หลังจากสะดุดจนหัวแทบทิ่มบ่อในเกมล่าสุด
อืมมมม...แทนที่จะไล่บี้จ่าฝูงเหลือ 6 แต้ม กลายเป็นไล่ตามถึง 8 แต้ม แถมแข่งมากกว่า 1 นัด มิซ้ำยังต้องบุกไปเยือน อาร์เซน่อล ในวันอาทิตย์นี้ โดยไม่มี กาเซมิโร่ ที่ติดโทษแบน
ต่อไปคือ 'ความหวังที่เหลืออยู่' ของเด็กผีอย่างผมในฤดูกาลปัจจุบัน
1.ท่องเอาไว้ว่า เอริค เทน ฮาก กำลังสร้างทีมใหม่พลางวางระบบและรูปแบบการเล่น จำเป็นต้องใช้เวลา แต่ผ่านไปแค่ครึ่งปีมาได้ถึงขนาดนี้ ถือว่าเร็วกว่าที่คิดเยอะเลยนะครับ
ฉะนั้นขอแค่กลับมาติด 'ท๊อปโฟร์' ก็พอ อย่าเพิ่งไปหวังถึงลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก
เรียนตามตรงว่ายังเร็วไป
2.คว้าแชมป์ 'น้าแอ๊ด คัพ' ให้ได้เพียงเท่านั้น
เพราะทะลุมาถึงรอบตัดเชือกแล้ว แถมคู่แข่งคือ ฟอเรสต์ และหากเข้าชิงฯ ก็จะเจอผู้ชนะระหว่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กับ เซาธ์แฮมป์ตัน
มันจึงไม่อนุญาตให้เป็นอื่น หากไม่ได้แชมป์รายการนี้ ขอบอกครับว่า...เสียหมา
3.เอฟเอ คัพ กับ ยูโรปา ลีก ยังจัดว่าเป็นงานยากอยู่
ถ้วยแรกน่าจะหลุดไปถึงรอบ 5 ได้ก็จริง เพราะรอบ 4 เจอ เรดดิ้ง ในบ้าน แต่เส้นทางยังเหลืออีกยาวไกล แถมรายการนี้ไม่เข้าใครออกใคร
ส่วนถ้วยเล็กยุโรปก็หนัก เพราะนอกจาก บาร์เซโลน่า จะฟอร์มร้อนแรง แมนฯ ยูไนเต็ด ยัง 'แพ้ทาง' ทีมเลือดหมูน้ำเงินอีกตะหาก หรือต่อให้ผ่านรอบเพลย์ออฟได้ก็ยังมี อาร์เซน่อล เป็น ก.ข.ค.
...ว่าแล้วอย่าเพิ่งไปตั้งความหวังอะไรมาก
4.เอาใจช่วย ลิเวอร์พูล ให้หลุดท๊อปโฟร์ และแชมป์พรีเมียร์ลีก คือ อาร์เซน่อล
อันนี้ถือเป็นความสำเร็จในอีกรูปแบบหนึ่งของปีศาจแดงในมุมมองของผมนะครับ
เพราะ 2 ทีมนี้คือคู่แข่งสำคัญที่สุด ทีมหนึ่งคือคู่แค้นตลอดชาติ ทีมหนึ่งคือคู่แค้นร่วมเมืองที่ช่วงหลังตกเป็นเบี้ยล่างพวกเขามาตลอด
อย่างน้อย ถ้าฉันไม่ได้ดี แกก็อย่าหวังจะได้ดีอีนางสารภี (ออกแนวตัวอิจฉาในละครน้ำเน่าโง่ๆ) ฮรี่ๆๆๆๆ
5.ไม่แพ้ในศึกแดงเดือดที่ แอนฟิลด์ และอันดับในตารางพรีเมียร์ลีกสูงกว่าพวกพรี่ๆ
ข้อนี้คงไม่จำเป็นต้องอธิบาย เพราะหากไม่ประสบความสำเร็จในรูปแบบของถ้วยรางวัล การไม่แพ้ และอันดันสูงกว่าก็ยังพอจะช่วยเยียวยาหัวใจได้บ้าง
ขอความกรุณาพวกพรี่ๆ อย่าโกรธผมเลยนะครับ เพราะในทางกลับกัน ด้วยโทษฐานของคู่ขับเคี่ยวสำคัญ พวกพรี่ๆ ย่อมต้องคิดแบบนี้เช่นกัน...ชิมิคะ
บอ.บู๋