชมป์ถ้วยใบโตยุโรป 3 สมัย (เรอัล มาดริด) และแชมป์ลีก 3 สมัย (ลา ลีกา 1 สมัย, ลีก เอิง 2 สมัย) การมาเฝ้าเสาในถิ่นซิตี้ กราวนด์ เจ้าตัวไม่ได้มาเล่นๆ เพราะคาดหวังที่จะแย่งมือ 1 จาก ดีน เฮนเดอร์สัน โกลวัยคะนองที่ยืมมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลยทีเดียว

เปโดร ปอร์โร่ - ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

ดาวเตะทีมชาติสเปน ประสบความสำเร็จในการย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของ สเปอร์ส ในช่วงวันสุดท้ายของตลาดพ่อค้าแข้งเดือนมกราคม โดยตอนแรกดีลนี้เกือบที่จะล่มอยู่แล้ว แต่ "ไก่เดือยทอง" ตัดสินใจเดินเครื่องการเจรจากับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน อีกครั้ง และสุดท้ายก็ตกลงค่าตัวกันได้ที่จำนวน 42 ล้านปอนด์ (ราว 1,764 ล้านบาท) สำหรับ ปอร์โร่  เคยอยู่ฝึกปรือฝีเท้ากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาก่อน แม้จะไม่สามารถแจ้งเกิดได้ แต่เรื่องฝีเท้าเชื่อได้ว่าไม่ธรรมดาจริงๆ 

อิลย่า ซาบาร์นี่ - บอร์นมัธ

เจ้าของใหม่ของบอร์นมัธ คาดหวังที่จะสร้างทีมด้วยการยอมทุ่มเงินเพื่อที่จะคว้าตัวผู้เล่นฝีเท้าพรสวรรค์มาเสริมทัพ โดยพวกเขาควักกระเป๋า 24 ล้านปอนด์ (ราว 1,008 ล้านบาท) ให้กับ ดินาโม เคียฟ เพื่อคว้าตัว ซาบาร์นี่ ซึ่งอายุเพียง 20 ปี และได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะวันเดอร์คิดในวงการลูกหนัง มาเสริมแกร่ง สำหรับนักเตะรายนี้จะพิสูจน์ศักยภาพได้คุ้มค่าหรือไม่ เดี๋ยวจะได้รู้กัน 

เบอนัวต์ บาเดียชิล - เชลซี

ดาวเตะเลือดเฟร้นช์เป็นหนึ่งในนักเตะที่ "เสี่ยท็อดด์" ยอมควักกระเป๋าคว้าตัวมาเสริมทัพในช่วงปีใหม่ โดยนักเตะย้ายมาจาก โมนาโก ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ (ราว 1,470 ล้านบาท) สำหรับแข้งวัย 21 ปีรายนี้ แม้ว่าจะดูเหมือนมีประสบการณ์ไม่มากนัก แต่ความสามารถของเขาได้รับการยกย่องว่าจะเป็นผู้เล่นที่มาสืบทอดตำแหน่งของ ติอาโก้ ซิลวา แนวรับจอมเก๋าชาวบราซิเลียน โดยนักเตะทั้งแข็งแกร่งในการครองบอล ตัดลูกกลางอากาศได้ดีเยี่ยม และมีความนิ่งเกินวัย 

วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น - เลสเตอร์ ซิตี้

เลสเตอร์ ซิตี้ ทำผลงานได้ค่อนข้างน่าผิดหวังในฤดูกาลนี้ และพวกเขาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมแกร่งในแนวรับ โดย "เดอะ ฟ็อกซ์" เลือกที่จะคว้าตัว แบ็กซ้ายดาวรุ่งวัย 20 ปีชาว เดนมาร์ก มาร่วมทัพด้วยค่าตัว 17.5 ล้านปอนด์ (ราว 735 ล้านบาท) โดย คริสเตียนเซ่น สร้างผลงานชั้นยอดให้กับทีมชาติเดนมาร์ก ระดับเยาวชนซึ่งเขาติดธงไปแล้ว 73 ครั้ง และยังเป็นนักเตะตัวหลักของ โคเปนเฮเก้น ด้วย

จอร์จินโญ่ - อาร์เซน่อล

ต้องยอมรับว่านี่คือดีลที่เจ๋งที่สุดในตลาดนักเตะรอบ 2 เพราะ อาร์เซน่อล จ่ายเงินแค่ 12 ล้านปอนด์ (ราว 504 ล้านบาท) ในการคว้านักเตะที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ และความสำเร็จอย่าง จอร์จินโญ่ มาร่วมทัพ ก่อนหน้านี้ "ปืนใหญ่" พยายามที่จะเซ็นสัญญากับ มอยเสส ไคเซโด้ ของ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายมาจบที่การได้ตัว มิดฟิลด์แชมป์ยูโร 2020 มาจากคู่อริร่วมกรุงลอนดอนแทน อย่างที่บอกเอาไว้ว่าเขาเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์ในการคว้าแชมป์ทั้ง ยูโร 2020 , แชมเปี้ยนส์ ลีก, ซูเปอร์ คัพ, คลับ เวิลด์คัพ ฉะนั้นนี่คือการควักกระเป๋าจ่ายเงินที่สุดคุ้มค่าในการได้นักเตะชั้นยอดแบบนี้มาเสริมแกร่ง 

เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ - เชลซี

กองกลางชาวอาร์เจนไตน์ สร้างผลงานดีมีคุณภาพให้กับทีมชาติอาร์เจนตินา ในศึกเวิลด์ คัพ ฉบับกาตาร์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และนั่นทำให้เขากลายเป็นนักเตะเนื้อหอมภายในชั่วเวลาข้ามคืน โดย เฟร์นานเดซ ถือเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงประจำทัวร์นาเมนต์ ที่สำคัญยังมีบทบาทในการช่วย ลิโอเนล เมสซี่ บรรลุฝั่งฝันคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ สำหรับแข้งรายนี้ย้ายจาก ริเวอร์ เพลท มาเล่นกับ เบนฟิก้า ด้วยค่าตัวแค่ 20 ล้านปอนด์ (ราว 840 ล้านบาท) ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ "สิงห์บลูส์" ด้วยค่าตัว 107 ล้านปอนด์ (ราว 4,494 ล้านบาท) ซึ่งเป็นสถิติของสโมสร และสถิติการย้ายทีมที่แพงที่สุดในอังกฤษด้วย 

ชูเอา โกเมส - วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส


วูล์ฟส์ กำลังต้องอยู่ในสถานการณ์ยากสำคัญในลีก ด้วยเหตุนี้พวกเขาจำเป็นต้องเสริมทัพ เพื่อที่จะทำให้ จูเลน โลเปเตกี กุนซือชาวสแปนิช มีขุมกำลังมากพอในการนำสโมสรอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี โดยทัพ "หมาป่า" ดึงนักเตะใหม่มาร่วมทัพ 6 ราย แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ โกเมส สำหรับแข้งรายนี้ย้ายจาก ฟลาเมงโก้ ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ (ราว 630 ล้านบาท) แน่นอนว่าศักยภาพของเขาคงจะเล่นร่วมกับนักเตะชั้นดีของทีมอย่าง รูเบน เนเวส , มาเธอุส นูเนส และ  ชูเอา มูตินโญ่ ได้สบายๆ 

มิไคโล มูดริค - เชลซี

แข้งวันเดอร์คิดชาวยูเครน มีโอกาสได้ย้ายมาสัมผัสความท้าทายใหม่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเขาย้ายจาก ชัคห์ตาร์ โดเน็ทส์ค มาเล่นกับทีมของกุนซือแกรม พอตเตอร์ ด้วยสนนราคาถึง 88 ล้านปอนด์ (ราว 3,696 ล้านบาท) นักเตะได้มีโอกาสลงเล่นเปิดตัวให้กับต้นสังกัดไปแล้ว และโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในแมตช์ที่ปะทะกับ ลิเวอร์พูล ที่สนามแอนฟิลด์ และเกือบที่จะยิงประตูได้ด้วย 

โคดี้ กัคโป - ลิเวอร์พูล

หนึ่งในสตาร์ที่ทำผลงานได้น่าประทับใจในศึกฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการซัดไป 3 ประตูให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ และพาทีมทะลุถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ โดย กัคโป ย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาเล่นกับ "หงส์แดง" ด้วยสนนราคาเบาๆ สบายๆ 45 ล้านปอนด์ (ราว 1,890 ล้านบาท) และถือเป็นแข้งเซอร์ไพรส์ที่ย้ายมาเป็นลูกทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ อย่างไรก็ตามนักเตะยังสร้างผลงานได้ไม่ค่อยโดดเด่นนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพ แต่เชื่อว่าถ้าปรับตัวได้น่าจะฟอร์มกระฉูดเลยทีเดียว 

อองตวน เซเมนโย - บอร์นมัธ

เซเมนโย ย้ายจาก บริสตอล ซิตี้ ทีมระดับเดอะ แชมเปี้ยนชิพ มาเล่นกับ บอร์นมัธ ด้วยค่าตัว 10.5 ล้านปอนด์ (ราว 441 ล้านบาท) โดย ดาวเตะวัย 23 ปี มีโอกาสได้เล่นฟุตบอลโลก 2022 กับประเทศกานา และจากนั้นก็ได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการโยกมาเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี สำหรับแข้งรายนี้มีจุดเด่นก็คือความรวดเร็ว และการจบสกอร์ที่เฉียบคมเด็ดขาด ซึ่งเป็นการเติมเต็มให้กับเกมรุก "เดอะ เชอร์รี่ส์" ได้เป็นอย่างดี 

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X