เสี่ยท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าสัวใหญ่ชาวอเมริกัน คงได้ใจบรรดาแฟนบอลเชลซีมากขึ้นเป็นกอง หลังยอมควักกระเป๋าแบบไม่อั้นเพื่อนำ "สิงห์บลูส์" หวนกลับมาสู่เส้นทางที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ล่าสุดลงทุนจ่ายหนักมากกว่าค่าฉีกสัญญาให้ เบนฟิก้า เพื่อคว้าตัว เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ มาร่วมทัพ ช่วงโค้งสุดท้ายตลาดนักเตะเดือนมกราคม
สตาร์วัย 22 ปีชาวอาร์เจนไตน์ เป็นที่หมายปองของหลายๆ สโมสรรวมทั้ง เชลซี หลังนักเตะโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดช่วย อาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ พร้อมทั้งคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ด้วย
การได้ เฟร์นานเดซ มาเสริมแกร่งย่อมเป็นผลดีกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เนื่องจากตอนนี้พวกเขากำลังเจอวิกฤติในแผงมิดฟิลด์ ฉะนั้นการที่ทีมได้นักเตะเลือดฟ้าขาวมาร่วมทัพจะทำให้ กุนซือแกรม พอตเตอร์ มีออปชั่นในการวางแท็กติกมากยิ่งขึ้น
แล้วระบบไหนที่ พอตเตอร์ จะใช้งาน เฟร์นานเดซ เพื่อให้เหมาะกับทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" ล่ะ? งานนี้ต้องมาวิเคราะห์กัน เพราะหาก เชลซี ใช้งานนักเตะถูกต้องตามตำแหน่ง บอกเลยว่าพวกเขาเหมือน "สิงห์ติดปีก" เลยทีเดียว
ระบบ 4-2-3-1: เฟร์นานเดซ - จอร์จินโญ่/มาเตโอ โควาซิช
ที่ เบนฟิก้า พวกเขามักจะใช้ระบบการเล่นกองกลาง 2 คน โดย เฟร์นานเดซ จะยืนอยู่หลังแนวรุก ซึ่งในระบบแบบนี้จะทำให้นักเตะรับบทบาทเป็นผู้เล่นสไตล์ บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์
การเล่นในตำแหน่งนี้จะทำให้ อดีตดาวเตะริเวอร์ เพลท สโมสรดังในประเทศอาร์เจนตินา มีส่วนเกี่ยวข้องในการเล่นเกมรับมากขึ้น และยังช่วยเติมเกมบุกได้อีกด้วย โดยเขาสามารถเล่นร่วมกับ จอร์จินโญ่ หรือ มาเตโอ โควาซิช
แน่นอนว่าแท็กติกนี้คงจะเหมาะกับ เชลซี ซึ่งตอนนี้ยังขาด เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ยังอยู่ในช่วงรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ เพราะพวกเขาขาดกองกลางที่ช่วยในการขับเคลื่อน และสร้างความหลากหลาย
ระบบ 4-3-3 : เมสัน เมาท์/มาเตโอ โควาซิช - จอร์จินโญ่ - เฟร์นานเดซ
สำหรับระบบการเล่น 4-3-3 น่าจะสามารถดึงศักยภาพของ เฟร์นานเดซ ออกมาได้อย่างเต็มที่ โดยเขาแจ้งเกิดจากการถูกจับไปยืนทางฝั่งขวาของแผงมิดฟิลด์ในระบบนี้สมัยที่อยู่กับ ริเวอร์ เพลท
สำหรับระบบนี้ เฟร์นานเดซ จะมีอิสระในการเล่นมากขึ้น และทำให้เขาได้ใช้ประโยคจากความสามารถด้านเกมรุกอย่างเต็มที่ ซึ่งนี่เป็นจุดสำคัญสำหรับ เชลซี เพราะในยุคของพอตเตอร์พวกเขามีสไตล์การเล่นที่จืดชืด, ขาดแรงบันดาลใจ และไม่กล้าเสี่ยงในการเล่น
ถ้าหากจับ เฟร์นานเดซ ไปยืนตรงกลางฝั่งขวา นั่นจะเป็นการเปิดโอกาสให้เขาได้ประสานงานกับ ริซ เจมส์ ตอนที่นักเตะหายเจ็บกลับมาลงสนามได้แล้ว งานนี้ลองนึกภาพทั้งสองคนเล่นร่วมกันคงจะน่าตื่นเต้นขนาดไหน
ระบบ 3-4-2-1 : เบน ชิลเวลล์/มาร์ก กูกูเรย่า - เฟร์นานเดซ - จอร์จินโญ่/มาเตโอ โควาซิช- ริซ เจมส์/เซซาร์ อัซปิลกวยต้า
บทบาทการเล่นที่ดึงศักยภาพของ เฟร์นานเดซ ออกมาได้อย่างเต็มที่นั่นก็คือการเล่นแบบ บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ ด้วยการใช้แท็กติก 3-4-2-1 หรือจะเล่นอีกแท็กติกด้วยการใช้กองกลาง 2 คนก็ได้
ตอนที่เล่นให้กับ อาร์เจนตินา และ เบนฟิก้า มีการปรับมาใช้แท็กติก 4-4-2 นั่นทำให้ เฟร์นานเดซ์ ต้องรับผิดชอบมากขึ้นในการช่วยเพื่อนร่วมทีมในแผงมิดฟิลด์ โดยเขาต้องลงมาช่วยเกมรับมากขึ้นและไม่สามารถเล่นเกมบุกได้เต็มที่
สำหรับ พอตเตอร์ ถือเป็นกุนซือที่ชื่นชอบระบบการเล่น 3-4-2-1 อยู่แล้ว และการได้ เฟร์นานเดซ มาเสริมทัพ จะเป็นการเติมเต็มจิ๊กซอว์ที่เขาต้องการเพื่อทำให้แท็กติกนี้สมบูรณ์แบบ
ทอมเม้ง