รู้จัก "มิโตมะ" เจ้าชายแห่งคานางาวะ ผู้ปลิดชีพเครื่องจักรสีแดงน้ำตาร่วง

รู้จัก "มิโตมะ" เจ้าชายแห่งคานางาวะ ผู้ปลิดชีพเครื่องจักรสีแดงน้ำตาร่วง
ยังช็อกตาตั้งไม่หายกับเกมช่วงค่ำเมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา กับเกมรอบ 4 ฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งเมืองผู้ดีอังกฤษ "เอฟเอ คัพ" เพราะแชมป์เก่าลิเวอร์พูล บุกไปพ่าย ไบรท์ตัน 1-2 แถมโดนประตูช่วงนาทีบาปทดเจ็บท้ายเกมอีก

เรียกได้ว่าเด็กหงส์ทุกหมู่เหล่าในดินแดนสยามเมืองยิ้ม คงรู้สึกกระอักเลือดตาแทบกระเด็น เพราะเกมมีทีท่าจะจบด้วยผลเสมอและไปรีเพลย์กันใหม่ที่แอนฟิลด์ แต่มิวายถูกนักเตะชาวอาทิตย์อุทัยอย่าง "คาโอรุ มิโตมะ" โชว์เทคนิคอันเลือดเย็นซัดประตูชัย

ดาวเตะสายเลือดซามูไรวัย 25 ปี กลายเป็นที่รู้จักแก่บรรดาแฟนบอลลิเวอร์พูลมากขึ้นไปอีก แม้ก่อนหน้านี้จะรู้จักกันพอสังเขปอย่างดีอยู่แล้ว ว่าแข้งญี่ปุ่นรายนี้ฝีเท้าช่างจัดจ้านทั้งสปีดต้น ความเร็วสายฟ้า ความคล่องตัวที่พลิ้วไหวสูงเหลือเกิน

ถ้าไม่เชื่อลองไปถาม เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ดูได้ !

เพียงแค่ฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีกของ "มิโตมะ" สามารถปรับตัวได้ไวกับสไตล์บอลอังกฤษ โชว์ผลงานปราดเปรื่องไม่เกรงกลัวใคร งัดฝีไม้ลายมือศาสตร์ลูกหนังในตัวออกมาหมดเปลือก นี่คือความเป็นใจนักสู้ เลือดญี่ปุ่นขนานแท้ในวงการฟุตบอล จนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก

คาโอรุ มิโตมะ เป็นที่รู้จักของแฟนบอลชาวไทยนับตั้งแต่ Siamsport ได้ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลเจลีก ประเทศญี่ปุ่น และถ่ายคู่ที่คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ลงสนามอยู่บ่อยครั้ง และด้วยฟอร์มที่โดดเด่นเหลือเกินของเขา ทำให้เป็นที่รู้จักได้ไม่ยากเลย

"มิโตมะ" เกิดที่ "คาวาซากิ" นครที่อยู่ในจังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ปี 1997 และเริ่มเข้าสู่เส้นทางฟุตบอลอคาเดมี่กับ ซากินุมะ เอสซี และถูกคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ดึงตัวมาในช่วงอายุ 10 ขวบ และอยู่สโมสรมาตั้งแต่ปี 2007-2015

กระทั่งปี 2016 "มิโตมะ" ได้เข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยทสึคุบะ ในจังหวัดอิบารากิ ซึ่งเป็นสถาบันนอกเหนือจากการศึกษาแล้ว ยังเป็นมหาวิทยาลัยฟุตบอลชั้นนำของญี่ปุ่นด้วย ก่อนที่จะจบการศึกษาในปี 2019 "มิโตมะ" ได้ทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกฟุตบอลด้วย เรียกได้ว่าเอาจริงเอาจังกับเรื่องฟุตบอลเหลือเกิน

หลังจากสำเร็จการศึกษา "มิโตมะ" ได้เดบิวต์ลีกสูงสุดของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก โดยการคัมแบ็กเล่นให้กับคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ในปี 2020 และเพียงแค่ปีเดียวเขาได้จารึกชื่อกับพลพรรค "โลมามหากาฬ" ด้วยการคว้าแชมป์เจลีก 2020 ทันที โดย "มิโตมะ" ลงสนามไป 30 นัด ยิง 13 ประตู กับ 13 แอสซิสต์

เท่านั้นไม่พอในปีเดียวกันยังมีส่วนช่วยพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์อีกถ้วยคือ "เอ็มเพอเรอร์ คัพ" จึงทำให้ "มิโตมะ" มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมเจลีก ญี่ปุ่น ปี 2020 โดยฝากผลงานลงสนามในซีซั่น 2020 รวมทุกรายการไปทั้งหมด 37 นัด ยิงไป 18 ประตู กับ 14 แอสซิสต์

แชมป์สุดท้ายของ "มิโตมะ" กับฟรอนตาเล่คือการคว้าถ้วยฟุตบอล "ฟูจิ ซีร็อกซ์ ซูเปอร์คัพ 2021" หรือศึกแชมป์ชนแชมป์ กระทั่งวันที่ 11 ส.ค.ปี 2021 สโมสรไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตัดสินใจคว้าตัว "มิโตะมะ" เข้ามาร่วมทีมด้วยสัญญาระยะยาว 4 ปี

โดยขุนพล "นกนางนวล" ถูกส่งไปเล่นลีกดิวิชั่น 2 ของเบลเยียมกับ รอยัล ยูเนียน แซงต์-จิลอยส์ ในสัญญายืมตัวตลอดฤดูกาล 2021-22 เพื่อให้ปรับตัวเข้ากับฟุตบอลยุโรป ก่อนจะฝากผลงานลงสนาม 21 นัด ยิงไป 5 ประตู กับ 4 แอสซิสต์

ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยม ไบรท์ตัน จึงได้จัดการดึงตัวกับสู่ต้นสังกัดบู๊ศึกพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2022-23 ทันที จนถึงตอนนี้เขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 14 นัด ทำไป 4 ลูก กับ 1 แอสซิสต์ แถมยิงครบทุกรายการทั้งฟุตบอลถ้วยคาราบาว คัพ (3 นัด 1 ลูก) และเอฟเอ คัพ (2 นัด 1 ประตู 1 แอสซิสต์) 1 ตุงที่ยิงได้ก็มาจากการยิงใส่ "หงส์แดง" นั่นเอง

เรียกได้ว่าผลงานอันร้อนฉ่าของ "คาโอรุ มิโตมะ" เจ้าชายแห่งคานางาวะ ในอนาคตอันใกล้หากยังโชว์ฝีเท้าพัฒนาขึ้นไปอย่างไม่หยุดหย่อน สโมสรใหญ่ๆของยุโรปคงไม่อยู่เฉย และพร้อมแย่งกันล่าลายเซ็นต์ ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นรายนี้แน่นอน !

 "กอล์ฟ เบนเทเก้ "


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport